"ต้องการมั้ยเอ่ย..บรรยากาศดี ๆ "


ไม่ต้องการ..ก็..แปลกแล้วคุณ !

 

  จ๊ะเอ๋ ! 

ช่วงนี้ค่อนข้างจาว่างจัดค่ะ..มาลงได้เกือบทุกวันแหล่ะฮ่ะ..คุณ ๆ ขา  การทำงานเนี่ยนะคะ..ถ้าเราได้ทำกับทีมที่รู้ใจแล้วล่ะก็  อะไร ๆ มันก็สำเร็จไปเกือบครึ่งนึงแล้วเนาะ..แต่..ถ้าได้ทีมที่ต้องมาปรับตัวเพื่อจาได้ทำงานร่วมกันได้เนี่ย..ท้าทายดีจังค่ะ..(ถ้าไม่ท้อซะก่อนนะ) ไม่ว่าจาทำงานแบบเป็นโครงการ  หรือว่างานประจำที่ทำ ๆ กันอยู่  หากเป็นการทำงานท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ แล้วล่ะก็..มีฟามสุขนะแน่..มาเลย..มาดูการสร้างบรรยากาศดี ๆ ระหว่างเพื่อนร่วมงานกันเร้ว !

เนื่องจากว่าคนเราเกิดมามีนิสัยต่างกัน  ได้รับการสั่งสอนและเลี้ยงดูแตกต่างกัน  ดังนั้นเมื่อต้องอยู่ร่วมกัน ก็คงเลี่ยงการเกิดปัญหาบ้างไม่ได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำงานร่วมกันในที่ทำงาน บางครั้งคุณต้องเจอเพื่อนร่วมงานที่ไม่สุภาพ ชอบพูดว่ากล่าวเหน็บแนม หรือหนักหน่อยก็คอยแย่งผลงาน ซึ่งเมื่อเกิดเรื่องแล้ว ส่วนใหญ่มักมองหน้ากันไม่ติด ไม่อยากพูดหรือทำงานด้วยเลยก็มี กลายเป็นว่างานที่ทำอยู่เกิดความล่าช้า ขลุกขลัก ส่งผลเสียต่อการงานตนเองเข้าไปอีก
เพื่อไม่ให้คุณและเพื่อนร่วมงานมีปัญหาต่อกัน OOHOOH  มีวิธีสร้างบรรยากาศดีระหว่างการทำงานร่วมกันกับผู้อื่นดังนี้

  •   พยายามมองโลกในแง่ดี เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องทำงาน ให้ยิ้ม ทักทายเพื่อนร่วมงานอย่างเป็นกันเอง

 

  •   ทำความเข้าใจให้ตรงกัน คุณควรทำความเข้าใจในสิ่งที่เพื่อนร่วมงานพูด หากไม่แน่ใจให้ถามเพื่อความชัดเจน อย่าเก็บไปคิด สรุปเอาเองว่าเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ในทางกลับกัน เพื่อนร่วมงานก็ต้องถามให้แน่ใจเช่นกัน

 

  •   สร้างความเป็นหมู่คณะ หากมีประชุมควรเตรียมงานให้เรียบร้อยและมาตรงเวลาทุกครั้ง กระจายประเด็นหรือปัญหาให้ทุกคนฟัง ร่วมแสดงความคิดเห็น ไม่พูดอยู่ฝ่ายเดียว และพยายามเอาใจเขาใส่ใจเรา เห็นใจในการทำงานร่วมกัน

 

  •   ไม่ตั้งกลุ่มซุบซิบนินทา หากการพูดคุยเริ่มสนุกสนานจนกลายเป็นการนินทาหรือปล่อยข่าวลือ ให้หลีกเลี่ยงจากการสนทนาเช่นนั้น โดยอาจเลี่ยงโดยให้เหตุผลว่าต้องขอตัวไปทำธุระอื่น

 

  •   พยายามไกล่เกลี่ยปัญหา หากรู้สึกว่าคุณกับเพื่อนร่วมงานมีปัญหากัน อาจใช้วิธีขอคุยเป็นการส่วนตัว เปิดอกพูดคุยระหว่างกัน แต่ต้องไม่แสดงอาการก้าวร้าว หรือข่มขู่ จำไว้ว่าเราต้องหาทางออก ไม่ใช่หาเรื่องเพิ่มขึ้นให้ความสัมพันธ์แย่ลงไปอีก

 

  •   อ่อนน้อมถ่อมตน อย่าโอ้อวดความสามารถตนเอง หรือเอาความดีความชอบจนเกินงาม

 

  •   อย่าเปิดเผยเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว ประวัติการเปลี่ยนงาน เรื่องเจ็บป่วยต่างๆ คุณคงไม่อยากให้เพื่อนร่วมงานนำไปพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเป็นแน่ ดังนั้นอย่าเปิดเผยความลับหรือเรื่องส่วนตัวให้ใครต่อใครรู้กันทั่ว

 

  •   ไม่สร้างความลำบากใจแก่เพื่อนร่วมงาน ไม่ควรอย่างยิ่งในการวิจารณ์หรือนึกสนุกล้อเลียนเพื่อนร่วมงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องประเพณี เชื้อชาติ และเพศที่ต่างกัน

 

  •   สร้างมารยาทในที่ทำงาน มีมารยาทและใส่ใจรายละเอียดเล็กน้อยในที่ทำงาน เช่น การเติมกระดาษในถาดเครื่องพิมพ์ รักษาความสะอาดบริเวณที่นั่งของตน เคาะประตูทุกครั้งก่อนเข้าห้องเพื่อนร่วมงาน และเวลาจะออกไปข้างนอกให้บอกเพื่อนร่วมงานให้รับรู้บ้าง

การทำงานทุกที่ย่อมมีปัญหา (จำไว้ !)  ไม่ว่าจะอาชีพหรือตำแหน่งอะไร นั่นเพราะเรายังต้องอยู่ในสังคม อยู่ร่วมกับคนอื่นๆ อีก หมั่นคิดเสมอว่าไม่มีใครเกิดมาดีพร้อม ทุกคนมีข้อดี ข้อเสียกันทั้งนั้น หากเกิดปัญหาหมางใจกันระหว่างเพื่อนร่วมงาน ให้พยายามไกล่เกลี่ยปัญหา พูดคุย ทำความเข้าใจให้ตรงกัน อย่าได้นำเอาทิฐิมาเป็นอุปสรรคในการทำงาน มิฉะนั้นแล้วคุณก็จะทำงานอย่างเป็นทุกข์ตลอดเวลา (จะพยายามค่ะ)  พูดคุยกันสักนิดแล้วคุณจะรู้ว่าปัญหาที่แท้จริงนั้นไม่ได้ยิ่งใหญ่เลยค่ะ ..จริง ๆ นะ..ลองดู  ขนาดมดยังทำงานกันเป็นทีมเลยคู๊ณ !


   

  ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today

 

คำสำคัญ (Tags): #kmobec#kmska2#songkhla2
หมายเลขบันทึก: 176314เขียนเมื่อ 10 เมษายน 2008 18:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • มีประโยชน์จัง
  • เดี๋ยวจะลองเอาไปทดลองใช้ สัก 4-5ข้อ
  • น่ากลัวจะยาก..นะ (แก่เกินแก้)
  • ขอบคุณมากครับ

ขอบคุณค้าบ !

P ท่านเกษตรยะลา  เอาไปหมดทุกข้อเลยก็ได้ค่ะ  OOHOOH  มะหวงหร่อก..ถ้าทำได้หมด  (ยากส์มาก !)  ก็..ยินดีด้วย 

 

P คุณ  suksom ..หุ..หุ..มาเหอ ๆ อะไรฮ๊า !

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท