บันทึกการเมืองไทย (1)

บันทึกการเมืองไทย (1)

         บทความเรื่อง Charter 'too weak' to deal with capital   โดยประดิษฐ์  เรืองดิษฐ์   ในบางกอกโพสต์  วันที่ 18 ก.พ.49   เขียนข่าวคำปาฐกถาของ ศ. ดร. ชัยอนันต์  สมุทวณิช   ทำให้ผมเขียนบันทึกย่อตอนนี้
- รัฐธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ.2540   มีข้ออ่อนที่สุดตรงที่เปิดช่องให้ธุรกิจและเงินตรา   เข้ามาปกครองประเทศและใช้อำนาจหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้อง
- ในประเทศไทยเงินซื้อคนในระดับ สส., สว.,  กรรมการในองค์กรอิสระ (บางคน) ได้
- เชื่อกันว่ามีบางคนใช้การเดินทางไปเยือนมิตรประเทศ   ทำให้บริษัทของตนได้รับผลประโยชน์ในการทำธุรกิจกับประเทศนั้น
- องค์กรอิสระถูกฝ่ายบริหารประเทศเข้าไปทำให้ไม่เป็นอิสระ   และทำงานรักษาผลประโยชน์ของฝ่ายที่มีอำนาจบริหารมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศส่วนรวม
- ฝ่ายบริหารดำเนินการอย่างแยบยล   ในการแก้กฎหมาย/เงื่อนไขต่าง ๆ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ธุรกิจของตนและพวกพ้อง   ดร. ชัยอนันต์ถึงกับกล่าวว่าพฤติกรรมแบบนี้จะทำให้ผู้นำในประเทศที่พัฒนาแล้วไม่ได้รับการยอมรับให้ดำรงตำแหน่ง   ผมจึงสะท้อนใจว่าทำไมคนไทยจึงอดทนต่อความชั่วร้ายแบบนี้
- ถ้อยคำอื่น ๆ ในสื่อมวลชนได้แก่  คอรัปชั่นเชิงนโยบาย   ผลประโยชน์ทับซ้อน   ใช้อำนาจรัฐหนุนธุรกิจ   หลีกเลี่ยงภาษี   ปกปิดทรัพย์สิน   อาศัยข้อมูลทางราชการที่เข้าถึงได้โดยอำนาจหน้าที่ของตนไปใช้หาประโยชน์ (เช่นผ่านหุ้นที่ตนหรือพวกพ้องถือครองอยู่)  ตั้งบริษัทจำแลงมาพักโอนรับหุ้น   โอนหุ้นให้บุตรของตนแต่อำนาจจัดการที่แท้จริงยังอยู่ที่ตนเอง   ปกปิดทรัพย์สินในบัญชีแจ้งทรัพย์สิน   ครองงำองค์กรอิสระ
- ผมยิ่งสรุปกับตัวเองชัดเจนขึ้นอีกว่า   มาตรฐานจริยธรรมของคนคนนี้คือถ้าไม่ผิดกฎหมาย   หรือกฎหมายจับไม่ได้ไล่ไม่ทันแล้ว   ทำได้ทั้งนั้นเพื่ออำนาจของตัวเอง

วิจารณ์  พานิช
 18 ก.พ.49

ไม่เข้าใจเหมือนกัน...พวกที่ว่าตนเองเป็นคนดี ,มีความรู้ความสามารถ พวกคนชั้นกลาง ชั้นสูงทั้งหลาย ที่เมื่อเกิดเหตุการณ์หรือสถานการณ์อะไรขึ้นมา ก็ชอบออกมาแสดงความคิดเห็น นี่  นั่น โน่น ทำไมไม่ทำอย่างนั้น อย่างนี้ หรือต้องทำอย่างนั้นซิ อย่างนี้ซิ  มีข้อเสนอแนะสารพัดว่ากันได้ทุกเรื่อง แต่ทำไมคนพวกนี้ไม่รู้จักแสดงความคิดเห็นก่อนที่เรื่องมันจะรุกลาม...

ศรัทธาในความดีและการทำดี  แต่ เซ็งๆๆคนดีจริง ๆ เฮ้อ!

จาก ผู้ที่ไม่อยู่ฝ่ายใด  

[คนพัทลุง]

 ตอนนั้นนานมาแล้วมีคนพูดเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนกันมากพอสมควรโดยเฉพาะอาจารย์หมอประเวศ แต่ไม่ใครฟังถึงตอนคนหลายคนในประเทศน่าถึงบางอ้อนะครับ โดยส่วนตัวของผมตอนปี 40 ผมเลือกพรรคไทยรักไทย แต่ปี 2544 ผมไม่เลือกไทยรักไทยเพราะผมได้ติดตามข่าวสารมาตลอดครับว่าเกิดอะไรขึ้น ผมอยากให้คนไทยรับรู้ข่าวให้มากกว่านี้ ไม่ใช่เหมือนในปัจจุบัน ถ้าข่าวสารที่รับรู้เป็นข่าวที่ตรงกับความเป็นจริงจะทำให้ทุกอย่างกระจ่างมากกว่านี้ครับ

[ชาตรี]

ลอร์ดแอคตัน นักประติศาสตร์ชาวอังกฤษ ท่านสรุปเป็น "ประโยคทอง" ว่า

Power tends to corrupt, absolutes power corrupt absolutely.

Lord Acton (1834-1902)

[ชาตรี]

ขออภัยที่พิมพ์ตก พิมพ์ผิด ที่แก้ไขคำผิดแล้ว คือ

ลอร์ดแอคตัน นักประวัติศาสตร์ชาวอังกฤษ ท่านสรุปเป็น "ประโยคทอง" ว่า

Power tends to corrupt, absolute power corrupt absolutely.

Lord Acton (1834-1902)

[คนพัทลุง]

  แก้ไขความคิดเห็นข้างของผมครับจำผิด" ตอนปี 44 ผมเลือกพรรคไทยรักไทย แต่ปี 2548 ผมไม่เลือกไทยรักไทย"