วิสาหกิจชุมชน หรือการประกอบการของชาวบ้านในชุมชน ที่รวมตัวกันอย่างไม่เป็นทางการ มีความมุ่งหวังที่จะคิดแก้ปัญหาของชุมชนตัวเอง ในเรื่องดังนี้(ข้าว,อาหาร,เครื่องใช้,ปุ๋ย,ยาฆ่าแมลง)เป็นหลัก มีความหวังอย่างต่อเนื่องให้อนาคตของชุมชนลดการพึ่งพาจากภายนอกในเรื่องที่กล่าวมาแล้วข้างต้น แต่ไม่ตัดขาดจากสังคม เพราะว่ายังมีเครือข่ายกันและกันทั่วทั้งประเทศ
วิสาหกิจชุมชน เป็นการประกอบการเพื่อการแลกเปลี่ยนหรือเหลือแล้วขายต่อไป โดยไม่กำหนดว่าจะต้องผลิตมาก ๆ เพื่อขายอย่างเดียว แต่เน้นการผลิตเพื่อทำกินทำใช้ในชุมชนเป็นหลัก......
ถ้าวิสาหกิจชุมชน เป็นหนึ่งในคำตอบสุดท้ายของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไทย ....แล้วทำไม?วิสาหกิจชุมชนนั้นเกิดขึ้นมา ตั้งแต่ปี 2545 แล้ว เกษตรกรชาวบ้านส่วนใหญ่จึงไม่เข้าใจกัน...เพราะให้นักวิชาการและนักธุรกิจมาคิดและมาทำแทนเกษตรกรชาวบ้าน .....ผลที่ออกมาคือ ไม่เกิดเศรษฐกิจชุมชนพึ่งตนเอง แต่เกิดเศรษฐกิจชุมชนตามเศรษฐกิจกระแสหลักเหมือนเดิม.....
**ความสำคัญของวิสาหกิจชุมชน
1. ส่งเสริมการรวมตัวกันของคนในชุมชน ในการประกอบธุรกิจในระดับชุมชน มีความมั่นคง สามารถลดการพึ่งพาภายนอกได้
2. ส่งเสริมความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่น การพัฒนา ความสามารถในการจัดการตรงตามความต้องการของชุมชนที่แท้จริง
3. วิสาหกิจชุมชนเป็นกลไกการสร้างฐานที่มั่นของเศรษฐกิจพอเพียง เมื่อครัวเรือนเป็นหน่วยการผลิตที่เล็กที่สุดของสังคม จะต้องคิดถึงการผลิต 2 วิถี คือ 1. การผลิตเพื่อกินเพื่อใช้โดยตรง (ข้าว,ปลา,ผัก,ผลไม้ ,ยารักษาโรค) 2.การผลิตเพื่อการแลกเปลี่ยนหรือการซื้อขาย
.......จากการผลิตทั้งสองวิธีนี้พบว่า ถ้าเราสามารถพึ่งพาการผลิต แบบแรกได้มาก ก็หมายความว่า เราสามารถลดการพึ่งพาวิธีที่ 2 ให้น้อยลงได้
4. วิสาหกิจชุมชนเป็นเครื่องมือ (Mean) เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ด้านเศรษฐกิจและสังคม(Ends) วิสาหกิจชุมชนจึงเป็นเครื่องมือในการสร้างฐานรากเศรษฐกิจและสังคมให้เข้มแข็ง เพื่อที่จะให้ระบบเศรษฐกิจและสังคมส่วนอื่น ๆ ได้ต่อยอดบนฐานที่เข้มแข็ง สามารถคงทนต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกทุนนิยมได้
5. วิสาหกิจชุมชนเป็นระบบเศรษฐกิจชุมชนที่มีความเข้มแข็งพึ่งพาตนเองได้ มีความพร้อมที่จะพัฒนา สำหรับการแข่งขันในอนาคตบนฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
** ลักษณะสำคัญของวิสาหกิจชุมชนประกอบด้วย*
1. ชุมชนเป็นเจ้าของและเป็นผู้ดำเนินการ
2. ผลผลิตมาจากขบวนการในชุมชน โดยใช้วัตถุดิบ ทรัพยากร ทุน แรงงานในชุมชนเป็นหลัก
3. ริเริ่มสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมของชุมชน
4. เกิดบนฐานของภูมิปัญญาท้องถิ่นผสมผสานกับภูมิปัญญาสากล
5. มีการดำเนินการแบบบูรณาการเชื่อมโยงกิจกรรมต่าง ๆ เป็นระบบ
6. มีกระบวนการเรียนรู้เป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อน (คลัสเตอร์)
7. มีการพึ่งพาตนเองของครอบครัวและชุมชนเป็นเป้าหมาย
8. มิได้แสวงหาผลกำไร แต่เน้นคุณธรรมจริยธรรม พึ่งพาอาศัยกัน
* คัดลอกมาจากหนังสือ ประกอบการศึกษา วิชา วิสาหกิจชุมชน ของนักศึกษาในโครงการมหาวิทยาลัยชีวิต สถาบันส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน และมหาวิทยาลัยราชภัฏ พระนคร กรุงเทพฯ ปี 2551.....
ข้างบนที่กล่าวมาแล้วนั้น เป็น 8 ข้อสำคัญที่จะทำให้การขับเคลื่อน "วิสาหกิจชุมชน"สำเร็จได้เป็นจริงและมีความยั่งยืนได้ครับ
การกำหนดวิสัยทัศน์ พัทธกิจ และแผนปฏิบัติการ นั้น เป็นความเข้าใจที่ต้องย้ำอีกครั้งว่า "ทำเพื่อการพึ่งตนเอง" ลดการพึ่งพาจากภายนอก ไม่ว่าเรื่อง ใน 5 เรื่องเป็นหลักคือ ข้าว ,อาหาร ,เครื่องใช้ ,สมุนไพร ,ปุ๋ย เช่น ถ้าไม่มีข้าว หรือในชุมชนไม่มีการปลูกข้าวเพื่อรับประทานในชุมชน ตำบล ควรจะหาทางจัดการว่าจะทำอย่างไร? ในพื้นที่ประสบความสำเร็จ เช่น บ้านหนองกลางดง ต.ศิลาลอย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ พื้นที่ตนเองไม่เคยปลูกมาหลายปีแล้ว พอดำเนินการ "ประชาพิจัย" ได้แผนแม่บทชุมชนของตนเอง ได้ดำริว่า เราต้องเอานากลับคืนมา เอาข้าวมาไว้ในยุ้งฉางที่เคยมีในอดีต (อดีตไม่เคยซื้อข้าว แต่ปัจจุบันซื้อแล้ว)เพราะปลูกแต่สับประรดอย่างเดียว ตอนนี้ความหลากหลายในการทำการเกษตรมากขึ้นในชุมชนหนองกลางดง เพื่อลดภาระความเสี่ยงของกลไลราคาพืชผลทางการเกษตร ซึ่งแน่นอน ชาวบ้านต้องรับภาระขาดทุนตลอด.. แต่การปลูกพืชหลายชนิดในแปลงทำให้เห็นโอกาสที่ไม่ขาดทุนไปเสียทุกอย่างของชาวบ้านหนองกลางดง...วิสัยทัศน์ของชาวบ้านหนองกลางดง จึงดำริเรื่อง ข้าวไว้ด้วยว่าต้องมีโรงสีของตนเอง และผลิตข้าวเพื่อเลี้ยงคนหนองกลางดงเองครับ แต่วิสัยทัศน์ เป็นเรื่องกว้างจึงกำหนดเป็นกว้าง ๆ ครับ คือ "หนองกลางดง ชุมชนปลอดยาเสพติด มีเศรษฐกิจพอเพียง "