สวัสดีครับ...
เมื่อเราพัฒนาจิตวิญญาณขึ้นมาถึงระดับหนึ่งพอสมควรแล้ว...
การที่เราได้พบเห็น วาระ วิถี การกระทำ ของผู้คนอื่นๆ..ไม่ว่าดีหรือไม่ดี
ล้วนได้คิดและทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับเราเอง
เราสัมผัสกับผู้คนในชีวิตประจำวัน..โดยเหมือนเราได้ดูละครโรงใหญ่
ละครของชีวิต ที่เราอาจจะเป็นทั้งผู้ดู ผู้แสดง... แต่เราก็สามารถดูได้
ดูสิ่งที่เป็นไปทั้งภายในตัวเรา และสิ่งที่เราสัมผัส ด้วยตาใน ตาแห่งปัญญา...
ในเนื้อหา เรื่องราว วิถีแห่งอกุศลธรรม..โ
โดยเฉพาะของผู้คนอื่นๆ(หรือเราเอง)
ทั้งมโนทุจริต วจีทุจริต กายทุจริต
ล้วนได้ข้อคิด..ที่ทำให้เราได้เรียนรู้ ได้เข้าใจตัวตนของเรา และของผู้อื่น
ท่านเคยรู้สึกหรือไม่ว่า...วิถีนั้น วิถีแห่งอกุศลกรรม ที่ผู้อื่นกระทำ หรือเดินอยู่
เราอาจจะเคยเป็น หรือเคยเดินอยู่ในวิถีนั้น... ได้ดูผู้อื่นและอาจจะได้เห็นบางส่วนที่เราอาจจะเคยเป็น เคยมีอยู่..
และก็ได้ย้ำว่าเราเดินออกมาจากวิถีนั้นแล้ว ด้วยความเข้าใจ..ห่างไกล
และวิถีอันดีงามจากการเรียนรู้ เข้าใจในพระธรรมของพระตถาคต...
จะยิ่งน้อมนำ ส่งเสริม ให้เราออกห่างอกุศลกรรม อกุศลจิตมากยิ่งๆขึ้น
สวัสดีครับคุณหมอ
ผมเห็นด้วยครับและเข้าใจครับ
เหมือนกับว่า ในเรื่องเดียวกันแต่เราไม่สนใจเรื่องนี้อีกแล้วไม่มีอะไรให้สนใจ จึงปล่อยวางจากความสนใจ
แต่ในทางจิตใจและธรรม ด้วยแล้ว เป็นการปฏิบัติได้ดีเยี่ยมเลยครับ ผมว่าการใช้สติกับตัวเอง กับเหตุการณ์รอบข้าง กับผู้คนรอบตัว แล้วเรียนรู้ให้เข้าใจในความเป็นธรรมชาติของการเกิดและดับอยู่ต่อเนื่อง น่าจะเป็นการอธิบาย ถึงการเป็นผู้ดู ได้อีกประโยคหนึ่ง
สาธุครับ
สวัสดีครับพี่หนิง...
ขอบคุณมากๆนะครับ...
เรียนรู้ไปด้วยกันนะครับ....
สวัสดีครับ
สวัสดีครับอาจารย์ Sasinanda
ขอบคุณมากๆครับ..
ที่เข้ามาหนุนเสริม ให้กำลังใจกับผู้กำลังก้าวเดินนะครับ...
สาธุ สาธุ
ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปค่ะ
เคยทำงานเป็นครูที่แม่ฮ่องสอนเหมือนกัน เข้าใจงาน และความตั้งใจของหมอ เอาใจช่วย
และเป็นภาคีเครือข่าย
วาสนา/นครศรีธรรมราช