ต่อจากตอนที่แล้ว เล่าเรื่องโดยคุณปัทมาวดี เติมวิเศษ
ในเวทีแสดงความชื่นชมยินดีกับผู้ได้รับรางวัล และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ที่นำมาสู่ความสำเร็จ ซึ่งถูกจัดขึ้นอย่างไม่เป็นวิชาการมากนัก เลียนรูปแบบของรายการโทรทัศน์ทางช่อง 9 รายการ VIP ที่มีคุณพอล - ภัทรพล ศิลปาจารย์ และคุณตุ๊ก- ญาณี จงวิสุทธ์ เป็นพิธีกร
ขอเรียกรายการนี้ว่า VIP บำราศ “ เมื่อพวกเราทำดี ” ด้วยความเป็นพิธีกรมืออาชีพของ คุณศุภลักษณ์ หิริวัฒนวงศ์ และ พิธีกรมือใหม่แต่ใจเกินร้อย ของ คุณกรุณา ลิ้มเจริญ ซึ่งเตรียมตัวและทำการบ้านมาอย่างดี ทำให้บรรยากาศของเวทีนี้ เต็มไปด้วยความสนุกสนาน จากเสียงหัวเราะเป็นระยะๆของผู้ชม ( ซึ่งก็คือบุคลากรสถาบันบำราศนราดูร เกือบ 200 ชีวิต ) และความประทับใจ ซาบซึ้ง จนอาจขโมยน้ำตาของใครหลายๆคนในห้องนั้นได้
VIP บำราศ มีเป้าหมายที่มากกว่าการแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับรางวัล นั่นคือต้องการจุดประกาย ให้กับบุคลากรของสถาบันให้ เห็นคุณค่าและ ศักยภาพของตัวเอง สร้างแรงบันดาลใจ ให้อยากทำความดี มีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น สำนึกรักองค์กร และเต็มใจในการให้บริการ โดยผ่านเรื่องเล่าจากประสบการณ์ของผู้ที่ประสบความสำเร็จ จนได้รับสิ่งตอบแทนความดีโดยที่มิได้คาดหวังมาก่อน
บุคคล สองท่านที่เป็นแขกรับเชิญของ VIP บำราศ เป็นผู้ที่ทำงานอย่างทุ่มเท ด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่น ภายใต้พื้นฐานความเป็นวิชาชีพตามสาขาที่ร่ำเรียนมา ด้วยความดีที่สะสมมาเป็นเวลากว่า 20 ปี รางวัลที่ได้รับจึงนำมาซึ่งความภาคภูมิใจ ความปลื้มปิติ ทั้งตนเองและสถาบัน ความดีของทั้ง สองท่านถูกประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้ผ่านสื่อต่างๆ เช่นหนังสือพิมพ์ วารสาร การประชุม และ เวทีสัมมนา
คุณบุญช่วย เอี่ยมโภคลาภ กับรางวัลนักเทคนิคการแพทย์ดีเด่น
เพลงคนเก่งคนดี
ปาเจรา จริยา โหนติ คุณุ ตรานุสาสกา
ด้วยความรักและห่วง ห่วงใยดังลูกแท้ๆ เฝ้าอบรมดูแล ด้วยใจ ไม่ได้หวังเงินทอง ไม่ต้องการสิ่งไหน ก้อหวังเพียงให้เจ้าได้มีความรู้
จะเป็นเหมือนสะพาน ให้เจ้าข้ามสู้จุดหมาย นี่คือความตั้งใจของครู โลกใบนี้กว้างใหญ่ มากมายที่เจ้าต้องรู้ เจ้าจงเรียนรู้เพื่อวันต่อไป
* จงตั้งใจให้เป็นคนเก่งคนดี เจ้าไป ได้ดีโชคดี ครูก็สุขใจ แต่อย่าเอาความรู้ไปคดโกงใคร จงใช้ชีวิตบนความดีงาม
คอยจ้ำจี้จำไช ให้เจ้านั้นอ่านนั้นเขียน ผิดก็คอยเฝ้าเตือนเรื่อยมา เจ้าคงคิดคงบ่น ว่าอะไรนักหนา เด็กน้อยวันหนึ่งเจ้าจะเข้าใจ
( * ) แต่อย่าเอาความรู้ไปคดโกงใคร จงใช้ชีวิตบนความดีงาม
แรงบันดาลใจในการทำงาน
“ ผล Lab ห่วย ” คำพูดนี้ ทำให้รู้สึกเจ็บไปถึงหัวใจ ด้วยภาพพจน์ของนักเทคนิคการแพทย์ สมัยที่ผมจบมาทำงานใหม่ๆ ในสายตาของแพทย์ ไม่ค่อยจะดีนัก ความเชื่อถือกับผล Lab มีน้อย คำสบประมาท ที่เป็นแรงผลักแรงดันทำให้ผมตั้งใจไว้เลยว่าจะต้องทำให้เก่ง ให้ดี ให้แพทย์ยอมรับให้ได้
ใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา เป็นสิ่งสำคัญ การทำงานต้องหมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม โลกมีวิวัฒนาการ มีการพัฒนาตลอดเวลา หากหยุดนิ่งเราไม่สามารถตามทันโลกได้ จึงจำเป็นต้องพัฒนาตนเองให้ทันยุคทันเหตุการณ์เสมอ งานตรวจทางห้องปฏิบัติการ เวลาย้อมสี /เพาะเชื้อสิ่งส่งตรวจต่างๆ อย่าทำแค่ตามคำสั่งเท่านั้น ให้พินิจพิจารณาผลที่ออกมานอกเหนือจากคำสั่งนั้นด้วย เช่นคนไข้มีอาการทางปอดแพทย์คิดว่าเป็นปอดอักเสบ ส่งเสมหะย้อมสี Gram แต่พบเชื้อวัณโรคที่ไม่ติดสี ถ้าย้อม AFB จะติดสีแดง จึงย้อม AFB เพิ่มและรายงานผลให้ หรือการตรวจพบเชื้อ Cryptococcus จากเสมหะ หนองจากต่อมน้ำเหลืองหรือในอุจจาระ สิ่งเหล่านี้นอกจากได้เรียนรู้แล้วยังช่วยให้การวินิจฉัยโรคได้ตรงจุดมากขึ้น
ปัญหาอุปสรรคคือโอกาสพัฒนา ไม่ว่าจะทำงานอะไร ปัญหาอุปสรรคเป็นสิ่งอยู่คู่กับการทำงานกัน ระลึกไว้เสมอว่า ปัญหาและอุปสรรค เป็นสิ่งท้าทายทำให้มีโอกาสให้ได้พัฒนาตนเอง ฉะนั้นต้องไม่ท้อถอยเมื่อเกิดปัญหาอุปสรรคขึ้น สำหรับคุณบุญช่วย มีผู้หวังดีให้ข้อคิดไว้ว่า “รพ. จ้างเธอมาเป็นหัวหน้า เพื่อแก้ปัญหาให้เขา ถ้าไม่มีปัญหาเขาคงไม่จ้างเธอฉะนั้นจงแก้ปัญหาอย่างดีที่สุด อย่ามีความทุกข์เพราะปัญหานั้น”
ความร่วมมือร่วมใจจากทีมงาน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้งานประสบความสำเร็จ คนเราไม่สามารถทำงานเพียงคนเดียวได้ ควรให้ความสำคัญกับทีมงานด้วย คุณบุญช่วยเป็นผู้หนึ่งที่ให้ความสำคัญกับทีมงาน จากประโยคที่ว่า “ ข้าวพันธุ์ดี ที่นาต้องดีด้วย. ..............ที่ผมเป็นผมเช่นทุกวันนี้ ได้รับรางวัลนี้ ไม่ใช่เพราะผมเก่งเพียงคนเดียว ต้องมีหลายๆสิ่งที่ประกอบกันไม่ว่าจะเป็นผู้ป่วยเอชไอวี/เอดส์ หมอ ผู้มาศึกษาดูงานทั้งชาวไทยและต่างชาติ ...... ผมต้องขอบคุณทุกๆคน ขอบคุณผู้บริหารที่เคี่ยวเข็ญ ขอบคุณคุณหมอทุกท่าน ทีมงาน พี่ๆน้องๆชาวบำราศ รวมทั้งคนไข้ทุกคนที่ทำให้ผมได้เป็นเช่นวันนี้ ”
จากวิดิทัศน์ คุณอัญชนา ทีมงานบอกว่า “ แม้เหนื่อยยากในช่วงแรก หัวหน้า(หมายถึง คุณบุญช่วย) คอยเคี่ยวเข็ญ แต่ผลที่ออกมาคุ้มค่า เป็นที่กล่าวถึง เป็นความต้องการของหลายๆหน่วยงานอยากมาศึกษาดูงาน คำชื่นชมทำให้เราภาคภูมิใจ ที่ทุ่มเทไปไม่สูญเปล่า เป็นกำลังใจที่ดี”
คุณสว่าง ไชยศักดา ทีมงานอีกท่านหนึ่งกล่าวว่า “ ... งานบริการทางห้องปฏิบัติงานและงานคุณภาพต้องทำควบคู่กันไปเสมอ เพราะถ้าระบบดี คุณภาพดีทำให้เรามั่นใจในการทำงาน แรกๆก็อึดอัดเหมือนงานคุณภาพมาควบคุมการทำงานแต่พอเห็นประโยชน์ ทีมงานที่เข้มแข็ง หัวหน้าที่มุ่งมั่น ก็ไม่ท้อ แม้เพียง 4 ปี ดิฉันจะเกษียณแล้ว ก็ยังมีไฟอยู่ ”
คุณบุญช่วยทิ้งท้ายไว้ว่า “ การทำงานคุณภาพ เปรียบเหมือนการปลูกต้นไม้ ฝังเมล็ดลงไป ในดิน รดน้ำพรวนดิน หมั่นทำทุกวันรอจนกว่าถึงวันที่มันจะออกดอกออกผล เมื่อมันออกดอกออกผล เราก็จะเก็บผลประโยชน์จากตรงนั้นได้ ก็คือเราต้องยอมเหนื่อยกับมันก่อน” จงทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด คิดถึงผู้รับบริการเป็นสำคัญ
ไม่มีความเห็น