3 วันในรัง ICOS รุ่น1
ประการแรกเนื่องจากวันที่เริ่มโครงการมีภารกิจงานรับพระราชทานปริญญาบัตรของนิสิต ม.ทักษิณ ในวันจันทร์ที่ 14 มกราคม 2551 ซึ่งได้รับมอบภารกิจให้เดินนำขบวนบัณฑิต และได้สัญญากับลูกศิษย์ไว้ว่าจะไปถ่ายรูปกับบัณฑิต ภารกิจดังกล่าวได้แก้ปัญหาโดยการหาอาจารย์เดินนำขบวนบัณฑิตแทน และได้ไปถ่ายรูปกับบัณฑิต เมื่อเวลา 5.30 น.ของวันที่ 13 มค.51 ซึ่งเป็นวันซ้อมใหญ่
ประการที่สองที่กังวลคือ เนื่องจากการมาเข้าหลักสูตรอบรมครั้งนี้ใช้เวลาหลายวัน (9 วัน) ซึ่งไม่เคยอบรมนานแบบนี้มาก่อน แต่ก็ได้บอกกับลูกไว้ และโทรศัพท์หากันทุกคืน
เริ่มตั้งสติ ลบความกังวลออกไปได้บ้าง จึงเริ่มพาตัวเองเข้าสู่ความจริง คือ การเข้ารับการอบรม
3 วันจากการได้เข้าโครงการ ได้เรียนรู้สิ่งที่มีคุณค่าหลายสิ่ง เป็นการจัดกระบวนการให้เราได้เรียนรู้โดยที่ไม่รู้สึกว่าถูกบอกอย่างเป็นทางการ เนื่องจากกระบวนการเรียนรู้ดูเหมือนว่าถูกวางระบบไว้เป็นลำดับขั้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยเรียนรู้จากตัวเราเองก่อน (ซึ่งเป็นเรื่องยากที่สุด) แล้วค่อยเรียนรู้จากสิ่งที่อยู่รอบข้างเรา สิ่งที่ประทับใจมีหลายอย่าง ตั้งแต่การต้อนรับ โดย ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช , อ.ดร.ประพนธ์ และทีมงานของ สคส.กิจกรรมที่ได้รับในการอบรมช่วง 3 วัน ทำให้ได้เรียนรู้หลายอย่าง ที่ประทับใจคือ ได้รู้ว่าเรามาเพื่ออะไร เรามีบุคลิกภาพแบบไหน ได้เรียนรู้กระบวนการ การเล่าเรื่อง ฝึกการสื่อสาร ได้เรียนรู้รูปแบบของการจัดการความรู้จากการปฏิบัติจริงที่มีคนใช้ในงานของตนเองมาแล้ว และในขณะที่กำลังส่งข้อมูลนี้ก็เป็นช่วงเวลาที่เรากำลังศึกษาในสถานที่จริง แล้วจะมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ
ความเห็น (1)
หลังจากได้เข้ารับการเรียนรู้ในช่วงแรก 9 คืน 10 วัน ของหลักสูตร IOCS รุ่นที่ 1 และกลับมายังเคหสถานเดิม (ที่ทำงานของเรา) ก็ได้รู้ว่า ชีวิตแห่งความเป็นจริงได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว
วันที่ 29 มกราคม 2551 ท่านรองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและยุทธศาสตร์การพัฒนา (อ.ดร.วัลลภา คชภักดี) ได้ประชุมทีมผู้เข้าอบรม และบุคลากรสำนักยุทธศาสตร์การพัฒนา โดยให้ผู้เข้าอบรมเล่าเรื่อง และสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการเรียนรู้ และร่วมวางแผนและแนวทางการทำงานเพื่อพัฒนาองค์กรต่อ เรียกได้ว่า ตีเหล็กตอนที่กำลังร้อนได้ดีทีเดียว
น้องแม๊ก (นันทกิตติ) เป็นผู้เล่าเรื่องราว กระบวนการให้เพื่อนๆ สำนักยุทธศาสตร์ฟังกัน และ อ.ดร.วัลลภาได้ให้ข้อเสนอแนะ ร่วมกันวางแผนการทำงานในลำดับต่อไป
เรากำลังเริ่มทำสิ่งดีๆ ในรั้วมหาวิทยาลัยทักษิณ และด้วยความหวังลึกๆ ของตัวเอง เราก็อยากเห็นความสำเร็จของการเป็นองค์กรที่รู้จัก รัก และพัฒนาตัวเอง ต่อไป