เช้า 7 เมษายน 2551 ทุกคนตื่นเช้า มารับอากาศสดชื่นบนภู รออาบน้ำกันนานเพราะมีกันหลายคน ได้เคลื่อนพลเวลา 8 โมงกว่า อาหารเช้าเป็นข้าวต้มกับ อิ่มแล้วไปเที่ยวชมอีกซีกของภู เรียกว่า ลานหินปุ่ม จากจุดชมวิวที่นี่ จะมองเห็นเมืองเลยอยู่ลิบๆ เก็บภาพกันแล้วก็ย้ายไปชมโซนที่มีความหลังเกี่ยวกับการเมืองไทย ครานี้ได้เดินเข้าป่าภูพานเพื่อชมอดีตของการเมือง สนุกดี มีต้นไม้หลายชนิดที่คุ้นๆพบเห็นเพิ่มขึ้น ฉันรู้สึกว่าป่ามันมีความสุขนะ ธรรมชาติโซนนี้เป็นป่า มีไม้ยืนต้นเขียวชอุ่มสลับกับหินใหญ่ มีคำเตือนที่พบเห็นบ่อยว่า ห้ามใช้ไม้ค้ำยันหิน ตีความไม่ออกว่า ห้ามทำไม
อุทยานเก็บรักษาสภาพอดีตของการเมืองไว้ได้มากพอควร คล้ายอยากเก็บรักษาไว้แบบวิธีเก็บของโบราณในพิพิธภัณฑ์ ที่มีความประสงค์แค่เก็บไว้เพื่อยันอดีต โดยไม่ประสงค์จะให้คนรุ่นหลังเรียนรู้อะไร ด้วยไม่เหมือนพิพิธภัณฑ์ที่มีบทเรียนรู้แฝงอยู่ จึงไม่มีการบำรุงรักษาเพื่อเก็บเกี่ยวประโยชน์ด้านความรู้จากมัน ฉันว่ามันยังไม่สามารถถ่ายทอดการเรียนรู้สักเท่าไร คนไปชมที่ไม่รู้เรื่องราวใดๆมาก่อน จึงแค่ได้มาชมแล้วกลับมาโดยไม่เรียนรู้รับรู้อะไรสักเท่าไร แม้แต่ความมีคุณค่าของผืนป่าภูพานของประเทศไทยแห่งนี้
อันที่จริง ฉันว่ามันมีมุมความคิดที่เป็นอดีตของที่นี่ที่สามารถต่อยอดในมุมบวกเพื่อสร้างคนได้ สถานที่แห่งนี้สามารถส่งเสริมการเรียนรู้วิธีคิดและประยุกต์ใช้วิชาการในห้องเรียนเพื่อการยังชีพในป่าได้หลากหลาย ใช้เรียนรู้วัฒนธรรมการใช้ชีวิตแบบพอเพียงได้ ถ้าราชการใช้ให้เป็น มุมหนึ่งที่บ่งบอกถึงความสามารถของคนไทยรุ่นหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยที่รู้จักใช้ชีวิตแบบพอเพียงได้เป็นอย่างดี เป็นคุณค่าที่ควรหนุนเสริมให้คนรุ่นหลังเรียนรู้มิใช่หรือ แม้ว่ารากที่มาของการเกิดคนกลุ่มนี้อาจจะไม่เป็นที่ต้องใจอยู่บ้างก็ตาม
ฉันเคยรับรู้เรื่องราวของที่นี่มาบ้างผ่าน “อีกฟากหนึ่งฟางฝัน บันทึกแรมทางของชีวิต” หนังสือของจี๊ด จิระนันท์ พิตรปรีชา ในเสี้ยวหนึ่งของหนังสือนี้ เธอเล่าเหตุการณ์ที่เธอได้มาใช้ชีวิตในสถานที่แห่งนี้เอาไว้ มีหลายเหตุการณ์ที่เล่าไว้แล้วให้จินตนาการที่พลิกมาใช้ได้ในแง่การจัดการความรู้ภูมิปัญญาไทย
ดอกไม้สวยที่ไม่รู้จักว่าชื่ออะไร ความร้อนแรงอย่างสดใส แต่ไม่เร่าร้อน ทำให้เกิดพลังยามเช้า ดีจริง
เจ้าดอกนี้ มีคนเรียกมันว่า ดอกลำโพง ไม่รู้ว่า มันเป็นชนิดเดียวกับ ลำโพง ที่กินเม็ดมันแล้วเมาหรือเปล่า หรือแค่ ชื่อพ้อง แดดอ่อนๆยามเช้า พาให้รู้สึกสบายใช่ไหม
7 เมษายน 2551
หมอเจ๊จ๋า..เที่ยวสนุก แล้วยังได้เรียนรู้อีก..เหมือนครูบาอาจารย์..หรือหมอ..หรือทุกอย่างที่เป็น..ในโลกยามนี้...ขอบคุณเรื่องราว..หมอเจ๊จ๊ะ..
โคมญี่ปุ่น ค่ะ เคยพบแต่ สีแดง แต่นี่สีชมพูชอบเที่ยวที่นี่ จ้ะ หมอเจ้ สุวรรณา ก็ถ่ายรูปต้นนี้ มาด้วยเหมือนกัน