อาจารย์คำนวนมาปรึกษาว่าจะเขียนหนังสือวิเคราะห์แนวคิดการนำเสนอเรื่องพุทธทำนายฉบับปักษ์ใต้ ผู้เขียนก็ยินดีสนับสนุนด้วย แต่ผู้เขียนก็มิใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้...
ประเด็นเรื่องพุทธทำนายนี้ มีอยู่ในพระไตรปิฏกเพียงคาถาเท่านั้น ส่วนเรื่องราวโดยละเอียดนั้นมีอยู่ในอรรถกถา ผู้สนใจอ่านได้ที่ ...
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=27&i=77
อีกที่หนึ่งก็คือใน คัมภีร์ฏีกาสารัตถทีปนี ภาค ๓ ซึ่งผู้สนใจอาจไปค้นหาเทียบเคียงได้....
แม้ในคัมภีร์จะมีที่มาไม่มากนัก แต่เรื่องพุทธทำนายนี้่ มีกลุ่มผู้สนใจศึกษาค้นคว้า นำพาเผยแพร่ และตั้งประเด็นถกเถียง ตั้งแต่อดีดตราบเท่าปัจจุบัน เฉพาะในโลกแห่งอินเทอร์เน็ต ก็มีผู้ถกเถียงกันอยู่เสมอ (ผู้สนใจลองค้นหาดู เจอมากมาย)...
เฉพาะฉบับปักษ์ใต้ นอกจากจะมีผู้แปลและแต่งเป็นร้อยแก้วแล้ว ก็มีผู้แต่งเป็นร้อยกรองประเภทต่างๆ ไว้หลายสำนวน ที่อาจารย์คำนวนนำมาให้อ่าน เป็นเพียงบทนำเรื่องของท่านอาจารย์หนู (พระสมุห์หนู อุนฺธโร) ซึ่งท่านแต่งเป็นลิลิต ชื่อว่า โสฬศนิมิตลิลิต โดยแต่งจบเมื่อปีพ.ศ. ๒๔๖๓ ดังบทร่ายตอนหนึ่งว่า...
... ข้อยจิตรจินต์จองโคลง แต่ปีมโรงอัฐศก ชตาตกอาพาธ คลาศจากอารามเทา เนาวัดเสมาเมือง ค่อยประเทืองความเศร้า เห็นสำเนาคาค้าง ร่างต่อเติมเต็มความ ตามโสฬศสุบิน จินติ์สุตจินต์สุตจิตร์ ทั้งลิลิตร่ายการ ภอสดับสารเรียบราบ โคลงสุภาพสองสาม เป็นคำสยามเขตร์นอก ถึงปีวอกโทศก ยกพุทธศาศน์สองพันสี่ ร้อยเสศปีหกสิบสาม สิ้นเนื้้้้อความบอกจบ...
ประเด็นที่อาจารย์คำนวนสนใจก็คือ กลวิธีการนำเสนอเรื่องราวในพุทธทำนายเพื่อเป็นคำสอนของคนในยุคนั้นๆ เช่น การตัดต่อแต่งเดิมเรื่องราวในพุทธทำนายให้เหมาะสมกับยุคสมัย การนำเรื่องราวในยุคนั้นๆ มาเปรียบเทียบหรือเปรียบเปรย และการคาดหมายถึงอนาคตจะเกิดขึ้น เป็นต้น...
การอ่านเรื่องราวเก่าๆ นั้น บางประเด็นสะท้อนให้เห็นว่ามีมานานแล้ว มิใช่เพิ่งมีเพิ่งเป็นในปัจจุบันเท่านั้น ดังเช่นเรื่องราวตอนหนึ่ง ที่ผู้ประพันธ์ถ่ายทอดมาเป็นโคลงว่า...
จึงนำมาเล่าเล่นๆ....
..กราบนมัสการครับ..
ฝีมือโคลงของท่านผู้แต่งนี่น่ายกย่องทีเดียว..อ่านแล้วได้ความรู้สึกชัดเจนแท้..จริงขอรับกับเหตุที่มีต่อสงฆ์ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน..แต่ชายที่เปรียบเป็นลิงทะโมนมิน่านับเป็นอุบาสก..และหญิงที่คอยยั่วกิเลศก็มิใช่อุบาสิกา..เช่นกันกับพระที่คว้างกลางหาวก็ไม่ควรนับเป็นสงฆ์..เพราะพุทธบริษัท๔ต้องนับเฉพาะผู้ที่ฝึกตนดีแล้ว..จึงจะเกื้อกูลต่อศาสนา..