เกมของคนคนเดียว


คำถาม ในภาพสะท้อนและบทวิพากษ์ เกมแห่งอำนาจ ของเวทีการเมืองไทย เวทีแห่งความขัดแย้ง ผลประโยชน์ ความรุนแรง และความสิ้นคิดของนักการเมืองบางคน บนวิบากกรรมและความวิบัติภัย จากพลังอำนาจ เกมการเมือง เกมแห่งอำนาจ บนกิเลสตัณหาโมหะของนักการเมืองไทย

เกมของคนคนเดียว

อ้างอิง - ภาพ http://www.lomography.com/folkways

ได้ยลยินสปอตโฆษณา

โฆษณาของผู้สนับสนุนเกม

ในการถ่ายทอดสดการแข่งขันซีเกมส์ครั้งส่าสุด

ยิ่งตระหนักถึงพลังอำนาจของเรื่องราวผลกระทบ และการตั้งคำถามต่อชีวิตผู้คน เมื่อเพียงนักกีฬาแสดงออก เรื่องราวจากการแสดงออกซึ่งส่งผลต่อผู้คน ด้วยความหมายของสิ่งที่กระทำ ที่ทำให้ผู้อื่นร่วมรับรู้

1 คนแข่ง 70,000 คนตื่นเต้น

2 คนตื่นเต้น 200,000 คนตกใจ

หรืออีกหลากหลายเนื้อหาความหมาย

ระหว่างข้อความของตัวเลข และตัวอักษร ระหว่างความรู้สึกของนักกีฬาตัวแทนประเทศ กับการรับรู้ในแต่ละอารมณ์ความรู้สึกของผู้คน เมื่อคนคนหนึ่งสามารถส่งผ่านพลังเหล่านั้น เป็นตัวแทนแห่งพลังใจยามขึ้นช่วงชิงชัยในเกมกีฬา

พลังเหล่านี้ส่งผ่านไป

ยังผู้คนนับแสนนับล้านคน

ได้ร่วมรับรู้ ร่วมตระหนัก ร่วมตื่นเต้น ตกใจ ดีใจ หรือเศร้าเสียใจไปกับตัวแทนของชาติเหล่านั้น ตัวแทนของผู้คนนับแสนนับล้านคน ซึ่งแบกรับหน้าที่แห่งเกียรติยศแทนพวกเขาเหล่านั้น แบกภาระอันยิ่งใหญ่ แบกความคาดหวังของผู้คนมากมาย ด้วยเป้าหมายแห่งชัยชนะและความพ่ายแพ้

ยิ่งคิดยิ่งวิตก

ถึงเกมแห่งอำนาจ

ของใครสักคน หรือของกลุ่มคนสักกลุ่ม

ไม่ใช่เพียงใครสักคน หรือกลุ่มคนสักกลุ่มเท่านั้น แต่สิ่งเหล่านี้คือชีวิตคนไทยทั้ง 65 ล้านคน ที่ต่างแบกรับผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว แค่เพียงการตัดสินใจเอาชนะคนอื่นของใครสักคน จะมีผลต่อผู้คนนับแสนบนแผ่นดินนี้

โมหะของใคร 1 คน ทำให้คนไทย 100,000 คนเดือดร้อน

วาจาบ้าระห่ำของใคร 1 คน ทำให้คนไทย 70,000 คนเจ็บช้ำ

นิสัยถือดีของใคร 1 คน ทำให้คนไทย 65,000,000 คนสูญเสีย

ผมคิดไปเรื่อยเปื่อย ถามกลางคำโฆษณาที่มีผลทางใจ เมื่อยามนึกคิดถึงเกมแห่งอำนาจ จากข้ออ้างในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในครั้งนี้ ยิ่งคิดยิ่งช้ำใจ ในท่ามกลางความถือดีทางการเมืองของใครคนหนึ่ง

คนที่เฝ้าประกาศว่ารักบ้านเมือง

พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อบ้านเมือง 

แต่สร้างปัญหาด้วยคำยืนยันว่าตนถูกกลั่นแกล้งรังแก

โดยอ้างว่าถูกกลั่นแกล้งจากอำนาจทหาร และอำนาจใหม่ทางการเมือง ตนจึงไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนพร้อมจะยืนยันความบริสุทธิ์ และพร้อมจะกลับมาสู้คดี เมื่อประเทศไทยมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอย่างถูกต้องชอบธรรม ไม่กระทำแม้แต่การถอยสักก้าว และพร้อมจะสู้ในเกมแห่งหายนะครั้งนี้

 

สำหรับกลเกมแห่งอำนาจ

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง หากนับตามความถูกต้อง

เมื่อกระดานการเมือง ถูกล้มด้วยอำนาจทางทหาร

การกลับคืนสู่การต่อสู้ทางการเมือง คือจุดจบของปัญหาที่แท้จริง หากไม่มีใครสักคนหนึ่งสร้างเกมแห่งปัญหาขึ้นมาใหม่ เพื่อสร้างเกมแห่งการต่อรอง เมื่อประกาศจะวางมือทางการเมือง หลังการคว่ำบาตรการเลือกตั้ง เมื่อคำประกาศเร่งรัดการเลือกตั้ง ถูกตัดสินด้วยการไม่เข้าร่วมสังฆกรรมในการเลือกตั้ง

หนทางแห่งอำนาจมีไม่กี่ประการ

หากไม่ช่วงชิงการนำ หรือชิงความเป็นผู้นำ

ก็ต้องเป็นการต่อรองสมานประโยชน์

เพราะไม่มีใครปรารถนาจะเป็นผู้แพ้ แต่จะยึดถือระเบียบปฏิบัติใดก็ตาม ต้องยึดถือกฎเกณฑ์ของเกมแห่งอำนาจ ฝ่ายชนะจึงมักอ้างธรรมะ ความถูกต้อง และกล่าวถึงอีกฝ่ายว่า เป็นความไม่ถูกต้อง และเป็นอธรรม ทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องธรรมดาของโลกและการต่อสู้ช่วงชิง

เมื่อผู้ชนะเขียนประวัติศาสตร์

และผู้ชนะเป็นผู้ออกกฎ

วางระเบียบกติกาแข่งขันเพื่อความได้เปรียบ

ทั้งหมดจึงเป็นเพียงสัจจธรรมของโลก ของสัตว์ผู้ชนะบนพื้นโลก เพียงแต่ว่า มนุษย์มิใช่สัตว์โลกธรรมดา ที่เพียงเดินตั้งฉากกับพื้นโลก หรือที่มีเพียงวิวัฒนาการเฉพาะร่างกาย แต่เพราะมนุษย์มีสมอง มีความคิด จิตวิญญาณ ความรู้สึก และมีวัฒนธรรม 

เราจึงวัฒนาชีวิตและค้นหาหนทาง

เพื่อหลีกหนีหายนะจากการเข่นฆ่าไล่ล่า

หรือครองความเป็นผู้ชนะ

ด้วยการออกกติกาอันชอบธรรม อันจะปกป้องคนแพ้ และไม่ให้คนชนะใช้อำนาจจนเกินขอบเขต เราพยายามจะสร้างกติกาเพื่อการดำรงอยู่ร่วมกัน ด้วยความยุติธรรม ด้วยความเป็นธรรม และชอบธรรมในการแบ่งปันทรัพยากร

เราอยู่ร่วมกันอย่างมากมายมหาศาล

เราจึงพยายามหลีกเลี่ยงกลียุค

หลีกเลี่ยงวิบัติจากความไร้เหตุผล

เพื่อเข่นฆ่ากัน เพียงเพื่อจะมีผู้ชนะท่ามกลางซากศพ ความวินาศย่อยยับของแผ่นดิน เราต่างเรียนรู้ที่จะก้าวผ่านวิกฤติเหล่านั้น ด้วยการพูดคุย ปรึกษาหารือ เจรจาต่อรอง และใช้สติกำกับความสมัครสมานสามัคคี ก่อนที่จะมีข้อสรุปเพื่อสมานฉันท์ร่วมกัน

ความสมัครสมานสามัคคี

ที่ต้องมีความถูกต้องชอบธรรม

คือหมุดหมายสำคัญที่จะพาเราไปสู่หนทางนั้น

วันนี้ผมเพียงแต่สะดุดใจ กับคำเขียนและข้อความโฆษณาที่น่าสนใจ เมื่อใครสักคนหนึ่งมีผลต่อผู้คนมากมาย เมื่อกลเกมแห่งอำนาจในใจของใครสักคนหนึ่ง อาจสร้างความวิบัติให้เกิดขึ้นบนแผ่นดินไทย ความหมายของวีรบุรุษหรือเอกบุรุษแห่งบ้านเมือง ไม่ใช่เพียงเพราะเขาถือดาบอย่างห้าวหาญ ฤาถือทิฐิของตนเป็นที่ตั้ง

เพียงเพื่อเล่นเกมแห่งอำนาจเกมนี้

โดยมีวิบัติของพี่น้องร่วมชาติเป็นเดิมพัน

ขออย่าให้ประวัติศาสตร์จารึกนามของท่าน

ว่าได้สร้างความพินาศแก่แผ่นดิน   ขอจงโปรดจดจำเถิด

 

หมายเลขบันทึก: 152145เขียนเมื่อ 7 ธันวาคม 2007 22:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 21:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
สุมิตรชัย คำเขาแดง

        การช่วงชิงการนำ

           การต่อรองผลประโยชน์

                แต่ยุคนี้เมืองไทยมาถึงจุดที่หาทางออกไม่ได้ เพราะทั้งสองทางถูกนำมาใช้กลับไปและกลับมา

                หรือนี่คือสมดุลของอำนาจแบบใหม่

                ที่ดูไม่ออกว่าใครคือฝ่ายชิงการนำ  หรือใครที่อยู่ฝ่ายต้องตกเป็นผู้ต่อรองสมานประโยชน์

                กลุ่มนำทั้งสองกลุ่มที่ได้และเสีย ต่างก็คลำหาทางสมดุล   หรือนี่ก็คือสมดุลอีกแบบของอำนาจ

                การถ่ายโอน สส.  การเปลี่ยนชื่อพรรค  การแยก  ยุบ  รวม หรือ กลายพันธุ์กันแบบอุตลุต  หรือคือความสมดุลของอำนาจเท่านั้น

                ไม่ใช่อุดมการณ์  ไม่ใช่การหาทางออก  ของปัญหา

                แต่แค่ การต่อรอง  และชิงการนำ

                เราก้าวกระโดดมาไกล  ไกลจนลืมวิธีการเดิม และทิ้งร้างผู้คน  การศึกษา สิ่งดีงาม

               เราก้าวข้าม ความเข้าใจแบบเดิม ๆ เราก้าวข้ามด้วย  ผู้นำที่เรียกขาน "อัศวินคลื่นลูกที่สาม"

               เราก้าวข้ามสังคม ผู้คน ส่วนใหญ่ของประเทศไทย ด้วยระบบเศรษฐกิจเสรีนิยมผูกขาด  โดยอำนาจรัฐผ่านมือคนกอบโกย  ทำความเจริญรุ่งเรื่องให้คนไม่กี่กลุ่ม  ที่ต่อรองและชิงการนำอยู่ในขณะนี้

             ผู้คนจำนวนมาก  โรงเรียนหลังคาสังกะสีเก่าและร้อน ถูกทิ้งร้างด้วยความหมางเมินแห่งรัฐบาลคนชั้นสูง

             ผู้คนระดับนำความรู้ถูกดึงรั้งด้วยเงินตรา และความฟุ้งเฟ้อ  และวังวลของการบริโภคอย่างไร้ขอบเขต

           ผู้คนแสวงหา และอุดมคติ  ถูกฆ่าตายด้วยกระสุน รองเท้า ส้นตีนนักเลง

           และพ่ายแพ้ต่อความคิดที่วนเวียนในสมองแห่งความสับสน

          เราก้าวกระโดด    โดดออกไปไกลจากบ้านเรือน  ทิ้งร้างคนเก่าแก่ทรุดโทรมพร้อมการเปื่อยยุ่ยแห่งอดีตกาล

............................................

         ขออนุญาตแลกเปลี่ยนในแบบอึมครึมเล็กน้อย

                    ต้องบอกว่า  ผมชอบการวิภาควิจารณ์ทางการเมืองของคุณอยู่มาก ....ครับ

สวัสดีครับ

  เข้ามาอ่านเสมอๆครับ

 บางครั้งก็สะเทือนความรู้สึกมากๆครับ

  บางครั้งถ้าถือไว้มากก็เหมือนจะหมดหวัง

   แต่ก็พยามมองอย่างเชื่อมโยง และเรียนรู้เข้าใจ

  เข้าใจมูลเหตุ  หรือปัจจัยรอบด้านด้างๆว่ามีอะไรบ้าง

  มองดูปัจจัยของบ้านเมืองตอนนี้  บางครั้งก็เกินกว่าที่เราจะเยี่ยวยา

   เหมือนคนที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังทั้งร่างกาย  การจะเยี่ยวยาต้องร่วมแรงร่วมใจ  กับทุกๆคน  ที่เป็นคนดูและ  ทุกๆระบบ

   แต่สิ่งที่เราทำได้ตอนนี้คือพยามช่วยเยียวยาในส่วนที่เราจะสามารถทำได้ดี  อย่างน้อยก็ชะลอ  หรือลดการเสื่อมถอยลงไปของสังคม  หรือบ้านเมือง

    ทำสิ่งที่เราทำได้ให้ดี  ถ้าสิ่งที่ใหญ่มากๆ เราพอทำได้ก็จะช่วยทำเต็มที่  แต่ถ้ายังไม่สามารถทำได้

 สิ่งที่สำคัญคือการรับรู้  และการเรียนรู้เรื่องราว  ความเป็นไป  ด้วยความเข้าใจ  เเละเชื่อมโยง

  หลายคนไม่อยากคิด  ไม่อยากสนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้  เพราะว่าเหมือนเรื่องของเด็กดื้อที่ไม่มีวันกลับมาดีได้  ไม่อยากพูด  ไม่อยากบ่น  ไม่อยากสนใจ 

       แต่บางครั้งก็มองข้าม หรือไม่ตระหนักว่า  เจ้าเด็กดื้อนี้  ถ้าไม่สนใจ ไม่ปราม ปล่อยเลยไปเรื่อยๆ  วันหนึ่งข้างหน้าตนเอง  หรือลูกหลานคงได้รับผลกระทบแน่นอน

  ขอบคุณมุมมองที่ดีๆ ลึกซึ้ง  และกล้าหาญครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท