การส่งเสริมให้นักเรียนเรียนรู้ด้วยตนเอง จากสิ่งแวดล้อม จากสื่อสิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ ทำให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้ในระดับหนึ่ง การส่งเสริมการอ่านเป็นการสร้างนิสัยให้นักเรียนได้ค้นหาตนเอง และค้นพบเพื่อการพัฒนาตนเอง
เคยจัดกิจกรรมเพื่อให้นักเรียนเห็นความสำคัญของการอ่าน และเกิดความตระหนักว่าการอ่านคือการพัฒนาชีวิต เช่น เล่าเรื่องจากหนังสือ แนะนำหนังสือ จัดนิทรรศการหนังสือ ประกวดสุนทรพจน์เกี่ยวกับการอ่าน ก็ประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง กิจกรรมเหล่านี้เริ่มจัดมาตั้งแต่ปี 2542 และได้บันทึกความเป็นไป ทำให้มองเห็นการพัฒนาการอ่านของนักเรียน และได้พบว่า วิธีที่ทำให้นักเรียนสนใจและเกิดแรงบันดาลใจที่จะอ่าน คือการวิจารณ์หนังสือของครู ซึ่งวิจารณ์ด้วยความรู้สึกและอารมณ์ที่จะสามารถโน้มน้าวใจผู้ฟังได้ จากนั้นก็หาแนวร่วมคือ กลุ่มนักเรียนที่อ่านหนังสือที่ครูแนะนำ แล้วช่วยกันวิจารณ์ เพื่อจุดประกายให้เกิดแนวร่วมในการสร้างกระแส
การสร้างกระแสทำให้นักเรียนเกิดความน่าสนใจ มากกว่าคำแนะนำธรรมดา การยกตัวอย่างเกี่ยวกับรสนิยมในการอ่านหนังสือของคนดังในทุกวงการ ก็สร้างแรงจูงใจให้เด็กรักการอ่านได้ไม่ใช่น้อย อีกทั้งยังทำให้ นักเรียนมีรสนิยมในการเลือกหนังสืออ่านอีกด้วย
ถ้าหลายๆคนช่วยกันระดมสมอง คิดวิธีสร้างกระแสให้รักการอ่านอย่างต่อเนื่อง ด้วยวิธีการที่หลากหลาย ก็เท่ากับสอนวิธีคิดให้นักเรียนก่อนอ่าน แล้วการอ่านของนักเรียนก็จะพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง
โครงการชวนเพื่อนอ่านหนังสือ โครงการประกวดการอ่าน เช่น "เล่มนี้สิน่าอ่าน" ที่เคยมีมา....น่าจะได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ อย่างต่อเนื่องด้วย เพราะเราจะได้มองเห็นความเป็นไป....ของ "การส่งเสริมเยาวชนให้รักการอ่าน"ที่เป็นนามธรรมเสียที
การสอนด้วยวิธีการ "ทำให้ดู"ของคนในครอบครัว ก็มีส่วนในการสร้างนิสัยรักการอ่านให้เด็กๆด้วย มีผลการวิจัยที่พบว่าเด็กๆรักการอ่านเพราะพบเห็นคนในครอบครัวรักการอ่านด้วย ..............การสร้างกระแสให้รักการอ่านจากความร่วมมือของหลายๆฝ่าย...จะช่วยแก้ปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ในเบื้องต้น และในที่สุดเราจะได้คนที่เต็มคนเพราะผลของการรักการอ่าน แล้วการพัฒนาในหลายๆด้านก็จะตามมา
เห็นด้วยนะ หากทุกคนรักการอ่านจะทำให้เข้าใจสิ่งต่างๆ มากขึ้น ไม่ต้องเข็นทุกเรื่องของนักเรียนเหมือนกับทุกวันนี้ ทำต่อไปนะให้กำลังใจจ้า
สวัสดีครับ
สนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการอ่านครับ เพราะจะพัฒนาไปสู่การสังเกต คิดเปรียบเทียบ และวิจารณ์ นอกจากนี้ยังนำไปสู่การเขียนด้วย
การเขียนเป็นปัญหามากแม้ในผู้ใหญ่ ถ้าเขียนมาน้อยจะไม่คุ้นกับการเขียน ประโยคเยิ่นเย้อ ประโยคยืดยาว ไม่จบประโยคก็มี ได้สนับสนุนตั้งแต่เด็กๆ มีผลระยะยาวครับ ;)
ข้าพเจ้ามีความเห็นตรงกับผู้เขียน เพราะว่าการปลูกฝังให้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้เอง ค้นคว้าข้อมูลที่เป็นปรโยชน์ได้เอง ผู้เรียนจะมีทักษะที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีกว่าการเรียนในห้องที่ผู้เรียนได้แต่นั่งฟังอย่างเดียว ดังนั้นผู้สอนในทุกวิชาควรจัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะ เพื่อจบไปแล้วจะสามารถเอาตัวรอดได้ดี