ปม ความรักความ หวังดี แบบโจโฉที่เราควรเลือกรับ หรือปฏิเสธ


สามก๊กตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ สอนให้เรารู้ว่า เมื่อเรารับความหวังดี จนบังเกิดเป็นหนี้บุญคุณ เราย่อมหลีกไม่พ้นที่จะต้อง ใช้คืนความหวังดี/หนี้บุญคุณ นั้นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น



สามก๊กตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ
ผู้แต่ง : เจ้าพระยาพระคลัง (หน)
ลักษณะคำประพันธ์ : ร้อยแก้ว ความเรียง เรื่องนิทาน


เรื่องย่อ

ประเทศจีนเริ่มตั้งเป็นก๊กในสมัยพระเจ้าเหี้ยนเต้แห่งราชวงศ์ฮั่น ซึ่งทรุดโทรม อ่อนแอ บ้านเมืองระส่ำระสาย คนมีฝีมือก็รวบรวมสมัครพรรคพวกตั้งตนเป็นใหญ่ มีสามก๊กใหญ่ๆ คือ

1.โจโฉ ตั้งตนเป็นใหญ่ในเมืองหลวง
2.ซุนกวน ตั้งตนเป็นใหญ่ ณ เมืองกังตั๋ง
3.เล่าปี่ ตั้งอยู่ ณ เมืองเสฉวน

ทั้งสามก๊กทำศึกกันหลายครั้ง จนโจโฉตาย โจผี ลูกชายขึ้นเป็นใหญ่แทน ถอดพระเจ้าเหี้ยนเต้ และตั้งตนขึ้นเป็นกษัตริย์วงศ์วุย

เล่าปี่ตั้งตนเป็นกษัตริย์วงศ์ฮั่น อยู่ ณ เมืองเสฉวน

ซุนกวนเป็นกษัตริย์อยู่ ณ เมืองกังตั๋ง

สามก๊กจึงมีก๊กโจผี (วุยก๊ก) ก๊กเล่าปี่ (จ๊กก๊ก) และก๊กซุนกวน (ง่อก๊ก)

ก๊กทั้งสามสืบต่อมาจนถึงลูกหลานและเสื่อมโทรมลง ในที่สุด สุมาเอี้ยน ขุนนางฝ่ายทหาร ถอดพระเจ้าโจฮวน (วงศ์โจโฉ) ออกจากราชสมบัติแล้วตั้งตนเป็นกษัตริย์วงศ์จิ๋น ปราบก๊กอื่นๆ ราบคาบ แล้วรวมประเทศเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันชื่อว่า “จีน”



เนื้อเรื่องตอนที่นำมาเป็นวิเคราะห์ ตอนที่ 22 กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ


ในสมัยพระเจ้าเหี้ยนเต้ โจโฉตั้งตัวเป็นมหาอุปราชสำเร็จราชการแผ่นดิน และคิดกำจัดเล่าปี่ซึ่งขณะนั้นครองเมืองซีจิ๋วอยู่ โจโฉตีเมืองเสียวพ่าย และเมืองซีจิ๋ว ซึ่งเป็นหัวเมืองของจ๊กก๊กได้ เล่าปี่หนีไปตัวคนเดียวเข้าพึ่งอ้วนเสี้ยว โจโฉจึงคิดจะไปตี เมืองแห้ฝือ ที่ กวนอู รักษาครอบครัวของเล่าปี่อยู่ในเมืองนี้

โจโฉได้ให้ เทียหยก ลวง กวนอู ออกมาจากเมืองแห้ฝือ และล้อมจับตัวกวนอูไว้ เทียหยก ได้ใช้อุบายปล่อยทหารของ เล่าปี่ ที่ โจโฉ จับเป็นเชลย เข้าไปเป็นไส้ศึกใน เมืองแห้ฝือ จน กวนอู เชื่อใจ แล้วให้ แฮหัวตุ้น คุมทหารไปท้ารบกับ กวนอู และสกัดทางไม่ให้กวนอูกลับเข้าไปในเมืองได้

กวนอู จึงคุมทหารหนีไปหยุดพักอยู่บนเขา ทหารไส้ศึก เปิดประตูเมืองรับโจโฉเข้าเมือง โจโฉให้จุดไฟเผาเมือง สำหรับครอบครัวเล่าปี่นั้นให้ทหารรักษาไว้ดังเดิม กวนอูตกอยู่ในวงล้อมของโจโฉ โจโฉ ต้องการ กวนอู ไว้ช่วงใช้ เตียวเลี้ยว นายทหารของโจโฉ อาสาเกลี้ยกล่อมกวนอูให้เข้ารับราชการกับโจโฉ

เตียวเลี้ยว เดิมเป็นเบ๊ ของลิโป้ ติดตามลิโป้มาตั้งแต่อยู่เมือง ตันลิว จนลิโป้ได้ครองเมืองชีจิ๋ว แล้วถูกโจโฉตีแตก ขณะที่ลิโป้ถูกลากตัวไปประหาร ลิโป้โกรธเล่าปี่ ที่ไม่ช่วยเหลือจึงร้องด่าไปตลอดทาง

เตียวเลี้ยวถูกมัดคุมตัว เดินสวนกับลิโป้ ก็ให้สติกับลิโป้ว่า ว่า เกิดเป็นชายชาติทหารจะกลัวความตายทำไม กวนอูซึ่งอยู่ในที่นั้นด้วยได้ฟัง ก็เกิดความชื่นชมในความกล้าหาญของเตียวเลี้ยว จึงขอให้โจโฉไว้ชีวิตแก่เตียวเลี้ยว โจโฉก็ยกโทษตายให้เตียวเลี้ยว และรับไว้เป็นทหารของตน

ตั้งแต่นั้นเตียวเลี้ยวก็ได้รับราชการในสังกัดโจโฉ จนกระทั่งเล่าปี่เป็นศัตรูกับโจโฉ ตั้งตัวเป็นใหญ่อยู่ที่เมืองชีจิ๋วแทนลิโป้ โจโฉจึงยกทัพมาปราบปราม

เล่าปี่หนีไปอยู่กับอ้วนเสี้ยว เตียวหุยหนีไปอยู่บนเขาบองเอี๋ยงสัน แต่กวนอูถูกล้อมอยู่ใกล้ เมืองแห้ฝือ

เตียวเลี้ยว นายทหารของโจโฉ อาสาเกลี้ยกล่อมกวนอูให้เข้ารับราชการกับโจโฉ โดยกล่าวกับกวนอูว่า หากกวนอู แหกด่านคิดสู้ตายกับกองทัพโจโฉจะมีผิด 3 ประการ กล่าวคือ

1.เล่าปี กวนอู เตียวหุย สาบานเป็นพี่น้องกันที่สวนดอกท้อ ว่าแม้ไม่ได้เกิดวันเดือนปีเดียวกัน ก็ขอ ตายวันเดือนปีเดียวกัน หากกวนอู ถึงแก่ความตาย ก็จะถือเป็นความผิดข้อที่ 1
2. เล่าปี่ ซึ่งเป็นเชื้อพระวงศ์คิดกอบกู้บ้านเมือง บัดนี้เล่าปี่ยังไม่สำเร็จการใหญ่ หากกวนอู ต้องตายลงเสียก่อน ก็จะถือเป็นความผิดข้อที่ 2 เพราะมิได้อยู่ช่วยงานเล่าปี่ให้สำเร็จการใหญ่
3.เล่าปี่ฝากครอบครัวของตนแก่กวนอู หากกวนอูตาย ก็จะถือเป็นความผิดข้อที่ 3 เพราะหากกวนอูตาย ก็ย่อมไม่มีใครดูแลครอบครัวของเล่าปี่



ในที่สุดกวนอูตัดสินใจยอมแพ้ แต่ขอคำมั่นสัญญา 3 ประการ กับเตียวเลี้ยว ฝากไปถึงโจโฉ ว่า


1. กวนอูขอเป็นข้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ตามที่เคยสาบานไว้กับเล่าปี่และเตียวหุย
2. ขอปฎิบัติต่อพี่สะใภ้ของตน(นางกำฮูหยินและบิฮูหยิน) โดยใช้เงินเบี้ยหวัดของเล่าปี่ที่เคยได้พระราชทานมาให้พี่สะใภ้ทั้งสอง และห้ามผู้ใดมากล้ำกรายเข้าถึงประตู
3. ถ้ากวนอูรู้ว่าเล่าปี่อยู่ที่ใด ตนก็จะไปหา แม้จะไม่ได้ร่ำลาโจโฉก่อนก็ตาม



โจโฉตกลงให้คำมั่นสัญญากับกวนอู ตั้งแต่นั้น กวนอู จึงต้องอยู่รับราชการในสังกัดของโจโฉ

โจโฉพยามที่จะซื้อใจกวนอู อยู่ทุกวันมิได้ขาด สามวันแต่งโต๊ะเลี้ยงทีหนึ่ง อีกทั้งพากวนอูไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ กวนอูได้รับพระราชทานนามว่า บีเยียงก๋ง แปลว่า เจ้าหนวดงาม

วันหนึ่งโจโฉเห็นม้าของกวนอูผอมโซ จึงยก ม้าเซ็กเธาว์ ซึ่งเคยเป็นม้าฝีเท้าดีของลิโป้ ม้าเซ็กเธาว์มีกำลังมากวิ่งได้วันละพันลี้ กวนอู ปลาบปลื้มใจยิ่งนัก ถึงกับหลุดปากออกมาว่า ดีจริงวันใดเมื่อเรารู้ข่าวว่าท่านพี่เล่าปี่อยู่ที่ใด เราจะได้ไปหาเล่าปี่ได้เร็วขึ้น

โจโฉจึงมีความวิตกยิ่งนัก ใจหนึ่งก็ชื่นชมกวนอูว่ามีความกตัญญูหาผู้ใดเสมอมิได้ แต่อีกใจหนึ่งรู้สึกน้อยใจที่พยายามเลี้ยงดูกวนอูด้วยทรัพย์สมบัติและยศศักดิ์เท่าใด ก็ไม่สามารถทำให้กวนอูเสื่อมความภักดีต่อเล่าปี่ได้

โจโฉจึงปรึกษากับเตียวเลี้ยวว่า เห็นจะเปล่าประโยชน์ที่จะเลี้ยงดูกวนอูอีกต่อไป เตียวเลี้ยวจึงอาสาไปหยั่งฟัง ความคิดเห็นของกวนอูดูก่อน แล้วเตียวเลี้ยวก็ได้คำตอบจากกวนอูว่า สำหรับโจโฉนั้น กวนอูสำนึกในบุญคุณอยู่เสมอ แต่เล่าปี่เป็นพี่ร่วมสาบาน มีคุณแก่กวนอูมาก่อน ถ้าเล่าปี่ตาย กวนอูก็จะตายตามไปด้วยดังที่สาบานไว้

แม้ว่ากวนอูจะต้องจากโจโฉไป ก็จะไม่ลืมบุญคุณของโจโฉ และจะต้องตอบแทนบุญคุณของโจโฉอย่างแน่นอน เตียวเลี้ยวนำความไปบอกโจโฉ โจโฉได้แต่ถอนหายใจ วิตกกังวลที่ไม่สามารถซื้อใจกวนอูมาจากเล่าปี่ได้

ซุนฮก จึงแนะนำแก่โจโฉว่า เมื่อกวนอูบอกว่าจะแทนคุณก่อนจากไป เพราะฉะนั้น เวลามีศึกก็อย่าให้กวนอูออกรบ เพราะถ้ายังไม่มีความชอบ กวนอู ก็จะยังอยู่กับโจโฉเป็นมั่นคง โจโฉ เห็นด้วยกับซุนฮก

ซ้ำโจโฉยังแสร้งใช้อุบาย เพื่อให้น้ำใจของกวนอูหักหาญแปรเปลี่ยนจากเล่าปี่ ในคราวระหว่างเดินทัพทางไกล เมื่อหยุดทัพ ณ ตำบลใด ยามตกค่ำ โจโฉก็จัดให้กวนอูกับ ฮูหยินของเล่าปี่ พักอยู่ร่วมกระโจมเดียวกัน หมายว่าหากชายหญิงอยู่ใกล้ชิดกัน ย่อมเสมือนน้ำมันใกล้เปลวไฟ ซึ่งพร้อมที่ปะทุลุกโชนด้วยเรื่องความรักความใคร่ โจโฉจึงเปิดช่องให้กวนอูคิดล่วงเกินฮูหยินเล่าปี่ ซึ่งนำไปสู่การแตกหักกับเล่าปี่

แต่การณ์ผิดคาด ทุกค่ำคืน กวนอู จะออกมายืนอยู่หน้ากระโจมพักเพียงลำพัง กุมง้าวมังกรเขียวไวัอย่างมั่นคง ยืนเฝ้ารักษาการณ์ภายนอกอย่างสงบนิ่ง ไม่ขยับเขยี้อนตลอดคืน เป็นเช่นนี้ทุกค่ำคืน

ฝ่ายเล่าปี่ หลบหนีไปอยู่กับ อ้วนเสี้ยว อยู่มาอ้วนเสี้ยวเชื่อคำยุยงของเล่าปี่ ให้ออกรบกับโจโฉ อ้วนเสี้ยวได้สั่งให้ งันเหลียง ทหารเอก เป็นทัพหน้า เดินทัพเข้าทางด่านแปะแบ๊ ทหารโจโฉ มีความกริ่งเกรง ครั่นคร้ามในฝีมือ ของงันเหลียง ไม่มีใครขันอาสาออกสู้รบ กวนอูขันอาสาออกสู้รบ โจโฉจำใจต้องให้กวนอูออกสู้รบ กวนอูใช้ง้าวฟัน งันเหลียง คอขาดตาย

อ้วนเสี้ยวจึงส่ง บุนทิว ผู้ซึ่งมีฝีมือไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า งันเหลียง ออกสู้รบกวนอูก็ฆ่า บุนทิว ตายเสียอีกคน กวนอูฆ่าแม่ทัพของอ้วนเสี้ยว ตายถึงสองคน ซึ่งควรจะถือเป็นการตอบแทนบุญคุณของโจโฉได้ในระดับหนึ่ง

อยู่มากวนอูได้ข่าวว่าเล่าปี่ไปอยู่ด้วยอ้วนเสี้ยว จึงลาจากโจโฉ เพื่อเดินทางไปหาเล่าปี่ ความต่อจากตอนนี้ เป็นตอนที่ 23-24 กล่าวถึงกวนอูพอรู้ว่า เล่าปี่อยู่กับอ้วนเสี้ยวที่เมืองกิจิ๋ว กวนอูก็ลาโจโฉไปโดยให้คำมั่นสัญญาว่า จะหาโอกาสตอบแทนบุญคุณของโจโฉให้จงได้ โจโฉ นับถือในความสัตย์ซื่อของกวนอู และยึดมั่นในคำคำสัญญา 3 ข้อที่เคยให้ไว้กับกวนอู

โจโฉขี่ม้าตามไปส่งกวนอู พอตามกวนอูทัน โจโฉมอบเสื้อให้กับกวนอูเป็นที่ระลึก ตามมารยาท กวนอูต้อง ลงจากหลังม้าเพื่อรับเสื้อจากโจโฉ แต่กวนอู มิได้ลงจากหลังม้า ซ้ำยั้งใช้ใช้ง้าวรับเสื้อจากโจโฉ ซึ่งในสมัยนั้นถือเป็นดูหมิ่นไม่ให้เกียรติกันอย่างร้ายแรง

การที่กวนอูไม่ยอมลงจากหลังม้า คงเพราะคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองก็เป็นไปได้ และถือเป็นความรอบคอบในเชิงทหาร ซึ่งโจโฉเองก็คงเข้าใจเหตุผลในข้อนี้

และในตอนที่ 42 เล่าปี่ ร่วมมือกับซุนกวน เผาทัพเรือของโจโฉจนแตกพ่าย

ขงเบ้ง ที่ปรึกษาของเล่าปี่ ทราบดีว่า กวนอูเป็นหนี้บุญคุณโจโฉอยู่มาก จึงแสร้งใช้ให้กวนอู ตามไปจับตัวโจโฉ มาให้จงได้ พร้อมทั้งให้กวนอูลงนามทำสัญญาไว้ด้วยว่า หากกวนอูปล่อยตัวโจโฉเป็นอิสระก็จะต้องได้รับโทษถึงขั้นประหารชีวิต

ทว่าในที่สุด กวนอู ก็ตัดสินใจ ปล่อยตัวโจโฉ ให้หนีรอด เพราะคิดถึงบุญคุณของโจโฉ จากนั้นกวนอู เดินทางกลับมารับโทษตายกับขงเบ้ง

ขงเบ้งไม่เอาผิดกับกวนอู เพราะรู้อยู่แล้วว่ากวนอู เป็นคนสัตย์ซื่อถือคุณธรรม ย่อมที่จะต้องเลือกชดใช้หนี้บุญคุณคืนต่อโจโฉ แม้ต้องแลกด้วยชีวิตของตนเอง ขงเบ้งทำเช่นนี้ก็เพื่อต้องการให้กวนอูและโจโฉ ลบล้างหนี้บุญคุณต่อกัน

 





ความหวังดี แบบโจโฉ ที่เราควรเลือกรับ หรือปฏิเสธ??

หากเรานำสามก๊ก ตอนที่กล่าวมาข้างต้น มาวินิจวิเคราะห์ ก็จะพบว่า สถานการณ์ เมื่อหลายพันปีก่อนก็ไม่ได้แตกต่างจากสถานการณ์ในปัจจุบันนี้เท่าใดนัก

ความหวังดี และหนี้บุญคุณ แบบโจโฉ ก็ยังมีให้เห็นอยู่ในสมัยปัจจุบัน กล่าวคือ เมื่อใดก็ตามที่มีผู้แสดงตนว่า หวังดีต่อเรา ต้องการที่จะช่วยเหลือเรา เราก็ควรมองให้ลึกถึงจิตใจของเขาว่า เขามีความหวังดีกับเราด้วยความบริสุทธิ์ใจหรือไม่ มีสิ่งใดแอบแฝงอยู่หรือไม่ ทำดีเพราะอะไร และเขาจะได้สิ่งใดตอบแทนจากการที่เขาทำดีกับเรา?

โจโฉ ทำดีกับ กวนอู ก็เพราะชื่นชมในฝีมือของกวนอู และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ โจโฉต้องการ กวนอูไว้ช่วงใช้เพื่อแผ่ขยายอิทธิพลของตนเอง หากกวนอูมิได้มีความสัตย์ซื่อ หากกวนอูมิได้มีฝีมือในการรบ ไฉนเลยโจโฉจะชายตาแล ในปัจจุบันผู้เขียนพบเห็น ความหวังดี และหนี้บุญคุณ แบบโจโฉ อยู่บ่อยครั้ง ยกตัวอย่างเช่น

เพื่อนสนิทของผู้เขียนท่านหนึ่ง รับราชการ  เธอแต่งงานแล้วมีลูก 1 คน เนื่องจากตำแหน่งหน้าที่ของเธอ ต้องพัวพันอยู่กับการเป็นคณะกรรมการบริหาร ส่งผลให้โชคชะตาของเธอต้องประสบพบพาน กับบุคคลแบบโจโฉ ผู้ซึ่งคอยจ้องที่จะเข้ามาทำดีแบบหวังผลอยู่มิได้ขาดสาย

กวนอู ได้รับม้าเซ็กเธาว์จากโจโฉ เพื่อนผู้เขียน ก็มีรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz) คอยเทียวรับเทียวส่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางอยู่เสมอๆ

โจโฉพยามที่จะซื้อใจกวนอูอยู่ทุกวันมิได้ขาด สามวันแต่งโต๊ะเลี้ยงทีหนึ่ง เพื่อนผู้เขียน ก็มีหนุ่มใหญ่เจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้างพาไปเลี้ยงข้าวทุกๆ วัน ศุกร์มิได้เว้น

โจโฉพากวนอูไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ กวนอูได้รับพระราชทานนามว่า บีเยียงก๋ง แปลว่า เจ้าหนวดงาม การที่โจโฉพากวนอูไปเฝ้าพระเจ้าเหี้ยนเต้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นว่ากวนอูมีความจงรักภักดีต่อพระเจ้าเหี้ยนเต้ แต่ที่รู้ๆ กันอยู่ว่าโจโฉมีอำนาจล้นฟ้า สำเร็จราชการแทนพระเจ้าเหี้ยนเต้ พระเจ้าเหี้ยนเต้ เป็นแต่เพียงหุ่นกระบอกที่ถูกเชิดโดย ทรราชโจโฉเท่านั้น

เช่นเดียวกันกับพฤติกรรมของหนุ่มใหญ่เจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้างก็แสร้งทำเป็นควักรูปลูกเมียของตนเองออกมาจากกระเป๋าสตางค์ พร้อมทั้งคุยเขื่องว่า ตนเองมีลูกมีเมียแล้ว หนำซ้ำยังมีความรักลูกรักเมียของตนเองอย่างยิ่งยวด (รักเมียตัวเอง แต่ก็มีเวลาพาเมียคนอื่นไปเที่ยว) ซ้ำยังคอยชมเธออยู่เสมอว่า มีใบหน้าที่อ่อนกว่าวัย มีการแต่งตัวที่ดูดีมีเอกลักษณ์ ฯลฯ

โจโฉแสร้งใช้อุบาย ในคราวระหว่างเดินทัพทางไกล เมื่อหยุดทัพ ณ ตำบลใด ยามตกค่ำ โจโฉก็จัดให้กวนอูกับ ฮูหยินของเล่าปี่ พักอยู่ร่วมกระโจมเดียวกัน

หนุ่มใหญ่เจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้าง เมื่อครั้งพา เพื่อนผู้เขียนไปไหว้พระ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมกันนั้นก็แนะนำให้ เพื่อนผู้เขียนโทรศัพท์ชวนสามีของเธอ เพื่อไปไหว้พระ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยกัน หรือหากสามีเธอติดธุระ ก็ให้เธอถามว่าจะฝากอฐิษฐานขอพรสิ่งใดหรือไม่ เราจะเห็นว่าพฤติกรรมของหนุ่มใหญ่เจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้าง ก็ไม่ต่างอะไรกันกับพฤติกรรม ของโจโฉที่ ให้ กวนอูอยู่กันสองต่อสองกับพี่สะใภ้ จากนั้นก็ส่งข่าวให้เล่าปี่ล่วงรู้ หากกวนอู วางตัวไม่ดีไม่งาม ก็ต้องร้าวฉานกับเล่าปี่ เช่นเดียวกันกับเพื่อนผู้เขียนเพื่อนของผู้เขียน ถ้าหากเธอวางตัวไม่ดี ไม่งาม กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ แม้นสามี (เล่าปี่) จะไว้ใจเธอ (กวนอู) แต่ลูกน้องของเล่าปี่ และลูกน้องของกวนอู นะสิจะคิดเช่นใด

เพื่อนผู้เขียนก็เหมือนกวนอู ยินยอมรับความหวังดี ของโจโฉ แม้จะมิได้เต็มใจ แต่ตกอยู่ในจังหวะชีวิตที่คล้ายๆ กับกวนอูพอดิบพอดี

จากสถานการณ์ในสามก๊กข้างต้น สาเหตุสำคัญสืบเนื่องมาจาก กวนอูและเล่าปี่ ต้องพรัดพรากไกลจากกัน โจโฉจึงมีโอกาสเข้ามาแทรกแทรงเป็นมือที่สาม

การที่กวนอู ฆ่างันเหลียง และบุนทิว สองแม่ทัพของอ้วนเสี้ยวตาย ก็ถือเป็นการชดใช้หนี้บุญคุณต่อโจโฉ ได้ในระดับหนึ่ง คล้ายกรณีเพื่อนของผู้เขียน ที่หากเธอแนะนำเพื่อนๆ ของเธอที่ต้องการสร้างบ้าน ให้ว่าจ้างนายหนุ่มใหญ่เจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้าง ก็ถือเป็นการชดใช้หนี้บุญคุณกันได้ในระดับหนึ่ง (เปรียบเสมือน กวนอู สังหารงันเหลียง) หรือมิเช่นนั้นการที่ เธอมีโครงการที่จะสร้างบ้านและมีความคิดที่จะ มอบหมายให้ หนุ่มใหญ่เจ้าของกิจการรับเหมาก่อสร้าง รับเหมาสร้างบ้านให้กับเธอ ก็ถือเป็นการชดใช้หนี้บุญคุณกันได้ในระดับหนึ่งเช่นเดียวกัน (เปรียบเสมือน กวนอู สังหาร บุนทิว)


สามก๊กตอน กวนอูไปรับราชการกับโจโฉ สอนให้เรารู้ว่า เมื่อเรารับความหวังดี จนบังเกิดเป็นหนี้บุญคุณ เราย่อมหลีกไม่พ้นที่จะต้อง ใช้คืนความหวังดี/หนี้บุญคุณ นั้นๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น

กวนอูยอมทำผิดวินัยราชการมีโทษถึงตาย แต่ก็ไม่ตาย หนำซ้ำยังได้รับการแซ่ซร้องสรรเสริญ และถูกยกย่องให้เป็นเทพเจ้าแห่งความสัตย์ซื่อ ผู้เขียนหวังใจว่าเพื่อนของผู้เขียน เธอคงยังไม่ขั้น กระทำผิดวินัยราชการ เพื่อตอบแทนบุญคุณของใครบางคน

วินัยราชการในที่นี้ที่ผู้เขียนมีความเป็นห่วงก็คือวินัยราชการว่าด้วยเรื่องชู้สาว และวินัยราชการว่าด้วยเรื่องการทุจริตในหน้าที่ ซึ่งมีโอกาสที่จะเกิดขึ้น ทั้งสองข้อ


อนึ่งผู้เขียนไม่อยากที่จะคิดต่อไปถึงขั้นที่ว่า จะมีคนแซ่ซร้องสรรเสริญเพื่อนผู้เขียนสักเพียงใด ถ้าหากเธอตัดสินใจกระทำผิดวินัยราชการ แบบกวนอู

 

หมายเลขบันทึก: 166708เขียนเมื่อ 22 กุมภาพันธ์ 2008 10:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 8 มิถุนายน 2012 04:12 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

สวัสดีค่ะ

- แรกเริ่มตั้งใจแวะเข้ามาเยี่ยม

- ดูไปดูมา

- อะโหแฟนสามก๊กตัวจริงนะนี่

- ระวังตัวด้วยนะคะ

- ประเดี๋ยวใครอยากให้เป็นกวนอู

- สุดท้ายคุณปริทัศน์ ประเมินค่า และนำไปใช้ได้ยอดเยี่ยมค่ะ

- ว่าง ๆขอเชิญบรรยายพิเศษวิชาภาไทยเรื่องการอ่านเพื่อปริทัศน์ค่ะ

สวัสดีครับ คุณ P พรรณา ผิวเผือก
ยินดีครับ ที่แวะมาตามอ่าน

คนที่ไปดูมาแล้ว อ่านจบแล้วด้วย

แย่มาก จอห์น วู ทำอะไรมาขายเรา แค่ตั้งชื่อก็ผิดแล้ว จะไปตั้งชื่อตอนว่า โจโฉ

แตกทัพเรือที่ผาแดงได้อย่างไร ในเมื่อยังไม่ได้ฉายเหตุการณ์ดังกล่าว เราเสียเงินฟรี

เพื่อไปดีจูกัดเหลียง ตีทัพบกแตกซึ่งเป็นทัพหน้าของโจโฉ มิได้ตีทัพเรือซักนิดเดียว ในเรื่องบิดเบือนเหตุการณ์ไปมากมาย ตอนที่ควรมีก็ไม่มี ตอนที่ไม่มีก็เมคมันขึ้นมา

การแสดงเหมือนการ รบ สไตล์ lord of the ring และมีฉากเลิฟซีนเหมือนหนังฝรั่ง กลิ่นอายของวรรณกรรมสามก๊กหมดลงทันที แล้วจะเป็นหนังของเอเชียที่แท้จริงได้อย่างไร

ถ้าแบบนี้ไม่ต้องไปดูให้เสียเวลารอดูแผ่น 2 เลยดูกว่าจะได้ดูถูกเรื่องตามชื่อจริงๆ

  • ขอบคุณครับ คนที่ไปดูมาแล้ว อ่านจบแล้วด้วย
  • ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน แสดงว่าเป็นผู้ที่สนใจ สามก๊กอย่างแท้จริง ผมยังไม่ได้ไปดูครับ ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟังนะค้าบ
  • มีฉากเลิฟซีนเหมือนหนังฝรั่ง? (จริงป่าวครับ)

 

ขอบคุณเจ้าของบล็อคมากเลยครับ ผมต้องสอบเรื่องนี้พอดี

ท่านวิเคราะห์ได้ละเอียดแล้วก็ได้ประโยชน์ อิงสถานการณ์ปัจจุบัน

วิธีการดำเนินเนื้อหาก็ไม่วกวน เหมาะแก่การอ่านโดยสรุป แต่ได้เนื้อหาอย่างละเอียด

ขอบคุณมากๆครับ

ข้อความในที่นี้ใช้เป็นแบบ ฉากในเรื่องมันอะป่าว ครับผม

ผมว่าน่าจะมีรายละเอียดมากว่านี้คับ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลเรื่อง สามก๊ก ตอนกวนอูไปรับราชการกับโจโฉ มากๆ นะครับ ผมนั่งอ่านเองคงไม่รู้เรีื่องเท่านี้ พรุ่งนี้ผมต้องสอบภาษาไทยอ่ัะครับ ถ้าได้คะแนนดีๆ ผมจะมาขอบคุณอีกครั้งหนึ่งนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท