วันนี้นั่งอ่านบทความ ๆ หนึ่ง หลังจากกลับมาจากพักเที่ยง คลิกไปคลิกมา ดั๊นไปเจอ บทความที่คิดว่าใกล้ตัวมาก..แต่หลายคนก็มองข้ามไป..อ่านดูแล้วเห็นท่าจะจริงค่ะ..เลยอยากให้คุณ ๆ ได้รับทราบเช่นกัน..เชิญค่ะ..เชิญอ่าน..
พิษภัยที่อาจเกิดจาก "ตะเกียบ"
จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้มีผู้ผลิตตะเกียบออกมาจำหน่ายมากมายหลายแบบทั้งตะเกียบที่ทำด้วยไม้ไผ่แบบบดั้งเดิมและตะเกียบ สมัยใหม่ทำด้วยพลาสติกสีสันสดุดตาซึ่งมีใช้แพร่หลายตามร้านค้าทั่วไปเหตุที่ตะเกียบพลาสติกได้รับความนิยมก็เพราะเจ้าของร้านเห็นว่าทำความสะอาด ได้ง่ายไม่เหมือนตะเกียบไม้ไผ่ที่ใช้ไปใช้มาเดี๋ยวก็ราขึ้นต้องซื้อใหม่
นอกจากตะเกียบพลาสติกแล้วตะเกียบไม้แบบเคลือบสีก็เป็นที่นิยมทำให้ บางท่านมองข้ามอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ตะเกียบประเภทนี้ตะเกียบที่เป็นพิษนั้นเป็นตะเกียบที่ทาสีใหม่ๆ สีที่ทาอยู่บนตะเกียบยังคงติดแน่นอยู่ แต่หากใช้ไปนาน ๆ หรือแบบว่าจุ่มลงไปในน้ำก๋วยเตี๋ยวร้อนๆหรือในหม้อสุกี้ที่น้ำกำลังเดือดมิใช่จุ่มเพียงครั้งหรือสองครั้งตะเกียบคู่หนึ่งจะถูกจุ่มแบบ นี้อยู่ตลอดเวลาแม้ว่าจะมีการทาแลคเกอร์เคลือบสีไว้อีกชั้นหนึ่งก็ตามแลคเกอร์เมื่อถูกความร้อนจะต้องหลุดร่อนลงไปผสมกับอาหารอย่างแน่นอนซึ่ง นอกจากแลคเกอร์จะละลายแล้วในเวลาต่อมา เนื้อสีที่ทาอยู่ก็ย่อมหลุดร่อนออกมาปะปนในอาหารสีที่ว่านั้นรับประกันได้ว่าต้องเป็นสีทาบ้านแน่นอนและ สีทาบ้านนี้เป็นสีที่รับประทานไม่ได้เนื่องจากตัวสีมีโลหะหนักผสมอยู่ เช่น มีพวกสารตะกั่ว แคดเมียมสารหนู ซึ่งสารแต่ละชนิดที่กล่าวนี้ล้วนแต่เป็นตัวทำ ลายสุขภาพและมีโอกาสก่อเกิดโรคมะเร็งทั้งสิ้น
เป็นงัยคะ..ภัยที่เราอาจจะมองข้ามไป..แต่ไม่ใช่ว่าจะแนะนำให้เลิกใช้นะคะ..เพียงแต่ให้..เลือกใช้ให้เหมาะสม..เพื่อสุขภาพของเรา ๆ ท่าน ๆ เองค่ะ
"เสียเวลาพิจารณาสักนิด..เพื่อชีวิตของตัวท่านเอง"
มามี๊ Lin Hui ทราบมาเหมือนกันค่ะ..ว่า..ถ้ารักกันมั่กมากกกกก..เหลือเกิน..ให้ชี้ด้วยตะเกียบได้..(แล้วก็จะได้ตายกันไปข้างนึงเลย..เหอ..เหอ..)
คุณ P'กา ก้า OOHOOH เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง..เพื่อสุขภาพของคนที่เรารักค่ะ
คุณ เรณู หนูอุไร นี่ขนาดมะได้ใช้ตะเกียบนะคะ..ถ้าใช้..โอ๊ย ! อร่อยทั้งการใช้ช้อน..ทั้งการใช้ตะเกียบ..หือ..ต้องออกมา.."อ้วน !" นะแน่ อิ..อิ..
ขอบคุณค่ะ..
คุณ suksom เก๊าะมะแน่นะฮ๊า..ถ้ากินกะ คุณ stardust OOHOOH ว่ามะแน่..มะแน่..ได้ข่าวคุณ stardust บ้างมั้ยเอ่ย..เงียบไปเลย