การเรียนรู้โดยธรรมชาติของชาวบ้าน


ผู้ใหญ่คนใดก็ตามจะสามารถอ่านหนังสือได้ภายใน 40 ชั่วโมง ถ้าคำแรกที่เขาอ่านออกเป็นคำที่มีความหมายทางการเมือง

เริ่มต้นงานใหม่ชิ้นหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้พี่ๆ น้องๆ บนดอยที่ไม่มีโอกาสหรือไม่ต้องการเรียนในระบบ

คุณพี่จุ๊ ศริณทิพย์ ที่ปรึกษาใจดีก็หยิบการบ้านมาให้อ่าน เป็นหนังสือของ IVAN ILLICH ชื่อ "DESCHOOLING SOCIETY" หรือชื่อไทยว่า "ที่นี่ไม่มีโรงเรียน" 

มีข้อที่ประทับใจมากเพราะตรงกับสิ่งที่กำลังพยายามทำอยู่ตอนนี้ เลยขอเอามาแบ่งปันตรงนี้ โดยเฉพาะสำหรับคุณครูอาบ่า และคุณครูนาสอ ที่กำลังเริ่มปรับจากการเป็นครูในระบบโรงเรียนบนดอย มาสู่การเป็นครูนอกระบบ และต้องสอนผู้ใหญ่ด้วย จึงต้องปรับหลายอย่างโดยเฉพาะวิธีคิดและวิธีการ

หนังสือกล่าวถึงครูชาวบราซิล ชื่อ เปาโล แฟรร์ (Paulo Freire) ที่ค้นพบว่า "ผู้ใหญ่คนใดก็ตามจะสามารถอ่านหนังสือได้ภายใน 40 ชั่วโมง ถ้าคำแรกที่เขาอ่านออกเป็นคำที่มีความหมายทางการเมือง

แฟรร์ฝึกครูของเขาให้ตระเวนไปตามหมู่บ้าน เพื่อค้นหาถ้อยคำที่สามารถครอบคลุมประเด็นที่มีนัยสำคัญในขณะนั้นได้ เช่น การขุดบ่อน้ำ ดอกเบี้ยสะสมจากหนี้สินที่มีอยู่กับผู้อุปถัมภ์ พอตกค่ำชาวบ้านจะนัดพบกันเพื่อถกเถียงถ้อยคำสำคัญเหล่านั้น

พวกเขาจะเริ่มตระหนักว่าความหมายของแต่ละถ้อยคำยังคงปรากฎอยู่บนกระดานดำ แม้เสียงอ่านของมันจะเลือนหายไปแล้ว ตัวอักษรเหล่านั้นจะไขแสดงความจริงต่อไป และช่วยให้เข้าใจสภาพความจริงนั้น ในฐานะที่เป็นปัญหาที่แก้ไขได้

บ่อยครั้งที่พบว่าชาวบ้านที่มาเรียนด้วยการอภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันแบบนี้ มีการตื่นตัวทางสังคมมากขึ้นและสามารถมีบทบาททางการเมือง หลังจากที่พวกเขาอ่านหนังสือได้แล้ว ดูเหมือนว่าชาวบ้านเหล่านี้จะถือความจริงอยู่ในมือ เมื่อพวกเขาเขียนความจริงนั้นลงเป็นตัวหนังสือ"

คงเป็นกำลังใจได้บ้างนะว่า สิ่งที่พวกเรากำลังพูดๆ และพยายามทำกันอยู่นี้ คนอื่นๆ ที่อื่นๆ เขาก็คิดก็ทำกันมานานแล้ว และได้ผลดีด้วย ขอให้มั่นใจนะ เป็นกำลังใจในการเดินต่อไปด้วยกันนะจ้ะ !!

หมายเลขบันทึก: 185129เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2008 14:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 19:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เมื่อวานได้ทดลองสอนผู้ใหญ่ด้วยวิธีนี้ ดูทุกคนสนุกและร่วมมือร่วมใจเรียนรู้ดีมาก

ได้นำด้วยดีวีดีเรื่อง ประเพณีโล้ชิงช้า แล้วให้ผู้เรียนพูดถึงคำต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วเราก็ช่วยเขียนเป็นภาษาไทยบนกระดาน ให้ทุกคนอ่านตามและบันทึกลงสมุด พร้อมๆ กับแลกเปลี่ยนประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

คนเรียนสนุกคนสอนก็สนุกและมีกำลังใจดีมากค่ะ

ต้องไม่ลืมด้วยว่า "จอบหนักกว่าปากกา" เยอะเลย

การสอนให้เขียน จึงยากมาก และเทียบกันไม่ได้กับงานที่ผู้ใหญ่คุ้นเคย จึงไม่ควรเน้นที่การเขียนตั้งแต่เริ่มแรก เน้นการพูดและฟังก่อนจึงจะดี

แต่ที่น่าสนใจก็คือ "ความตั้งใจจริง" ของผู้ใหญ่ ที่อยากเรียนรู้ จะเป็นตัวช่วยที่สำคัญมากๆ ของคุณครูของเรา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท