วิธีการสอนดนตรีของโคดาย
ธวัชชัย นาควงษ์ (2547 : 2-3) กล่าวถึงวิธีการสอนดนตรีของโคดายว่า มีขั้นตอนการสอนที่สำคัญอยู่ 5 ขั้นตอน ดังนี้
1. ขั้นเตรียมการ(Preparation)
ขั้นนี้ผู้สอนควรสอนเพลงให้นักเรียนเรียนรู้ไว้จำนวนหนึ่งโดยสอนให้นักเรียนสามารถ ขับร้องได้ถูกต้องตามจังหวะ ทำนอง จนขึ้นใจเพื่อจะนำไปใช้ในการวิเคราะห์ตัวโน้ตด้วยตนเองในขั้นที่ 2 ต่อไป
การประยุกต์ใช้ในขั้นที่ 1 (นุรักษ์ สิงห์ศิลป์ : ครูชำนาญการพิเศษสาขาดนตรีสากล โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ มือถือ 089-7174088 , 087-2485992 E-MAIL : [email protected])
ผมได้ทำการวิจัยเรื่อง การพัฒนาการร้องเพลงและร้องโน้ตสากลโดยใช้วิธีสอนตามแนวคิดของโคดายกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านศาลา อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ปีการศึกษา 2550 โดยคัดเลือกเพลงมาทดลองใช้ 20 เพลง โดยเริ่มจากการนำเพลงง่าย ๆ มาให้นักเรียนได้เรียนรู้ก่อน แล้วเพิ่มเพลงที่มีระดับเสียง(PITCH)มากขึ้นตามลำดับ ได้แก่
1) เพลงตึ๊ดชึ่ง (C-D-E-G)
2) เพลงดอกบัว (C-E-G- A)
3) เพลงเจ้าป่า (A1-C-D-E)
4) เพลงแจวเรือ (A1-C-D-E-G)
5) เพลงกรุ๊กกรู (C-D-E-F-G)
6) เพลงเจ้าวัวกระทิง (C-D-E-G-C1)
7) เพลงพบกันใหม่ (F-G-A-Bb-C1)
8) เพลงช้าง (C-D-F-G-A-C1)
9) เพลงนาฬิกา (A1-C-D-E-F-G-B-C1)
10) เพลงสระภาษาอังกฤษ (C-D-E-F-G-A-C1)
11) เพลงจากโมสาร์ท (C-D-E-F-G-A-B-C1)
12) เพลงลอยกระทง (E- F- G- A- B- C1- D1 – E1)
13) เพลงสระไอไม้มลาย (C – D- E- F- G - A- B - C1)
14) เพลงกบ (G1-A1-C-D-E-G-A)
15) เพลงร้องรำทำเพลง (C-F-G-A-Bb-C1-D1)
16) เพลงรถไฟ (C – D – E – G – A - C1)
17) เพลงสรรเสริญพระบารมี (F – G - A – Bb –C1 -D1 -F1 -G1 )
18) เพลง que sera sera(B1-C-D- E- F- G-A-B- C1-D1)
19) เพลง turkey in the straw (B1-D- E- G-A-B- D1-E1)
20) เพลงชาติไทย (G1-C-D -E-F-G-A-B-C1-D1-E1 )
2. ขั้นวิเคราะห์(Make conscious)
ในขั้นนี้ครูสอนให้นักเรียนรู้จักวิธีการวิเคราะห์ตัวโน้ต จังหวะและทำนองจากเพลงที่นักเรียนศึกษาและฝึกขับร้องได้คล่องแคล่วที่สุด โดยครูคอยช่วยเหลือหาช่องทางที่จะทำให้นักเรียนค้นพบความรู้ได้ด้วยตนเองมากที่สุด ขั้นนี้จะรวมจุดเด่นของการสอนตามแบบโคดายจุดแรกคือ มีขั้นตอนการสอนที่จัดไว้เป็นหมวดหมู่ และมีการวางแผนว่าจะทำให้นักเรียนค้นพบความรู้ได้ด้วยตนเอง ได้อย่างไร
การประยุกต์ใช้ในขั้นที่ 2
เมื่อนักเรียนได้เรียนรู้เพลงที่ 1 เพลงตึ๊ดชึ่ง (C-D-E-G) นักเรียนจะได้เรียนรู้และฝึกขับร้องเพลง ดังนี้
2.1) ได้ฝึกออกเสียง C(โด)-D(เร)-E(มี)-G(โซ) จนคล่อง
2.2) ได้ฝึกร้องทำนองและตบมือตามจังหวะตก/ยก เพลงตึ๊ดชึ่ง ซึ่งประกอบด้วยทำนองทั้งหมด 3 ลักษณะ คือ
2.2.1 ตัวเขบ็ต 1 ชั้น + ตัวเขบ็ต 1 ชั้น + ตัวดำ ได้แก่เนื้อร้อง "นี่แม่นหัว" / "นี่แม่นไหล่" / "ชึ่งตึ๊ดชึ่ง"
2.2.2 ตัวเขบ็ต 1 ชั้น ประจุด+ ตัวเขบ็ต 1 ชั้น +ตัวเขบ็ต 1 ชั้น ประจุด+ ตัวเขบ็ต 1 ชั้น ได้แก่เนื้อร้อง "ยื่นออกไปเรียก" / "อันแบนแบนเรียก" / "เอาไว้โยกตึ๊ด"
2.2.3 ตัวเขบ็ต 1 ชั้น ประจุด+ ตัวเขบ็ต 2 ชั้น + ตัวดำ ได้แก่เนื้อร้อง "ว่าสะโพก"
2.2.4 ตัวดำ + ตัวดำ ได้แก่เนื้อร้อง "สองแขน"
2.3) เมื่อนักเรียนฝึกทักษะการร้องเนื้อร้อง ร้องทาที(การออกเสียงตามแนวคิดของโคดาย) และร้องโน้ตสากลได้คล่องแล้ว (หมายถึง สามารถร้องได้ถูกต้องทั้งจังหวะ(BEAT) ทำนอง(MELODY) และระดับเสียง(PITCH) )แสดงว่า นักเรียนเข้าใจลักษณะการร้องตามโน้ตจังหวะทำนองต่าง ๆ ทั้ง 4 แบบได้แล้ว เมื่อนักเรียนพบโน้ตทำนอง โน้ตระดับเสียง (โน้ตเสียง C D E G) ลักษณะเช่นนี้ แล้วสามารถร้องได้ถูกต้อง แสดงว่า นักเรียนสามารถวิเคราะห์จังหวะ ทำนอง และโน้ตที่เคยเรียนมาได้
2.4) ดังนั้นเมื่อครูแจกโน้ตเพลงที่ 2 เพลง ดอกบัว(C E G A) นักเรียนก็จะสามารถร้องโน้ต C E G ได้ เพราะเคยเรียนมาแล้วในเพลงตึ๊ดชึ่ง(C D E G) ครูสอนเพิ่มเติมเรื่อง การร้องเสียงโน้ตสากลอีกเพียง 1 ตัวคือ เสียงลา(A)เท่านั้นเอง
2.5) เมื่อนักเรียนสามารถขับร้องเพลงตึ๊ดชึ่ง และเพลงดอกบัวได้ นักเรียนจะสามารถร้องและอ่านโน้ต ได้ถึง 5 เสียง ได้แก่ C(โด) D(เร) E(มี) G(ฟา) A(โซ)
3. ขั้นเสริมความรู้(Reinforcement)
หลังจากนักเรียนได้ค้นพบความรู้เรื่องโน้ตจังหวะ หรือทำนองจากเพลงที่ตนเองวิเคราะห์แล้ว นักเรียนก็จะสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้ไปวิเคราะห์เพลงอื่น ๆ ที่มีโน้ตเหล่านี้ประกอบอยู่ในบทเพลงนั้น ๆ นักเรียนจะเกิดความมั่นใจเพิ่มเติมอีกไปเรื่อย ๆ ครูช่วยเสริมแรงให้นักเรียนมาก ๆ เพื่อจะทำให้ครูแน่ใจว่านักเรียนมีความรู้แล้วจริง ๆ
4. ขั้นประเมินผล(Evaluation)
ขั้นนี้ครูหาเพลงใหม่ที่นักเรียนไม่เคยรู้จักมาก่อนแต่มีโน้ตที่นักเรียนเคยรู้จักหรือเรียนรู้มาแล้วประกอบอยู่ด้วย เป็นเทคนิคในเรียนรู้เพลงใหม่หรือเกมใหม่นั่นเองหรือครูอาจใช้แบบฝึกหัดที่สร้างขึ้นในลักษณะของการอ่านโน้ตแรกเห็น(Sight Reading)มาทดสอบนักเรียนก็ได้หรือครูแต่งวลีเพลงสั้น ๆ ด้วยสัญญาณมือให้นักเรียนดูแล้วนักเรียนร้องออกมาเป็นเสียง
5. ขั้นสังเคราะห์ (Creative)
ในขั้นนี้ครูอาจให้นักเรียนแต่งเพลงง่าย ๆ โดยใช้ความรู้โน้ตที่เขามีหรือเรียนมาแล้วจากขั้นที่ 1-4 เช่น หลังจากนักเรียนได้ร้องโน้ตหรือวลีเพลงตามสัญญาณมือ ของครูจากขั้นการประเมินผลแล้ว ครูให้นักเรียนอาสาสมัครออกมาแต่งวลีเพลงให้เพื่อนในชั้นร้องตามในลักษณะคล้ายกับที่ครูทำ และเมื่อนักเรียนมีความรู้ตัวโน้ตต่าง ๆ มากขึ้นอาจให้นักเรียนแต่งเพลงสั้น ๆ เป็นการบ้าน
ครูผู้สอนดนตรีสากลทุกๆ ท่าน ควรจะศึกษาและนำไปประยุกต์ใช้วิธีการสอนของโคดาย ไปใช้กับนักเรียนของตนเองเป็นอย่างยิ่ง เพื่อช่วยกันพัฒนาเด็กไทย(เด็กในความรับผิดชอบของท่าน)ให้มีความรู้ความเข้าใจและมีทักษะทางดนตรีที่ถูกต้องตามหลักวิชาการยิ่งๆ ขึ้นไป ผมเชื่อว่า บุญกุศลมีจริง ถ้าท่านทำจริง ให้เด็กด้วยความจริงใจไม่แอบแฝง ไม่มีกั๊กไว้สอนพิเศษ เด็กเก่งแน่นอน
เอกสารอ้างอิง
ธวัชชัย นาควงษ์. เพลงแบบโคดาย. กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2547.
ขอบคุณสำหรับข้อคิดและกำลังใจดีดีนะคะ
เด็กๆที่ค่าย ตอนนี้กำลังเรียนเป่า ฮาร์โมนิก้า กันอยู่
เห็นเด็กๆเป่าแล้วเลยอยากลองเป่าดูบ้าง แต่ลองแล้ว ไม่ไหวเลยค่ะ
สงสัยอยู่เหมือนกันว่า ฮาร์โมนิก้านี้ เป่ายากมากไหมคะ