@..มรณานุสสติกรรมฐาน...@


ชีวิตกับความตาย

 

  ชีวิตเป็นของน้อย ห้อยแขวนอยู่กับลมหายใจความเป็นกับความตายนั้นอยู่ติดกันห่างเพียงลมหายใจกั้น เมื่อใดกำแพงแห่ง ลมหายใจทลายลงเมื่อนั้นความเป็นก็ข้ามไปสู่ความตาย ภายหลังการเสียชีวิตไม่กี่ชั่วโมง ร่างกายของคนที่ตายจะค่อยๆเน่า และเริ่มส่งกลิ่นเหม็นธาตุทั้งหลายที่เคยประชุมกันให้เป็นที่ยึดถือแห่ง อำนาจอวิชชาว่าเป็นตัวเป็นตนจะค่อยๆกระจัดกระจายไปตามธรรมชาติดั้งเดิมของ มันเนื้อหนังจะค่อยๆเปื่อยยุ่ย ไปตามลำดับ..คงเหลือเพียงกระดูกเท่านั้นที่จะเปื่อยยุ่ยช้ากว่าส่วนอื่นๆ เพราะมีธาตุปูนประกอบอยู่ด้วยเป็นส่วนมาก....แต่แม้กระดูกจะทนทานปานใด ก็ต้องผุพังไปตามกฏอนิจจลักษณ์ของธรรมชาติเช่นกัน ไม่มีอำนาจวิเศษใดๆในโลกนี้หรือในจักรวาลไหนๆจะสามารถรักษาร่างกายมนุษย์ให้ คงอยู่เป็นอมตะตราบนิรันดร์กาล คงมีเพียงคนที่"หลงโลก"อยู่เท่านั้นที่จะถูกอำนาจ"อุปาทาน"(ความยึดมั่นถือ มั่น)สร้างกรงขังปิดล้อมจิตใจไว้ให้ต้องวนเวียนอยู่ในห้วงทุกข์ เนิ่นนานตราบถึงนาทีสุดท้ายแห่งชีวิต.ความตายเป็นเหมือนตะเกียงที่น้ำมัน แห้ง ไปหมดแล้ว ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะอยู่ ยั่งยืนถาวรได้เราท่านทั้งหลายจะยอมรับต่อความตายได้ด้วยความมั่นใจได้หรือ ยัง"..ก่อนความตายจะมาถึงเราท่านก็ต้องมาสร้างกุศลกรรมด้วยการ..รักษาศีล5ละ เลิกอบายมุข..เหล้าบุหรี่หวยการพนันอันเป็นต้นเหตุเเห่งความเสื่อมความสูญ เสีย..เงินทอง เวลา สุขภาพและจิตวิญาณ..หมั่นเสียสละวัตถุ ข้าวของ ความรู้ ความ

สามารถเป็นสาธารณกุศล.หมั่น ศึกษาหาความรู้จักรู้แจ้งรู้จริงตามหลักคำสอนในศาสนาที่เราศรัทธาเลื่อมใส. ซึ่งจะเป็นประโยชน์และความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้า..เพราะคนเรามี
กรรมดี หรือกรรมชั่วนั่นแหละเป็นทรัพย์แท้ของทุกชีวิตติดตามไปได้ทุกภพทุกชาติจน กว่าจะถึงซึ่ง"ปรินิพพาน"คือหมดกิเลสอาสวะ หยุดการเวียนว่ายตายเกิดได้อย่างสนิทสัมบูรณ์สุงสุดของทุกๆจิตวิญญาณ..ขอ ความสุขที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืนจงมีแก่พี่น้องร่วมทุกข์เกิดเเก่เจ็บตายทุกๆ ชีวิตเทอญ.

 

 

ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต

หมายเลขบันทึก: 184015เขียนเมื่อ 23 พฤษภาคม 2008 01:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

Hello

It may useful for U some. I mean, different person is different Karma. It may take some time to make people understand the purpose of life.

Thank U

Vasin LA USA

The Buddha compared people to the lotus

Some are very wise, with minimal defilement, ready to attain enlightenment whenever exposes to Dhamma, similar to the lotus flowers above the water readily bloom upon exposure to the sunlight.

Some are wise, with little defilement, yet need more training to attain enlightenment, similar to the lotus flowers at the water surface will bloom on the next day.

Some with fair amount of defilement, need more instructions and training to become wiser and be ready to attain enlightenment, similar to the lotus flowers under the water, waiting more time to grow above the water level to bloom during the successive days to follow.

Some are full of defilement, with a dull mind, not possible to attain enlightenment, similar to the lotus flowers in the mud under the water, will be eaten by fishes and turtles.

P

อนุโมทนาสาธุ

มีความสุขนะโยม

บุญรักษา

ไม่มีรูป

อนุโมทนาสาธุ

ต้องขออภัยด้วย

อาตมาอ่านและแปลไม่ได้

บุญรักษานะ

เจริญพร

กราบนมัสการพระคุณเจ้า

กลับมาอ่านอีกครั้งหนึ่ง ก็เลยถือโอกาสแปลที่คุณวศิน (เดาว่ามาจากชื่อ Vasin) เขียนไว้ค่ะ

Hello สวัสดี

It may useful for U some. I mean, different person is different Karma. It may take some time to make people understand the purpose of life.

สิ่งนี้อาจจะเป็นประโยชน์กับบางคน ผมหมายถึงว่า คนแต่ละคนก็มีกรรมต่างกัน อาจจะต้องใช้เวลานาน กว่าที่จะทำให้แต่ละคนเข้าใจวัตถุประสงค์ของชีิวิต

Thank U

ขอบคุณครับ

Vasin LA USA

วศิน แอลเอ สหรัฐฯ

The Buddha compared people to the lotus

พระพุทธเจ้าเปรียบเทียบคนกับบัว (สี่เหล่า)

เนื้อหาส่วนต่อไปที่เป็นภาษาอังกฤษก็คืออธิบายถึงบัวแต่ละเหล่าค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท