โค้ชส้ม Citrus
Miss. ปรีดิ์ฤทัย โค้ชส้ม ตั้งจิตญาณพัฒน์

น้ำหยดแรกสู่แผ่นดินไทย คือ น้ำพระราชหฤทัยจากในหลวง ภาคแรก


ที่เครือฯ มีการจัดงานเกี่ยวกับเรื่องการอนุรักษ์น้ำ เพื่อดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาท มีการปาฐกถาพิเศษ และวงเสวนาเกี่ยวกับเรื่องการบริหารน้ำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และการช่วยกันอนุรักษ์ต้นน้ำลำธาร

      กิจกรรมหนึ่งที่เพิ่งผ่านมา คือนำเทปบันทึกปาฐกถาพิเศษของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล และวงเสวนาเกี่ยวกับเรื่องการอนุรักษ์น้ำตามแนวพระราชดำริของในหลวง มาให้พนักงานของบริษัทที่ไม่มีโอกาสไปร่วมงานที่เครือฯ จัดขึ้น   ได้ชมภาพและจับประเด็นสาระที่ได้จากการดูเทปบันทึก ครั้งนี้ 

      เนื่องจากอีกไม่กี่วันก็จะถึงวันลอยกระทง ซึ่งไม่เคยไปร่วมกิจกรรมนี้มานานสิบกว่าปีแล้ว  แต่ก็ยังจำบรรยากาศ ความตื่นเต้นสมัยเด็กๆ ได้บ้าง   ตอนนั้นบ้านที่อาศัยอยู่จะเดินทะลุท้ายซอยไปถึงบึงมักกะสันได้ ในบึงมีผักตบชวาแน่นไปหมด  ซึ่งปัจจุบันน้ำในบึงได้รับการบำบัดตามโครงการในพระราชดำริไปแล้ว  เหตุที่จำได้ไม่ลืมเพราะคำที่แม่สอนให้อธิษฐานก่อนจะปล่อยกระทงลงในแม่น้ำ ขณะนั้นน่าจะอายุประมาณหกหรือเจ็ดขวบ

     แม่บอกให้พูดก่อนปล่อยกระทงลงในน้ำ ว่า "ข้าพเจ้าขอขอบคุณ และกราบขอขมา พระแม่คงคาที่ข้าพเจ้าได้ใช้น้ำ และได้............. (ต้องเซ็นเซอร์ เพราะเป็นกิจกรรมปล่อยของเสียทุกวิธีของมนุษย์ทิ้งลงไปในแม่น้ำ)  ขอพระแม่คงคาได้โปรดยกโทษให้ลูก และขอพร.....ด้วย" อะไรเทือกๆ นี้ ตอนที่ได้ยินแม่บอกให้พูด ตัวเองไม่ยอมพูดตามเพราะคิดว่าแม่พูดเล่น แล้วก็ขำด้วย แม่ไปเอามาจากไหน ไม่เคยได้ยิน ....มาเข้าใจภายหลัง ว่าชีวิตคนไทยยุคก่อนต้องอาศัยแม่น้ำ ลำคลองเป็นหลัก

     พอตัวเองมานั่งดู นั่งฟังเทปบันทึกงานที่จัดครั้งนี้ ทำให้หวนนึกถึงคำของแม่ตอนลอยกระทงขึ้นมา หรือบรรยากาศมันใกล้กับวันเสาร์นี้แล้วก็ไม่ทราบได้ การลอยกระทงในวัยเด็กสอนให้เรานึกถึงพระคุณ คุณค่าของน้ำที่ให้เราได้ใช้

     ขออนุญาตยก คำพูดที่ถอดออกมาดังนี้ค่ะ

 

        น้ำหยดแรกสู่แผ่นดินไทยคือ น้ำพระเสโทของพระองค์ท่าน น้ำจากพระราชหฤทัยของพระองค์ไม่มีอ่างน้ำไหนในโลกนี้ที่จะบรรจุได้พอ 

         น้ำคือชีวิต น้ำบริโภค น้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก ถ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้า คนยังอยู่ได้

         ภาพรวมการบริหารจัดการน้ำตามแนวทางของในหลวง  บริหารตั้งแต่น้ำจากฟ้าจนถึงน้ำใต้ดิน เช่น ฝนหลวง เขื่อนบนดิน เขื่อนใต้ดิน ฝายชะลอน้ำ อีก 10 ปีข้างหน้าน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ เราจะทำอะไรกันบ้างไหมเพื่อที่จะจัดการกับเรื่องนี้  สงครามแย่งน้ำกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต รุนแรงยิ่งกว่าสงครามน้ำมัน

            ป่าต้นน้ำ เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ชีวิตของเราอยู่ได้ ทั้งอาหารการกิน เครื่องนุ่งห่ม  คนส่วนใหญ่ปลูกป่ากันแล้วไม่เคยดูว่ารอดหรือไม่   พระองค์ท่านปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูกต้นไม้  แต่หาวิธีสร้างความชุ่มชื้นให้กับป่า  ที่เชียงใหม่ น้ำท่วม เพราะแหล่งน้ำตื้นเขินขึ้น มีขยะไปขวางกั้นทางไหลของน้ำ

พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อปวงชนชาวไทย

          น้ำจากฟ้าพระองค์ก็ดึงมาให้พสกนิกรชาวไทยนำมาใช้ได้ ผสมทั้งศาสตร์และศิลป์ไม่ทิ้งรากเหง้า ค่านิยมของไทย  ไม่นำเข้าของฝรั่งมาทั้งดุ้น โดยไม่ปรับเปลี่ยนให้เข้ากับวิถีไทยเขื่อนมีความจำเป็นสำหรับการเก็บกักน้ำ ก็เหมือนกับตุ่ม หรือแท๊งค์น้ำ ตามบ้านที่ต้องมีไว้ตามความจำเป็น ความเหมาะสมกับพื้นที่ 

          บ้านเรา ข้าวสำคัญมาก กินน้ำมากกว่าพืชอื่น 10 เท่า จึงต้องมีน้ำรองรับให้เพียงพอ  เขื่อนช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่บริเวณป่าโดยรอบ เมื่อก่อนแถบป่าสัก ได้พืชผลปีเว้นปี ปัจจุบัน ได้ทั้งเรื่องพืชพันธุ์ต่างๆ รวมทั้งเรื่องประมงด้วย   

         เวลาสร้างเขื่อนต้องมีที่กักเก็บน้ำ เพื่อชะลอการหลั่งไหลของน้ำลงเบื้องล่าง ไม่ให้ไหลเร็วเกินไป   โครงการแก้มลิง ช่วยเก็บน้ำในหนอง คู คลอง ที่ว่างๆ อยู่ เต็มแล้วปิดเอาไว้ <p style="margin: 0cm 0cm 0pt; text-indent: 36pt" class="MsoNormal">พระองค์ท่านต้องตามไปบำบัดน้ำเสียให้กับราษฎรของพระองค์อีก  โดยให้หาที่ริมทะเล ในที่สุดก็ได้ที่มาห้าพันไร่  ก่อกำเนิดโครงการแหลมผักเบี้ย ที่เพชรบุรี  พระองค์ทรงช่วยตามไปแก้ไขบำบัดให้พสกนิกร หาน้ำให้ใช้แล้ว ยังตามไปช่วยบำบัด ต่อท่อ 18 กม. จากในเมือง แบ่งออกเป็นบ่อต่างๆ และปลูกพืชหลากหลายชนิด  กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว  และที่รับประทานอาหาร </p>

        บำบัดน้ำแล้วยังมีจุลินทรีย์ไปเลี้ยง กุ้ง หอย ปู ปลา ที่ป่าชายเลน ตอนนี้มีป่าชายเลนงอกออกไปกินพื้นที่ประมาณ 300 ไร่  ช่วยให้คนมีกิน มีอยู่ อุดมสมบูรณ์         

</span><p>        ตามแนวพระราชดำริของพระองค์ท่าน ฝายที่สร้าง ไม่ต้องทำให้ดี ใช้หิน ไม้ มาทำง่ายๆ ตามภูมิปัญญาของชาวบ้าน ฝายในมุมมองของนักชลประทานต้องเก็บน้ำให้อยู่ ถ้าฝายไหนเก็บไม่อยู่ถือว่าไม่ใช่ฝาย  แต่พระองค์ท่านต้องการให้ทะลวงฝายให้น้ำไหลออกมา อยากให้น้ำขังอยู่ในป่านานขึ้นเพื่อช่วยต้นไม้ที่ดูเหมือนตาย กลับมามีชีวิต หรือเมล็ดพันธุ์ที่อยู่ใต้ดินมีโอกาสงอกขึ้นมาได้ด้วยความชุ่มชื้นที่เพิ่มขึ้น  ห้วยห้องไคร้เป็นป่าธรรมชาติที่แท้จริง ไม่ต้องมีระเบียบ  ใช้เวลา 7 ปี ป่ากลับคืนมาได้ดังเดิม </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">        ในหลวงนักอนุรักษ์</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">      ได้ถอดเทปแล้ว ดิฉันจึงส่งข้อความเกริ่นนำตอนประชาสัมพันธ์ผ่าน e-mail เพื่อประกาศให้พนักงานทราบก่อนที่จะได้ดูเทปนี้ ว่า  "การแสดงความจงรักภักดีด้วยวิธีใดๆ ก็อาจจะไร้ค่า ไร้ความหมาย หากคนไทยมิได้ปฏิบัติตามแนวพระราชดำริ และดำเนินรอยตามเบื้องพระยุคลบาท" </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">      </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">       เพียงแค่เรารู้จักใช้อย่างพอเพียง รู้คุณค่า ไม่ทำลาย และช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ก็น่าจะทำให้ป่าธรรมชาติที่จะช่วยหล่อเลี้ยงชีวิตของพวกเรากลับคืนมาได้แล้ว </p>

หมายเลขบันทึก: 147697เขียนเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2007 18:19 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
ส้มจ๊ะสาระดีๆมีประโยชน์พบอ่านที่ไหนก็ประทับใจไม่รู้ลืมค่ะ

สวัสดีค่ะ อ. Lin Hui

 

ขอบพระคุณค่ะ ที่แวะมาเยี่ยมให้หายคิดถึง ช่วงนี้ไม่ได้เอาเครื่องคอมฯ กลับบ้าน เลยไม่ได้เข้าไปเยี่ยมมิตรรักแฟนบล็อก เลยค่ะ

ขณะนี้เครือฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เพราะเราเป็นบริษัทที่อยู่ในเครือข่ายของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์  เราต้องทำดีถวายให้ท่านตามพระราชดำรัสและพระราชดำริของพระองค์ท่านค่ะ และในฐานะที่เราเป็นคนไทย เราต้องดูแลทุกสิ่งที่จะช่วยประเทศชาติของเรา 

สวัสดีค่ะ อ. Panda

 P

3. Panda

ขอบพระคุณ อ.ที่แวะมาเยี่ยมค่ะ 

ด้วยความยินดีค่ะ ถ้าเป็นประโยชน์ต่อการสอนให้เด็กรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันอย่างถ้วนหน้า เพราะพวกเขาคือผู้ที่จะต้องอยู่ในโลกนี้อีกยาวนาน ซึ่งคงต้องช่วยทนุถนอมธรรมชาติให้ยั่งยืนต่อไปค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท