ประเทศใดหรือองค์กรใดที่สามารถสร้างความเป็นเอกภาพได้ให้เป็นหนึ่งจะก้าวไปสู่ความเป็นผู้นำหรือการก้าวไปสู่ความสำเร็จได้ เชื่อว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดความเป็นเอกภาพหรือเสถียรภาพดังกล่าวได้ร้อยละ 50 มาจาก "ผู้นำ" ซึ่งก็แบ่งอีกว่ามีปัจจัยอะไรที่มาเชื่อมโยง เช่น ความรู้ ความสามารถ การบริหาร หรือความมีภาวะผู้นำในตนเอง และปัจจัยที่สำคัญคือการที่ได้รับความไว้วางใจ เชื่อมั่นและให้โอกาส จากทีมงาน
แต่เมื่อใดที่ภาวะที่บ้านเราถูกแบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย จากวิถีการเมืองที่ครอบงำและแผ่อิทธิพล ทำให้แทบทุกสังคม ทุกองค์กรแยกฝ่ายออกจากกัน เหลือแต่คนที่ยังไม่คิดหรือไม่สามารถเลือกขั้วได้หรือด้วยใจที่เป็นธรรมจึงยืนอยู่ท่ามกลางความสับสนปนความขัดแย้ง
สิ่งนี้แม้ไม่ใช่สิ่งดีนักแต่ก็สามารถนำมาเป็นปัจจัยเอื้อต่อการพัฒนาได้ พัฒนาตัว พัฒนาตน พัฒนาจิต ให้รู้จัก....พัฒนาองค์กรให้ก้าวไปยังจุด ๆหนึ่งที่ไกลออกไป องค์กรในโลกนี้หาได้น้อยนักที่จะไม่มีความขัดแย้งใด ๆเลย ประเทศใด ๆในโลกนี้ล้วนเช่นกัน ไม่นั่นนิดก็นี่หน่อย...
ยิ่งในยุคประชาธิปไตยที่เบ่งบาน ประชาธิปไตยนั้นไม่ได้บอกว่าผู้ที่มากกว่าเป็นฝ่ายที่ถูกต้องทั้งหมด ด้วยกติกาที่ให้ผู้ที่มีจำนวนมากกว่าเป็นฝ่ายที่กุมอำนาจไว้แต่ไม่ได้บอกว่าถูก ดังนั้นในระบอบประชาธิปไตยจึงเลี่ยงไม่ได้ในเรื่องความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ ความเห็นที่แตกต่าง
ทำอย่างไรจึงสามารถดำรงอยู่ ทำอย่างไรจึงก้าวต่อไปในสภาวะการณ์เช่นนี้ อ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อ.ประจำภาควิชาการเมืองการปกครอง ม.ธรรมศาสตร์(ถ้าจำไม่ผิด) และคณะผู้ร่วมรายการ "เวทีสาธารณะ" ทางช่องทีวีไทย บอกว่า หากในประเทศใดหรือองค์กรใด ประสบภาวะนี้ต้องยึกหลักสำคัญในการอยู่ร่วมกันในระบอบประชาธิปไตยไว้คือ
1)คนเราสามารถที่จะคิดไม่เหมือนกันได้ ถกเถียงกันได้ ทะเลาะกันได้แต่ต้องไม่ทำร้ายกันและกัน ต่างกันได้โดยไม่ใช่ศัตรู 2)ทุกคนที่มีบทบาทหน้าที่ มีความรับผิดชอบต้องทำงานหรือแสดงความรับผิดชอบในงานหน้าที่ของตนเอง รวมถึงคำนึงถึงบทบาทหน้าที่ของคนอื่นด้วย คือต้องให้เขาทำหน้าที่ของเขา ทำตามบทบาทของเขา โดยไม่ปิดกั้น 3)เคารพในสิทธิของฝ่ายตรงข้าม ให้เกียรติ และทำตามกติกา
หากประเทศเรา องค์กรเราสามารถคิดและเข้าใจในหลักการง่าย ๆนี้ได้
ก็ไม่ต้องกลัวความขัดแย้งครับ ขัดแย้งได้แต่ไม่ใช่ศัตรูครับ
สมัยก่อนสุนัขเจอแมวเมื่อไร"กัด"กันทุกที สมัยนี้"กินนม"ยังได้เลย เห็นปล่ะ??!!
เห็นด้วยค่ะ คนเราสามารถที่จะคิดไม่เหมือนกันได้ ถกเถียงกันได้ ทะเลาะกันได้แต่ต้องไม่ทำร้ายกันและกัน ต่างกันได้โดยไม่ใช่ศัตรู
ในมุมมองของหนู เราอาจมีความต่าง แต่ บนเส้นทาง...ความมีเหตุผลค่ะ
สวัสดีครับคุณครูสายธาร
ระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่ไม่ดีเนาะ?
คนในระบอบไม่ค่อยเข้าใจต่างหาก
เมื่อไม่เข้าใจ...อะไร ๆก็ตามมา
แต่พอเข้าใจ...อะไร ๆก็จบ
ต้องเปิดใจที่จะยอมรับและให้เกียรติเสียงส่วนใหญ่ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากคนส่วนน้อยใช้ช่องว่างของกฏหมาย มาแสดงบทบาทให้คนอื่นเห็นความสำคัญของตนเอง
( อย่าว่ากันนะครับความเห็นส่วนตัว )
ผมว่า คำว่า " ศัตรู " เขียนอย่างนี้นะครับ
สวัสดีครับ
ผมว่ารัฐสภาไทยก็เป็นตัวอย่างได้นะครับ
น้อยมากที่จะทะเลาะจนขั้นตบตีขณะอยู่ในสภา
ขอบคุณครับผมพิมพิมพ์ผิดบ่อยมาก ๆกับคำนี้ครับ "ศัตรู"
อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณหมอกะท้อน
* สบายดีนะคะ บรรยากาศปายช่วงนี้เป็นไงบ้างคะ
* ... อีกไม่นาน ก็เริ่มล่องแพ ได้แล้ว? คะ
- - เห็นด้วยนะคะ กับ - -
ก็ไม่ต้องกลัวความขัดแย้งครับ ขัดแย้งได้แต่ไม่ใช่ศัตรูครับ
... แบบ Unity in Diversity .. ใช่ไหมคะ
... มีความสุขกับ สีสัน แห่งความแตกต่างที่สร้างสรรรค์ค่ะ