ตำนานผีล้านนาตอนผีโป่งดงดำ


วิญญาณสัตว์ที่ถูกฆ่าตามโป่งมันผูกอาฆาตเมื่อมีโอกาสมันจะใส่ยำลงในตัวคน

ตามป่าทั่วไปเราจะพบสัตว์ป่ากินโป่งซึ่งเป็นดินที่มีธาตุอาหารพิเศษบำรุงให้สัตว์สมบูรณ์ตามธรรมชาติ  ไม่ว่าสัตว์น้อยใหญ่จะต้องกินโป่งหรือง้วนดินเสริมพลังงาน   ดินโป่งแต่ละที่มีความแตกต่างกันไปบ้างตามความเข้มข้นของธาตุอาหาร ขณะเดียวกันธาตุเหล่านั้นบางครั้งมีพิษต่อคนบางคนที่มีความต้านทานไม่เพียงพอ หากเดินไปใกล้หรือลงในดินโป่งจะเกิดอาการเรียกว่าผีโป่งใส่ยำ

ปู่ปั๋นแข้งแคะเตียว(เดิน)ป้อกกะแด้ก.ป้อกกะแด้ก...กะโผลกกะเผลกไม่สมประกอบ เพราะตอนที่ยังหนุ่มเขาชอบนำสินาดยาว(ปืนเฝ่า)ไปส่องสัตว์ที่ลงกินโป่งตามป่า  สิ้นเสียงสินาด สัตว์ป่าไม่ว่ากวาง เก้ง ฯลฯ.ดิ้นกะด่าว...กะด่าว..สายตาเบิกโพลงด้วยความแค้นทั้งๆที่เลือดสาดยังปิ้มใจทนอดเหลือกตามองว่าใครเป็นผู้ยิงมัน ทั้งๆที่มันหากินอย่างสุจริตไม่เบียดเบียนใคร  วิญญาณสัตว์ตัวแล้วตัวเล่าเมื่อสิ้นใจเปลือกตามันอ้าลืมไม่ยอมปิดวิญญาณยังเลื่อนลอยไปมาอยู่แถวดินโป่งด้วยแรงอาฆาตและหวงแหนถิ่นที่เป็นผีเฝ้าโป่งผู้คนเรียกกันว่า "  ผีโป่งดงดำ "บางครั้งมันสบโอกาสเห็นคนหลายๆคนที่กำลังส่องสัตว์มันจะตะแหลงแปลงร่างเป็นสัตว์เข้ากำบังตัวคนผู้ใดผู้หนึ่งเพื่อหลอกคนอื่นๆหลงเข้าใจว่าเป็นสัตว์ป่าจึงยิงร่างผีสัตว์กำบังสิ้นเสียงปืนกลับเกิดเสียงคนร้องโอดโอยครวญครางกลายเป็นว่าพรานล่าสัตว์ยิงพรานด้วยกันเองกลายเป็นผีเฝ้าโป่งอยู่กับวิญญาณสัตว์ต่อไปตามเวรกรรม

บางครั้งวิญญาณผีโป่งป่ามันใส่ "ยำ "  หรือง้วนพิษโป่งลงในตัวคนที่ไปเดินล่าสัตว์ตามโป่ง จนมีอาการหัวเข่าบวมเป่งผู้คนทั่วไปเรียกกันว่า " โรคโป่ง"  หากรักษาไม่ถูกทางเนื้อตอนหัวเข่าเปื่อยยุ่ยกระดูกเข่าหล่อนเลาะเคาะแข้งหลุดจากขา  เกิดอาการเจ็บปวดทรมานเป็นคนขากุดขาด้วน  แต่บางคนรักษาถูกทางก็เพียงแต่อาการบวมยุบตัวลงเหลือเพียงหัวเข่าป๋มป้กค้กเดินกะโผลกกะเผลกไม่สมประกอบภาษาล้านนาเรียกกันว่า " เสีย-องค์-ก๊ะ"

ผีโป่งดงดำมันมียำ(พิษ)มันจะเปลี่ยนง้วนดินที่รสอร่อยกลายเป็นง้วนพิษที่สุดโหดอมผู่พ่นใส่หัวเข่าคนที่ลงไปเก็บซากสัตว์ในโป่งจนป่วยสมกับกรรมที่พวกเขาทำกับสัตว์ป่า......

 



ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท