ตรวจสมุด


การตรวจสมุดจะทำให้ครูผู้สอนรู้จักนักเรียนดีขึ้นมาก สามารถรู้ปัญหา รู้ความต้องการ รู้ถึงส่วนต้องเสริมเติมให้ ฯลฯ ในที่สุดครูจะพัฒนานักเรียนได้

ทั้ง พ.ร.บ.การศึกษาฯทั้ง พ.ร.บ.การศึกษาและหลักสูตร กำหนดให้โรงเรียนต้องวัดประเมินผลผู้เรียนตามสภาพจริง ด้วยวิธีการต่าง ๆ อย่างหลากหลาย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะที่ผ่านมา ครูผู้สอนมักเน้นประเมินด้วยการทดสอบเพียงอย่างเดียว

การวัดผลด้วยข้อสอบเพียงอย่างเดียว เป็นข้อด้อยที่จะตัดสินว่า นักเรียนมีพัฒนาการได้เกณฑ์มาตรฐานแล้วหรือยัง มาตรฐานหลักสูตรหรือสาระสำคัญของแต่ละรายวิชา บางส่วนอาจเป็นความรู้ แต่บางส่วนอาจเป็นทักษะ เป็นการนำไปใช้ บ้างก็เป็นคุณธรรมจริยธรรม ซึ่งเหล่านี้ยากมากหรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย ที่จะประเมินตัดสินด้วยข้อสอบเท่านั้น  

ฉะนั้นการวัดประเมินผลด้วยวิธีอื่น ๆ ประกอบ โดยเน้นสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น อาทิ ตรวจให้คะแนนผลงาน ประเมินแนวคิด วิธีการ สังเกตการทำงาน การนำเสนอ การอภิปราย รวมทั้งสัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องบ้าง ให้ประเมินตนเองบ้าง ฯลฯ ก็น่าจะเห็นพัฒนาการของผู้เรียนได้ถูกต้องแม่นยำขึ้น

การวัดประเมินผลอย่างง่าย ๆ วิธีหนึ่ง ซึ่งครูเราปฏิบัติมาช้านานจนทุกวันนี้ เป็นการประเมินตามสภาพจริงเที่ยงตรงมากวิธีหนึ่ง เพราะสามารถรู้จักนักเรียนได้อย่างละเอียดทุกแง่มุม แต่เรามักละเลย อาจเป็นเพราะภาระงานอื่น ๆ นอกเหนือจากงานสอนเพิ่มขึ้น อาจดูว่าวิธีนี้ล้าสมัยแล้วหรือพะวงจนเกินไปว่า จะไม่เป็นการปฏิรูปการศึกษาอย่างที่ พ.ร.บ.ต้องการ วิธีที่ว่า คือ การตรวจสมุด

การตรวจสมุดจะทำให้ครูผู้สอนรู้จักนักเรียนดีขึ้นมาก สามารถรู้ปัญหา รู้ความต้องการ รู้ถึงส่วนต้องเสริมเติมให้ ฯลฯ ในที่สุดครูจะพัฒนานักเรียนได้ แต่ก่อนอื่นครูต้องตระหนัก เห็นความสำคัญ จนนำไปสู่การปฎิบัติอย่างจริงจังและต่อเนื่องเสียก่อน จะว่าไปแล้วเพียงแค่เห็นรูปเล่มภายนอกของสมุด ก็พอจะรู้จักอุปนิสัยของเจ้าของแล้วว่าเรียบร้อยหรือไม่ ละเอียดหรือมักง่าย ดูแลรักษาสมบัติตนเองดีหรือเปล่า

ลองนึกดู ถ้าสมุดเล่มหนึ่ง ปกหลุดออกจากเนื้อใน เล่มสมุดม้วนงอ ยับยู่ยี่ มุมปกขาดวิ่น เขียนอะไรเลอะเต็มไปหมด ทั้งการ์ตูน กลอน เนื้อเพลง ฯลฯ สมุดใคร หาชื่อ หาเลขที่ หาห้องไม่ได้ ไม่รู้เขียนไว้หรือไม่ อยู่ตรงไหน

แต่กับอีกเล่มหนึ่งเรียบกริบ ไม่มีรอยยับย่น รอยปากกาขีดข่วนสักรอยก็หาไม่ได้ ปกสมุดห่อเรียบร้อย ชื่อสกุล ชื่อห้อง เลขที่ เขียนด้วยตัวบรรจงชัดเจน ประดิดประดอยด้วยดินสอสี อย่างมีศิลปะ สวยงาม

พอเปิดเข้าไปดูเนื้อหาข้างใน เล่มหนึ่งแทบไม่มีอะไรเลย เขียน ๆ เว้น ๆ รอยขีดฆ่าไม่เอามีให้เห็นเป็นระยะ ขอบกระดาษเหลือจากการฉีกเว้าแหว่งสลับเว้นหน้า งานที่พอจะทำบ้างถูกเขียนด้วยลายมือไร้อารมณ์ ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง เส้นไม่เคยขีด ผิดก็ขีดเขียนทับอย่างมักง่าย สกปรก

แต่กับอีกเล่มหนึ่งตรงกันข้ามเลย ดั่งสวรรค์กับนรก พอจะนึกออกแล้วใช่ไหมว่า นักเรียนซึ่งเป็นเจ้าของสมุดทั้งสองเล่มนั้น มีลักษณะนิสัย ความประพฤติ ความตั้งใจ ความมุ่งมั่นในการทำงานต่างกันอย่างไร ใครสมควรได้คะแนนมาก ใครสมควรต้องเร่งพัฒนาให้ก่อน

ตามหลักการพหุปัญญา นักเรียนเก่ง..ไม่ใช่มีแต่เก่งความรู้ที่ได้จากเนื้อหาวิชาเท่านั้น แต่ยังมีความเก่งอีกหลายอย่าง เก่งดนตรี เก่งกีฬา เก่งงานฝีมือ หรือ คุณธรรมจริยธรรมเยี่ยมยอด จิปาถะในตัวของนักเรียนแต่ละคน ครูผู้สอนซึ่งใช้เวลาช่วงสั้น ๆ แค่ในชั่วโมงเรียน จึงไม่อาจพบหรือรู้จักความเก่งของนักเรียนแต่ละคนได้ทั้งหมด

แต่การวัดประเมินผลอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง หลากหลาย และตามสภาพจริง จะทำให้ครูรู้จักและพัฒนานักเรียนแต่ละคนตามศักยภาพได้ดีขึ้น โดยเฉพาะการตรวจสมุด ซึ่งเราอาจละเลยหรือหลงลืมไป

ช่วงปี ๒๕๔๒ ประโยคหนึ่งของเพื่อนครูสะท้อนก้องในใจเสมอมา วันนี้ยิ่งถูกตอกย้ำด้วยกาลเวลา

“ที่จะปฏิรูปการศึกษาอะไรนั้น ตรวจสมุดกันก่อนเถอะ”

หมายเลขบันทึก: 161855เขียนเมื่อ 28 มกราคม 2008 12:39 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2023 13:59 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
เห็นด้วยมาก ๆ เลยครับ

การตรวจสมุดเป็นงานหลักช่วงค่ำของครูแป๋มค่ะ  รับรองว่าอ่านหมดทุกตัวอักษรแน่ๆค่ะ  บางคืนถึง 3-4 ทุ่มก็มี  เพลินกับการสรรสร้างผลงานของเด็กน่ะค่ะ  ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ  คุณครูเป็นต้นแบบให้แป๋มหลายต่อหลายเรื่องทีเดียวทราบไหมคะ?

การตรวจสมุดเป็นงานหลักช่วงค่ำของครูแป๋มค่ะ  รับรองว่าอ่านหมดทุกตัวอักษรแน่ๆค่ะ  บางคืนถึง 3-4 ทุ่มก็มี  เพลินกับการสรรสร้างผลงานของเด็กน่ะค่ะ  ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ  คุณครูเป็นต้นแบบให้แป๋มหลายต่อหลายเรื่องทีเดียวทราบไหมคะ?

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท