เมื่อวานเป็นวันครู ผมได้อ่านบันทึกของหลายท่านแล้วน่าใจหายเรื่องการศึกษาของบ้านเราครับ....ผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่ง ชื่อว่า "หลากหลายวิธีสอน ที่ไม่หลอกหลอนวิธีเรียนรู้" เป็นหนังสือของ คุณครูชาตรี สำราญ จัดพิมพ์โดย มูลนิธีสดครี-สฤษดิ์วงศ์ พิมพ์ปี 2542 ครับ มีคำนิยมที่น่าสนใจ ของ ศ.นพ.ประเวศ วะสี ด้วย ผมจะนำมาบันทึกบางส่วนมาช่วยพิจารณากันครับ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง .........
"ไม่มีมนุษย์ใด ๆ ในโลกที่เหมือนกัน แม้แต่ลูกแฝดไข่ใบเดียวกัน ธรรมชาติของมนุษย์ คือ ความหลากหลาย หลากหลายเท่ากับจำนวนมนุษย์ทั่วโลกนั่นแหละ ความรู้สึกนึกคิด ความชอบ ไม่ชอบ ความสนใจ และความถนัดของแต่ละคนไม่เหมือนกันเลย แต่ท่ามกลางความไม่เหมือนกันนั้น แต่ละคนมีเพชร หรือสมบัติอันมีค่าซ่อนอยู่.....ภายใน ต้องอาศัยกุญแจ....ที่ต้องมาไขกันเอาสมบัตินี้ออกมา กุญแจแต่ละลูกต่างกัน..... เพราะผู้เรียนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ......
ครูที่ดีจึงสนใจและเข้าใจผู้เรียนเป็นรายบุคคล ในฐานะความเป็นคนที่เท่า ๆกัน...ซึ่งไม่เหมือนการผลิตวัตถุ....เช่น แก้วหรือขวดที่โขกออกมาเหมื่อน ๆ กัน ....
ในการเรียนการสอนที่ดี ครูจึงคำนึงถึงความเป็นคน..ของผู้เรียนแต่ละคนเป็นตัวตั้ง ถ้าครูเอาตัวครูเอง หรือเอาวิชาเป็นตัวตั้ง ความเป็นคนของผู้เรียนก็หายไป...
เมื่อความเป็นคนของผู้เรียนหายไปแล้ว วิญญาณก็หายไป กลายเป็นการเรียนรู้ที่ขาดวิญญาณ การเรียนรู้นั้น จึงขาดความสุขและความสร้างสรรค์ ไป...
เป็นบางตอนในคำนิยมที่ ศ.นพ.ประเวศ วะสี เขียนลงในหนังสือที่กล่าวไว้ข้างต้น อาจจะไม่ครบถ้วนในเนื้อหา ใจความ เพราะยังมีเรื่อง ความสำคัญของตัวครูเอง และธรรมะของครูชาตรี เองด้วย จึงจะประกอบให้สมบูรณ์ได้ครับ.....
ถือเป็นการ Reschool ก็แล้วกันครับ
ดิฉันเห็นด้วยกับข้อความที่ท่านได้นำมาเผยแพร่ แม้ดิฉันจะเป็นครูที่ยังอาวุโสน้อย แต่ขอยืนยันด้วยความสัตย์จริงว่ามีความตั้งใจในที่อยากพัฒนาคุณภาพนักเรียนตามศักยภาพของเขา บางครั้งอาจสวนทางกับผู้ใหญ่ที่มองคุณภาพครูจากผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน แต่ด้วยบริบทของโรงเรียนที่มีลักษณะกึ่งเมืองกึ่งชนบท ทำให้นักเรียนส่วนใหญ่จะให้ความใส่ใจด้านวิชาการน้อย แต่มีความสนใจต้องการแสดงออกเกี่ยวกับการบันเทิง การกีฬา มากกว่ากิจกรรมวิชาการ ซึ่งดิฉันได้พยายามจัดหากิจกรรมต่างๆ การพูดกระตุ้นให้เด็กทำโครงการตามความสนใจ หาเวทีให้ได้แสดงออก พยายามคัดกรองเด็กทุกคนด้วยการบันทึกไดอารี่เป็นประจำทุกวัน โดยยังไม่มีโอกาสจัดทำเป็นเอกสารเล่มสวยแบบคนอื่นๆ บางคนกลับเห็นว่าไร้สาระมีแต่พานักเรียนเล่น แต่ขอโทษค่ะ ท่านไม่ได้ดูกระบวนการตั้งแต่ต้นจนจบ และต่อว่าโดยดิฉันแทบไม่มีโอกาสได้อธิบาย แต่นักเรียนกลับมีความสุข และได้ลุ้นกับกิจกรรมที่ดิฉันได้นำมาบริหารจัดการหลากหลายกิจกรรมเท่าที่จะคิดขึ้นได้ ยังไงขอแรงใจด้วยนะคะ
สวัสดีครับ.......คุณครูแป๋มครับ สิ่งที่คุณครูเห็น กับที่ผมเห็นก็คงคล้ายกันครับ เพราะเราต้องการเห็นการเรียนที่มีชีวิต มีวิญญาณครับ การเรียนที่มีชีวิตเป็นอย่างไรหรือ? คงตอบได้ว่าเป็นการเรียนที่ได้รู้ในสิ่งที่ควรรู้สำหรับวัย และอยากรู้สำหรับวัยนั้น ๆ ....ครับ สำหรับเด็ก คือ วินัย และการรักสามัคคีกันในหมู่คณะ การอ่านออกเขียนได้ ให้ฝึกฝนเอาเองครับ
วันเสาร์ที่ผ่านมาผมได้คุยกับรองนายกอบต.หนองสาหร่าย คุณศิวโรจน์ จิตนิยม ท่านบอกว่า โรงเรียนทำไม? ถึงปล่อยให้เด็กนักเรียนผ่านชั้นได้ ในขณะที่ นักเรียนยังอ่านหนังสือไม่ออกเลย?........คือจบประถม 3 แล้วยังอ่านหนังสือพื้นฐานไม่ได้ทำนองนี้ครับ
ผมก็บอกว่า อบต.เองก็ต้องเตรียมยุทธศาสตร์ทางการศึกษาของตำบลตนเองให้ดีนะครับ เพราะไม่อย่างนั้น โรงเรียนที่ถ่ายโอนมาในอนาคตก็สอนเหมือนเดิม ไม่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ ครู และผู้ปกครอง ก็จะตั้งความหวังไว้ที่เด็กแล้ว ถ้าเด็กทำไม่ได้ .........ใครล้มเหลวครับ