เรื่องน่าอนาถใจ


“ประวัติศาสตร์”ได้จบสิ้นแล้วเนื่องจากระบอบประชาธิปไตยชนะคอมมิวนิสต์อย่างราบคาบ

       ผมนั่งใช้ความคิดตรงมุมหนึ่งของห้องสมุดของโรงเรียน ค่อนข้างจะยุ่งกับการสรุปผลการเรียนของนักเรียนที่ผมสอน อากาศก็มาร้อนอบอ้าวเอาในช่วงบ่ายแก่ ๆ    กาแฟก็เรียบร้อยไปแล้ว 4 ถ้วย! มานั่งรำพึงรำพันด้วยความสังเวชใจว่า การที่เราเกิดมาก็เป็นทุกข์ การมีชีวิตและดำรงอยู่ยิ่งทุกข์ยิ่ง! ก่อนที่ผมจะเพ้อไปไกลกว่านี้ ขอกลับสู่เรื่องที่ผมอยากเขียนดีกว่านะ.........

       หลังจากสงครามเย็นจบสิ้นใหม่ ๆ มีคนเขียนหนังสือชื่อ The End of History and the Last Man ตั้งสมมุติฐานว่า ประวัติศาสตร์ได้จบสิ้นแล้วเนื่องจากระบอบประชาธิปไตยชนะคอมมิวนิสต์อย่างราบคาบ ต่อจากนี้ไปโลกก็จะมีแต่ประชาธิปไตยและตลาดเสรี ซึ่งย่อมจะนำไปสู่สันติภาพและความมั่งคั่งที่ยั่งยืนถาวร

 

หนังสือเล่มนี้เป็นที่กล่าวขวัญกันมากเพราะพูดสิ่งที่หลาย ๆ คนอยากให้เป็นจริง แต่ในความเห็นส่วนตัวแล้วแม้จะมีประชาธิปไตยมาไว้ในกำมือก็เหะ ไม่รู้ว่าจะได้ใช้มันอย่างเต็มที่จริง ๆ หรือเปล่า!  โอ้....พร่ำเพ้อ..อย่างกับเป็นคนแก่อย่างซะอย่างงั้น....อิอิ..

 

         เอาน่า....แต่ตอนนี้เราก็เห็นแล้วว่าในชีวิตจริงในที่สุดประชาธิปไตยก็ไม่ได้ครองโลก พอ ๆ กับที่ ความรักไม่สามารถเอาชนะทุกสิ่ง ไม่ว่าเราจะอยากให้มันเป็นจริงแค่ไหน!! หรือใครจะเถียงผมบ้างครับ.....

 

เบนาซีร์ บุตโต เป็นคนหนึ่งที่ศรัทธาในอานุภาพของเสียงประชาชนและเชื่อว่าการเลือกตั้งที่กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 8 มกราคม จะนำเธอกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีปากีสถานอีกครั้งหนึ่ง

 

ความรู้และทักษะที่เธอสั่งสมมาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก ทั้ง Harvard (ฮ้าร์ฝัด) และ Oxford (อ๊อกสฺเฝิร์ด) น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากหากเธอได้มีโอกาสกลับมาบริหารประเทศ น่าเสียดายเหลือเกินที่คนเก่งอย่างเธอต้องมาสังเวยชีพให้กับพวกหัวรุนแรงบ้าคลั่ง....น่าเศร้าจัง

 

เรื่องแบบนี้คงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับประเทศแขก ไม่ว่าจะอินเดีย บังกลาเทศ หรือแม้แต่เมืองพุทธอย่างศรีลังกา การปลิดชีพผู้นำทางการเมืองดูเหมือนแทบจะกลายเป็นประเพณีก็ว่าได้ เราไม่แปลกใจกับข่าวแบบนี้แล้วแต่ก็อดไม่ได้ที่จะสะเทือนใจและเศร้าสลดทุกครั้งไป

 

เราจะสังเกตได้ว่าหลังจากเหตุการณ์ทำนองนี้ ผู้นำประเทศต่าง ๆ จะต้องออกมาแสดงความเห็น

 

ถ้าคุณพบว่าตัวเองตกอยู่ในสถานะนี้ คุณก็อาจใช้คำอย่าง cowardly (ค้าวเหวิร์ดหลี่) = ขี้ขลาด เช่น We strongly condemn this cowardly act. (วี สตรองลี คันเด็มนฺ ธิส คาวเหวิร์ดลีแย่คทฺ) = เราประณามการกระทำที่ขี้ขลาดครั้งนี้อย่างแรง (แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าการทิ้งระเบิดปูพรมจากเครื่องบินจัดเป็นการกระทำที่กล้าหาญมากกว่านี้แค่ไหน)

 

หรือคุณอาจจะ deeply shocked (ดีพลี ช่อคทฺ) = ช็อกอย่างมาก คือช็อกเข้าไปถึงทรวง

outraged (เอ๊าทฺเหรจดฺ) = เดือดแค้น   

(outrage เมื่อใช้เป็นนาม หมายถึง การกระทำที่ไม่คาดฝัน น่าเดือดแค้น รับไม่ได้

แต่ถ้าเป็นวิเศษณ์ outrageous (เอาทฺเร้จัส) เมื่อใช้เป็นภาษาพูดอาจมีความหมายในเชิงบวกได้ว่า สุด ๆ ไปเลย

 

และแน่นอนครับ เรื่องแบบนี้ย่อมเป็น tragedy (แทร็จจะดี่) = เรื่องน่าอนาถใจ โศกนาฏกรรม สำหรับการพัฒนาประชาธิปไตย   เหมือนกับประเทศนี้ บ้านเมืองนี้ หรือเปล่าครับ...?   อย่างน้อยเรื่องโศกนาฎกรรมทางความคิดก็เกิดขึ้นกับผมแล้ว!!!!

 

หมายเลขบันทึก: 171710เขียนเมื่อ 19 มีนาคม 2008 17:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

แวะมาเยี่ยมบันทึกครับ :)

สวัสดีค่ะ

แวะมาเยี่ยมด้วยคนค่ะ

อากาศร้อนแล้ว รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

 

สวัสดีครับอาจารย์ Wasawat Deemarn

  • ขอบคุณสำหรับการมาเยี่ยมของท่านครับ
  • จะพยายามเขียนต่อไปครับ

สวัสดีครับคุณดอกไม้ที่ปลายดอย~*

  • ขอบคุณมากครับที่มาทักทายและห่วงใยกัน
  • เช่นกันครับขอให้รักษาสุขภาพและคงความสวยงามไว้ที่ปลายดอยมิแปลเปลี่ยน
  • นะครับ....อิอิ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท