สถานการณ์โรคหัดในมหาวิทยาลัยขอนแก่น
ในรอบห้าปี จนถึง พ.ศ.2550 โรงพยาบาลศรีนครินทร์ พบผู้ป่วยโรคหัด 1 ราย อายุ 1 ปี 3 เดือน หลังจากนั้นใน ปี พ.ศ.2551 ไม่พบรายงานผู้ป่วยโรคหัดรับการรักษาในโรงพยาบาล ทั้งประเภทผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน จนถึง วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2551 มีนักศึกษามหาวิทยาลับขอนแก่น สงสัยป่วยด้วยโรคหัด มารับ การรักษาที่หอผู้ป่วย จำนวน 2 ราย จากการสอบสวนโรคหัดเฉพาะราย พบว่าเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะศึกษาศาสตร์ เริ่มมีอาการป่วย ตั้งแต่วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2551 ด้วยอาการมีไข้สูง ไอ มีผื่นตามตัว
ต่อมาวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2551 มีผู้ป่วย มาด้วยอาการมีไข้สูง มีผื่นแดงตามตัว ไอ มีน้ำมูก แพทย์สงสัยป่วยด้วยโรคหัด รับการรักษาเพิ่มอีก 5 ราย เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นจำนวน 4 ราย และผู้ป่วยชายไทย อาชีพรับจ้างที่พิมานกรุ๊ป 1 ราย ทีม SRRT โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ได้ดำเนินการสอบสวนโรคและควบคุมการระบาด เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ทั้งด้านบุคลากร สถานที่ เพื่อรับผู้ป่วยและป้องกัน การแพร่กระจายเชื้อ
ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2551 พบนักศึกษาป่วยมีไข้สูง ไอ มีน้ำมูก บางรายมีผื่นตามตัว เข้ารับการตรวจรักษาที่หน่วยผู้ป่วยนอกอุบัติเหตุฉุกเฉิน และห้องตรวจเพิ่มขึ้นอีก จำนวน 5 ราย
โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จึงได้ประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์โรคหัดระบาดในมหาวิทยาลัย ขอนแก่น แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในหน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมและควบคุมการระบาดของ โรคหัดในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ค้นหา ผู้ป่วยเพิ่มเติม ตามนิยามการเฝ้าระวังและสอบสวนผู้ป่วยโรคหัด พร้อมหาแนวทางการควบคุมโรค ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่นและสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดขอนแก่น
สถานการณ์การระบาดของโรคหัดในมหาวิทยาลัยขอนแก่นในครั้งนี้ (พบผู้ป่วยรายแรกตั้งแต่ วันที่ 21 มกราคม 2551 รายสุดท้ายในวันที่ 18 มีนาคม 2551) มีผู้ป่วยสงสัยป่วยเป็นโรคหัด (Suspected case) จำนวน 50 ราย ได้รับการเฝ้าระวังโรคและรับการตรวจรักษาในโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จำนวน 40 ราย ผู้ป่วยค้นหาในชุมชนไม่ได้รับตรวจวินิจฉัยที่โรงพยาบาล ศรีนครินทร์ จำนวน 10 ราย
บทเรียนและประสบการณ์ในการสอบสวนการระบาด
จากบทเรียนในการสอบสวนและควบคุมการระบาดของโรคหัดในครั้งนี้
1. การทำงานเป็นทีม และการมีส่วนร่วมของบุคลากรที่เกี่ยวข้องในหลายหน่วยงาน จึงจทำให้การสอบสวนการระบาดและการควบคุมโรคในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จตามเป้าหมาย
2. ผู้บริหารโรงพยาบาล ผู้บริหารงานบริการพยาบาล ทีม SSRT โรงพยาบาลศรีนครินทร์ และบุคลากรที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ตระหนักและเห็นความสำคัญของการป้องกันและควบคุมการระบาดของโรคหัดในครั้งนี้ จึงทำให้มีการทำงานร่วมกันอย่างไม่ท้อถอย มีประสานงานและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน ประชุมร่วมกันทุกวัน ซึ่งจากการดำเนินงาน ทำให้เกิดการเรียนรู้จากประสบการณ์ตรงเพิ่มมากขึ้น คณะทำงานควบคุมการระบาดของโรคหัดในมหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้เสนอและพิจารณาร่วมกันว่าควรให้นักศึกษาในศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ ได้มีโอกาสในการศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์จริงเมื่อมีการระบาดในครั้งต่อไป
3. แพทย์หัวหน้าทีมสอบสวนโรคและผู้สอบสวนโรคหลัก รวมทั้ง ทีม SRRT ควรจะได้รับการพัฒนาองค์ความรู้เพิ่มมากขึ้น ควรจะได้ทุนจากสำนักระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข จัดอบรมพัฒนาทีม และควรจะมี ผู้เชี่ยวชาญร่วมการสอบสวนและให้ข้อคิดเห็นเมื่อพบว่าแนวโน้มการระบาดของโรคเพิ่มมากขึ้น
4. มหาวิทยาลัยขอนแก่น ควรจะมีการเตรียมการด้านงบประมาณหรือจัดหาวัคซีนสำรองไว้สำหรับนักศึกษา เมื่อเกิดการระบาดของโรค ถ้าในครั้งนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนวัคซีนวัคซีนโรคหัด วัคซีนรวมโรคหัด ( หัด คางทูม หัดเยอรมัน: MMR) จากสำนักงานสาธารณสุข จังหวัดขอนแก่นและสำนักงานควบคุมโรคที่ 6 จังหวัดขอนแก่น คาดว่าน่าจะมีนักศึกษาป่วยจำนวนเพิ่มมากขึ้น ไม่สามารถควบคุมการระบาดได้ในระยะเวลาที่กำหนด
5. โรงพยาบาลควรจะมีการจัดหาวัคซีนสำหรับบุคลากรทั้งเก่าและใหม่ที่ยังไม่มีภูมิต้านทานโรค ให้ได้รับวัคซีนป้องกันโรคอย่างครบถ้วน
6. บทเรียนจากการสอบสวนการระบาด การสอบสวนโรคหัดเฉพาะราย การเก็บตัวอย่างตรวจทางห้องปฏิบัติการ ควรจะได้มีการทบทวนขั้นตอนการเก็บที่ถูกต้อง แนวทางการการปฏิบัติที่ชัดเจน ผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจัดส่งให้มีความทันเวลาสำหรับสิ่งส่งตรวจไวรัสที่ต้องเพาะเชื้อและแยกเชื้อที่มีข้อจำกัด ตามที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำหนด ซึ่งในปัจจุบันดำเนินการจัดส่งผ่านศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ขอนแก่น
เห็นด้วยกับการสอบสวนโรค และควบคุมโรค
เหมือนนักดับเพลิง ที่ต้องรีบลงที่เกิดเหตุเพื่อหาต้นตอ ของไฟ
ขอบคุณคะที่ให้กำลังใจ เราจะดำเนินการเพื่อให้ควบคุมการระบาดให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
หาให้เจอตัวแรก เรวๆนะคับ จะเป็นกำลังใจให้
และก็นั่ง รอฟังอยู่เหมือนกัน ว่ามันเข้ามาได้ไง
สมมุติ
ถ้าเจอคนแรกที่เป็น
หาให้เจอถึงสาเหตุ
นำมาแลกเปลี่ยน
คนเข้ามาอ่านเพื่อเป็นกรณีศึกษา
ปวงประชาได้ประโยชน์กันทั้งนั้น
สาธุ
กำลังดำเนินการทำรายงานฉบับบสมบูรณ์ รายแรกที่พบ ยังไม่ทราบว่าติดเชื้อมาจากใครเหมือนกัน ต้องใช้ข้อมูลทางสถิติวิเคราะห์ ซึ่งในขณะที่เกิดการระบาดของโรค ไม่ได้ใช้สถิติเชิงวิเคราะห์ สอบสวนนักศึกษาที่ไม่ป่วยและนักศึกษาที่ป่วย นำมาหาค่าทางสถิติ ถ้าต้องการทราบรายละเอียด มีตัวอย่างรายงานสอบสวนการระบาดของโรคหัดในนักศึกษาอาชีวะ จังหวัดน่าน
ประกาย
ดีมากครับ ที่มีความรู้ให้ ศึกษาเกี่ยวกับการควบคุมการระบาด ของโรค ติดต่อ
ไม่อยากให้โรคหัดเกิดขึ้นกับใครเลยค่ะ เพราะทำให้เสียสุขภาพ สิ้นเปลืองงบประมาณ โชคดีที่เรามีทีมแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยกันดำเนินการควบคุมการระบาดของโรคหัดได้ ต้องขอบคุณค่ะ
จากการคำนวนค่าใช้จ่ายในการควบคุมการระบาดครั้งนี้ ค่าใช้จ่ายสูงมาก รอผลสรุปอีกครั้งจะรายงานให้ทราบ