กลับมาถึงไทยอย่างเหงากว่าที่คิด เอาลูกทิ้งไว้มาเลย์ค่ะ
วัตถุประสงค์คือให้เขาซึมซับวัฒนธรรมบ้านพ่อ ปู่ย่า บ้าง
อยู่เมืองไทยเขาก็ใช้ภาษาไทยเป็นหลัก แม้จะมีเรียนภาษาจีนและอังกฤษ
โอกาสได้ใช้ก็น้อยจนไม่สามารถเรียกว่าใช้งานได้
ไปโน่นลูกก็พูดไทยมันทั้งวัน คนในบ้านต้องมาหัดพูดไทยไปกับลูกด้วยเลย
แล้วน้องจะพูดกับเพื่อนๆ ยังไงอ่ะครับ?
อันที่จริง เขาเรียนภาษาจีนที่โรงเรียนค่ะ
ส่วนภาษาอังกฤษก็สอนด้วยตนเอง
เขาเข้าใจนะคะ แต่ไม่สามารถพูดออกมาในภาษาอื่นได้
นึกภาพนะคะ คงแบบเด็กไทยบ้านเราทั่วไปเลยล่ะ
ที่เรียนภาษาต่างด้าวเยอะแยะ แต่ไม่กล้าพูดภาษานั้นๆ
ยิ่งหากต้องใช้ในการโต้แย้ง การแสดงความเห็น
พี่ไทยเล่นมุกเงียบเท่านั้น ไม่อยากให้ลูกเป็นแบบนั้น
(เพราะตัวเองไม่ใช่คนสงบเสงี่ยมน่ะค่ะ เคยได้คุยกับฝรั่งหลายคน
เขาบอกว่า ถ้าเราไม่พูด ไม่เถียงออกไป เขาก็ไม่เข้าใจหรอกว่า
เรานั้นฟังเขาพูดรู้เรื่องหรือเปล่า ถ้าเราเถียงผิดๆ ไปออกไป
เขาก็ยังเข้าใจได้ว่า เราสื่อสารกันรู้เรื่องหรือเปล่า เป็นต้น)
เรื่องของเรื่อง ก็เพราะต้องการให้เขาฝึกเรื่องภาษานี่ล่ะค่ะ
เด็กวัยนี้ ในมาเลเซียพูดได้ 2-3 ภาษาเป็นอย่างต่ำ
อันได้แก่ ภาษามาเลย์ ภาษาจีนกลาง และ ภาษาอังกฤษ
ในครอบครัวสามีเขาสื่อสารกันได้ถึง 6 ภาษา เป็นเป็ดกันเลยทีเดียว
ข้อเสียมีอยู่ นั่นคืออาจจะไม่ใช่ professional ในทุกภาษา
(แต่เราก็ไม่โปรเช่นกัน) ส่วนข้อดีมีเห็นดาดดื่น เขาไม่เคยกลัวเลย
ที่จะต้องไปที่ไหน เพราะสามารถพูดคุย หรืออ่านออกหมด
อาจจะทำให้ดูเหมือนว่า ความกลัวและความกล้านั้นแตกต่างกับเรา
เด็กในยุคหน้า เราจะไม่รู้เลยว่าอาชีพที่จะคงเหลืออยู่จะเป็นแบบไหน
คงจะเหลือเพียงให้เขาเรียนรู้จะเปิดกว้างต่อภาษา วัฒนธรรม
และการปรับตัวในการใช้ชีวิตง่ายๆ น่ะค่ะ
คิดถึงลูกอะ พรุ่งนี้เช้าตื่นมาต้องรีบโทรหาเป็นอย่างแรก
สวัสดีคะ คุณ minisiam
อดทดหน่อยนะคะ ดิฉันคิดว่าน้องน่าจะค่อยๆ ปรับตัวได้ และต่อไป น้องจะได้เก่งๆ พูดได้หลายภาษา ขนาดดิฉันเป็นลูกครึ่งจีน ยังพูดจีนไม่ได้เลยคะ :) เรียนโรงเรียนที่สอนภาษาจีนตั้งปต่ ป.1 ถึง ป.6 แต่ก็ไม่ได้เอามาใช้ ตอนนี้พูดไม่ได้แล้วคะ โตมาก็อดเสียดายไม่ได้ น่าจะต่อยอดไปเรื่อยๆ จะได้มีทักษะภาษาจีนไว้บ้าง
เป็นกำลังใจให้นะคะ :)
สวัสดีค่ะ.....
เอาใจช่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่...
ใจมันหวิว..หวิว...
เข้มแข็งนะคะ....
เพราะมีคนอีกฝั่งหนึ่ง.....
ก็กำลังทำแบบนี้อยู่....เหมือนกันแน่..แน่...
สู้....สู้...