KM...เพื่อการสื่อสาร


คุย KM ที่เป็นความรู้สึก...นั้นคุยกันเท่าไหร่ก็ไม่เข้าใจกัน แต่ถ้าคุยจากประสบการณ์..แค่พยักหน้าก็รู้เรื่องกันแล้วค่ะ

     ถ้าคิดจะใช้ KM เป็นเครื่องมือในการทำงาน และใช้ KM เพื่อการเรียนรู้ให้กับตนเองนั้น ดิฉันมีประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติของการทำหน้าที่เป็นวิทยากร โดยเฉพาะการถ่ายทอดความรู้ให้กับบุคคลอื่น ซึ่งเป็นความยากที่คิดไม่ถึงที่เป็นผลมาจากความที่ตนเองไม่ตกผลึกของคำว่า "การจัดการความรู้"

     "การจัดการความรู้" ที่อยู่ในห้วงความคิดจึงเป็นเพียงความบางเบาที่ตนเองมีประสบการณ์เพียงน้อยนิดแล้วสรุปว่า "ตนเองมีความรู้ความเข้าใจ KM"  การกระตุกความคิดให้หันกลับมาทบทวนตนเองจึงเกิดขึ้นจากประสบการณ์ของการ "ตกหลุม KM หรือ ติดกับดัก KM" บ่อยครั้งที่ดิฉันดิ้นไม่หลุดและหาทางออกไม่ได้กับการสื่อสารประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงานให้คนแวดล้อมได้เข้าใจถึง...งานที่กำลังทำ และการพัฒนาตนเองที่ต้องการให้เกิดขึ้น จึงกลายมาเป็น "ปัญหาของการสื่อสารเพื่อการทำความเข้าใจ และการสื่อสารเพื่อการเรียนรู้กับงานส่งเสริมการเกษตร"

     การปรับแก้สิ่งที่เป็นปัญหาจึงถูกไขขึ้นมาจาก 1) การมีที่ปรึกษา  2) การเรียนรู้จากสภาพแวดล้อม  3) การเรียนรู้จากการสังเกต  4) การเรียนรู้จากการสนทนา  5) การเรียนรู้จากการทดลองทำ  6) การเรียนรู้จากกรณีตัวอย่างที่ทำแล้วได้ผล  และ 7) การเรียนรู้จากการอ่านเอกสาร/ตำรา  โดยสิ่งที่กระทำดังกล่าวจะถูกเปรียบเทียบกับความเป็นจริงที่ตนเองสัมผัสและอาศัยอยู่  จึงทำให้เกิด "รูปแบบและวิธีการ" ที่หยิกยกขึ้นมาใช้ตามความเป็นจริงกับสังคมการทำงานส่งเสริมการเกษตร

     การประยุกต์ใช้ KM จึงเกิดขึ้นกับความหลากหลายของสภาพความเป็นจริงที่กระทบกับภารกิจและหน้าที่  แต่สิ่งดังกล่าวจะมีผลสำเร็จที่เกิดขึ้นในทุกครั้งก็คือ  มีการเรียนรู้เกิดขึ้นให้กับตนเอง  ที่เป็นผลกำไรจากการลงทุนความคิดและการลงทุนประสบการณ์ที่ได้ต่อยอดพื้นฐาน  ซึ่งการสรุปความคิดรวบยอดจะมาจาก "การต่อประสบการณ์ตรงที่เกิดขึ้นกับตนเอง...ให้เป็นจิ๊กซอภาพที่ค่อนข้างเห็นชัด"  ได้แก่  ทักษะการเป็นวิทยากรกระบวนการ  ทักษะการจัดกระบวนการเรียนรู้  และอื่น ๆ

     ดังนั้น ความเป็น KM จึงอยู่ที่...ความสามารถในการหยิบใช้ประสบการณ์ของตนเองที่มีอยู่ได้กับทุกสถานการณ์ ภายใต้หลักการและองค์ประกอบของ 1) กำหนดเป้าหมาย  2) จัดการเรียนรู้ และ 3) จัดเก็บความรู้  แต่ทั้งนี้นั้น ถ้าเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่า  1) เราเหนื่อยหรือหนักใจกับ KM   2) เราเบื่อปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับ KM  3) การปฏิบัติงานขาดความสนุก  4) เรารู้ KM หมดทุกเรื่องแล้ว  5) เราคิดว่า...เราจะวางมือจาก KM  5) จะทำหรือใช้ KM ก็ต่อเมื่อมีการ "สั่งให้ทำ"  หรืออื่น ๆ ก็แสดงว่า...คุณกำลังตกหลุม/ติดกับดัก KM

     การถ่ายทอดความรู้และการทำงานในเรื่องราวต่าง ๆ สามารถใช้ KM ไปเป็นเครื่องมือได้ โดยคิดทำไปเรื่อย ๆ จับโน่นจับนี่มาทดลองปฏิบัติ ประสบการณ์ก็จะเกิดขึ้น  ความสงสัยก็จะมีมาก  การดิ้นรนที่จะหาคำตอบก็จะมีสูง  แล้วการแลกเปลี่ยนก็จะเกิดขึ้น  สุดท้ายเราก็จะมีบทสรุปเป็นของตนเอง แล้วนำมาซึ่ง  KM เฉพาะบุคคล หรือ เอกภาพ...ของ KM สำหรับตัวเราเอง  ที่เป็นองค์ความรู้ที่ทุกคนโหยหาและอยากแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วย.

หมายเลขบันทึก: 179392เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2008 10:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท