บนเส้นทางสีขาวที่เปื้อนเลือด


บนเส้นทางสีขาว

....บนเส้นทางสีขาวที่เปื้อนเลือด

ขออุทิศ บทความนี้ แก่ดวงวิญญาณของ นักรบ.สุขภาพ ผู้เสียสละ ..

นางอัจฉลา  สกนธวุฒิ  เจ้าหน้าที่บริหารสาธารณสุข 7 สถานีอนามัย ต.ประจัน อ.ยะรัง จ.ปัตตานี

นาย เบญจพัฒน์  แซ่ติ่น นักวิชาการสาธารณสุข  5 สถานีอนามัย ต. ประจัน อ.ยะรัง  จ.ปัตตานี

 และ นาย อัมรัน กาเดร์  พยาบาลวิชาชีพ  โรงพยาบาลกะพ้อ อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 

บทนำ

เวลา  4  ปีเศษ ที่ผ่านไป   กับความเจ็บปวดที่ประชาชน ใน  3  จังหวัด ชายแดน

ใต้ ได้รับ  นับวัน จะทวีคูณ และสั่งสมความกดดัน มากมายในพื้นที่   ความเจ็บปวดทุกความรู้สึก  ไม่สามารถที่จะฉุดรั้ง ให้ใครบางคน และใครหลายคน ออกจากพื้นที่  เพราะเราเคยเชื้อ  และยังเชื้อเสมอว่าที่นี้ ยังต้องการเรา

                                ความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกครั้ง  คือความพิการ และ ความตาย  ที่หลงเหลือไว้  ..... โรงพยาบาล  และสถานีอนามัย  เป็นอีกส่วนราชการหนึ่งที่รับรู้ได้ ถึงความกดดันที่ต้องทำงานภายใต้ความเครียด  และความตาย  พวกเราทุกคนยังต้องทำงานกับประชาชน ทั้งส่งเสริม ป้องกัน และรักษาพยาบาล   เท่าๆ กับวันที่เหตุการณ์ปกติ  ….  โรงพยาบาล ทุกแห่ง  ใน  3 จังหวัดชายแดนใต้  ต้องมีความพร้อมในการเตรียมอัตรากำลังคน  , การสำรองไฟฟ้าฉุกเฉิน และ ความพร้อมของสิ่งสนับสนุน ในการเอื้ออำนวยในสถานการณ์ที่อาจเลวร้ายในพื้นที่  ตลอด  24 ช.ม 

การออกไปรับผู้ป่วย ณ  จุดเกิดเหตุ   เป็นหน้าที่ที่พวกเราเต็มใจทำ  แม้ว่าเหตุการณ์จะมีความรุนแรงมากขึ้นเพียงใด.....  ก็ตาม

 

 :   มันเป็นเวรดึก ที่รู้สึกกังวลใจโดยที่ไม่รู้สาเหตุ   ธรรมดาในช่วงใกล้ 4 นาฬิกา 

ของเวรดึก  เราจะหมดแรง และ แอบพักสายตา   แต่วันนี้  น้องพยาบาล ที่อยู่เวรด้วยกันชวนกันดื่มกาแฟ ก่อนเวลาอันเหมาะสม  ทำให้เราไม่ได้ทำอย่างที่เคยทำในเวรดึกอื่นๆ  กำลังเพลินๆ  กับกลิ่นกาแฟ อันหอมกรุ่น  ก็ได้ยินเสียง วิทยุสื่อสาร ที่บ่งบอกถึงสาเหตุที่ไม่ปกติ  : มีการปะทะกันหลายจุดใน พื้น ที่  3 จังหวัดชายแดนใต้   มีการถล่มสถานีตำรวจ และส่วนราชการอื่น ๆ อีกหลายแห่ง .. .เสียงวิทยุยังดังอย่างต่อ เนื่อง  แต่เราไม่ได้ยินข้อความใดๆ แล้ว  เพราะเสียงรถกระบะจำนวน หลายคัน วิ่งเข้ามาจอดที่หน้าห้องฉุกฉิน โดยที่เราไม่ได้ตั้งหลัก     มีการประสานงานไปยังเวรตรวจการ  ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว   เพียงระยะเวลาที่ไม่นานนัก   ก็มีการประกาศแผนฉุกเฉิน  มีการเตรียมการในการจัดรถฉุกเฉิน   เพื่อออกรับผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุ  มีเสียงถกเถียงกันอย่างสับสน   กับการออกรับผู้ป่วย ณ  จุดเกิดเหตุ    เพราะยังมีการปะทะกันอย่างดุเดือด  ในพื้นที่   แต่ก็มีทหาร  และตำรวจที่บาดเจ็บในพื้นที่ จำนวนไม่น้อย   ที่รอคอย การช่วยเหลือจากพวกเรา      และ แล้ว  เรา กับทีมงาน  ก็ออกไปรับผู้ป่วย ณ จุดเกิดเหตุ ท่ามกลางความตาย  ....   

 :   ขออัตรากำลังพยาบาล จากโรงพยาบาลใกล้เคียงทั้งหมดไปให้การช่วยเหลือ

ผู้บาดเจ็บที่เกิดจากเหตุการณ์ที่ไม่สงบ ใน อ.ตากใบ  . นราธิวาส   ซึ่งมีผู้บาดเจ็บ และถูกนำมาส่งที่ โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร  .หนองจิก จ. ปัตตานี  จำนวนมาก  มันเป็นอีกสถานการณ์หนึ่ง ที่รับรู้ได้ถึงความรู้สึก ว่าการดูแลผู้ป่วยท่ามกลางภาวะกึ่งสงครามมันเป็นอย่างไร  ทั้งๆ ที่วันนี้มันยังไม่ใช่  

 : พื้นที่ในการออกหน่วยสาธารณสุขเคลื่อนที่พรุ่งนี้   ถูกเผาหมดแล้ว   แต่ แก้ว

 และทีมงานยังต้องออกพื้นที่ตามแผนเดิม  มีการจัดการกับพื้นที่ขึ้นใหม่อย่างรวดเร็ว  ให้ทันการในวันพรุ่งนี้ และวันพรุ่งนี้ของแก้ว และทีมงานก็มาถึง   แก้ว และทีมงาน ออกพื้นที่เพื่อให้การดูแลสุขภาพของประชาชนท่ามกลางความกดดัน   และความตาย  เฉกเช่นทุกวันที่ผ่านมา  ในช่วง  4  ปี    

: ขอให้เจ้าหน้าที่ กลับจากสถานีอนามัยดาโต๊ะ และสถานีอนามัย คอลอตันหยง

ด่วน  เพราะตอนนี้  มี ข่าวกรอง ว่ามีการวางระเบิดเพิ่มอีกหลาย จุด   ซึ่ง ระเบิดไป  แล้ว  5  จุด   และกำลังมีการติดตามผู้ต้องสงสัยในพื้นที่     อาจทำให้เกิดอันตราย แก่ชีวิตของเจ้าหน้าที่ได้ :    มันเป็นอีกวันหนึ่งที่พวกเราปลอดภัย  แต่วันพรุ่งนี้  พวกเราก็ต้องเดินทางไป ณ  พื้นที่แห่งนั้น... เพื่อดูแลสุขภาพของประชาชน    แล้วพรุ่งนี้...จะเป็นอย่างไร  

                                :  บึ้ม. เสียงระเบิดที่ดังกึกก้อง  ของตัวอาคารสถานีอนามัยดอนรัก  กลายเป็นภาพหลอนของเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยดอนรัก  ..มีการว่าจ้างคนในชุมชน มาเป็นยามในเวลาราชการที่เจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงานในพื้นที่   มีการจัดทำลูกกรงเพื่อป้องกันกลุ่มโจรใต้ สภาพที่ทำการในปัจจุบัน ไม่แตกต่างไปจากห้องขัง  แต่นั้น ..มันไม่ได้เป็นคำตอบที่ยืนยันทีมงานได้เลยว่า  ที่นี้จะปลอดภัย  ..  

 

แสงไฟ ตามเส้นทางที่ค่อยๆ มืดมิดลง ตามระยะทางที่ห่างไกลจากตัว

อำเภอ   เพื่อเข้าสู่ตัวเมืองจังหวัด   เป็นความน่ากลัว ของเส้นทางการส่งต่อ ที่พยาบาล  ยังต้องเผชิญ  คืน แล้ว  คืนเล่า  ....

 

:  เส้นทางที่ต้องเดินทางกลับเข้าโรงพยาบาล  มีการลอบวางระเบิดหลายจุด

ขอให้เจ้าหน้าที่พยาบาลที่ไปส่งต่อผู้ป่วยที่จังหวัดยะลา  ติดต่อขอที่พักที่โรงพยาบาลยะลา  เพราะเส้นทางอาจไม่ปลอดภัย  จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้เช้า  และค่ำคืนนี้ พวกเราก็ได้อาศัยห้องพักเวรโรงพยาบาลศูนย์ยะลาเป็นที่หลบระเบิด ....

: คนไข้ ดูแย่มากเลย  น้าชื่น ..  ช่วยขับรถให้เร็วหน่อยเพราะอีกไกลกว่าจะถึง

โรงพยาบาลจังหวัด  .. แต่ เอ๊ะ... ทำไมรถมันส่าย  ใจเย็นๆ ไว้ น้าชื่น  เราน่าจะโดนเรือใบแล้วละ   ( เรือใบ เป็นเหมือนตะปูขนาดใหญ่  แต่มีฐานที่ที่วางไว้บนถนน  เหมือนเป็นท้องเรือ  และมีเหล็กแหลมคมเหมือนกระโดงเรือ  ซึ่ง จะมีการโรยไว้เต็มพื้นถนน กรณีที่มีการปิดเส้นทาง  เพื่อป้องกันการติดตามของ ตำรวจ และทหาร ในกรณีผู้ก่อการร้ายก่อเหตุไม่สงบในพื้นที่  )  และมันไม่ใช่ครั้งแรกที่รถส่งต่อผู้ป่วย เจอเรือใบ ท่ามกลางความมืดมิดของเส้นทาง  ระหว่างโรงพยาบาลชุมชน  กับโรงพยาบาลจังหวัด  ขณะส่งต่อผู้ป่วย   แต่พวกเรา และพนักงานขับรถยังมีสติเหลืออยู่บ้าง  เรามีการซักซ้อมแผนการเผชิญเหตุ กรณีรถส่งต่อ เจอเรือใบไว้เป็นอย่างดี    ในค่ำคืนนั้น  เราก็สามารถพยุงรถฝ่าดงเรือใบ  และแก้ไขสถานการณ์ จนสามารถนำผู้ป่วยไปโรงพยาบาลจังหวัดได้ อย่างปลอดภัย  มันคงเป็นอีกค่ำคืน หนึ่ง  ที่เราฝ่าความตาย  และความเลวร้ายไปได้  .....

                                : พี่ปลื้ม มันดูเงียบ และน่ากลัวกว่าทุกวันน๊ะ  พี่ขับรถเร็วหน่อยสิ...  อีกไกลที่เดียว กว่าจะถึงโรงพยาบาลยะลา  ...ความกังวลใจที่เกิดขึ้นเหมือนมีลางสังหรณ์   หลังจากนั้น เพียง 10 นาที่ ก็มีเสียง  รัวถล่มรถส่งต่อ แบบไม่เลี้ยง  ปัง.ปัง.ปัง ...   ตูม ... นิลกับน้องพยาบาลอีกคน  ก้มลงหมอบกับตัวรถ  ตัวคนไข้เองไม่มีปัญหาเราให้นอนราบอยู่แล้ว  ตำรวจ ที่คุ้มกันมา  2 ราย  หลบใกล้คนขับรถ   และคอยให้สติพี่ปลื้ม ในการประคองรถให้พ้นเส้นทางอันตราย  พี่ปลื้ม มีสติเพียงพอในการที่จะประคองรถไปตามเส้นทางสีแดงนั้น 

:  เสียงยิงโต้ตอบของตำรวจในรถส่งต่อยิงออกไปมากมายเช่นกัน   การปะทะกัน

เกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพราะเพียงครู่เดียว  พ.ข.ร คนเก่งของเราก็นำรถส่งต่อ  ฝ่าดงปืน และดงระเบิดออกมาได้ 

                        : นิลและน้องไม่มีกำลังเหลือพอ สำหรับการทำงานในช่วงเวลาที่เหลือ   มันเป็นเวลาเกือบสัปดาห์ ที่นิลกับน้อง ต้องอยู่เฉพาะในที่พัก   เราไม่กลัวว่าใครจะมาทำร้ายเราอีก   เพราะความรู้สึกที่เราถูกทำร้ายในวันนั้นมันมากมายเกินกว่าที่นิลและน้องจะต้องกลัวอะไรอีกในวันพรุ่งนี้   แต่นิลและน้องยังไม่พร้อมที่จะเล่าความรู้สึกให้ใครสักคนได้รับรู้เหมือนเช่นที่นิลและน้องได้รับ 

ห้องฉุกเฉินที่เปื้อนด้วยรอยเลือด

                                :  มันเป็นเวรบ่ายที่ค่อนข้างเหนื่อยเสียเหลือเกิน ตั้งแต่ รับเวร  จน เกือบ  2 ทุ่ม   เรา และน้องได้มีโอกาส  จิบกาแฟ เย็นกันคนละ ครึ่งแก้ว   มี ผัดซีอิ้ว แสนอร่อย ตั้งอยู่บนโต๊ะ  ..ไม่มีโอกาสเปิดห่อ เพื่อนำมันเข้าปาก    เรา และน้อง กำลังสาละวนกับการจัดการศพทหาร ที่ ถูกถล่มฐาน  เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ 1 ราย   ...และ มีทหารที่บาดเจ็บสาหัส อีก  3  ราย ถูกนำส่งไปโรงพยาบาลปัตตานี   โดย ทีมพยาบาลส่งต่อ    น้องเวรเปล นำศพของทหารที่ได้รับการดูแลสภาพศพเรียบร้อยแล้ว ไปไว้ยังข้างห้องฉุกเฉิน   เพื่อรอการจัดการ ในเรื่องเอกสารและเรื่องราวอื่นๆ ต่อไป   เราเห็นน้องใช้แขนเสื้อปาดเหงื่อ กับรอยยิ้มที่บ่งบอกถึงความอ่อนล้า   ไม่มีโอกาส ถามถึงความเหน็ดเหนื่อย   ก็มีเสียงโทรศัพท์ดังรัว  ตอนนี้มีระเบิดที่สุเหร่า  ใน  ตำบล ลิปะสะโง  อ.หนองจิก   ผู้บาดเจ็บมากกว่า  20  คน ขอ ให้ทางโรงพยาบาล เตรียมรับผู้ป่วยด้วยครับ   เป็นเสียง โทรศัพท์ จากปลัดป้องกัน อำเภอ หนองจิก  ที่โทรเข้ามาแจ้งเหตุ   

                               เหนื่อยมาก .... แต่ไม่มีเวลาที่จะบอกใคร  รีบ โทรศัพท์ตามอัตรากำลังเสริม   พยาบาล และทีมงานที่เกี่ยวข้อง ถูกเรียกขึ้นมาบนโรงพยาบาลในเวลาอันรวดเร็ว  มีการประกาศแผนฉุกเฉิน โดยทีมงานอย่างเป็นระบบ   ญาติผู้ป่วยจำนวนไม่ต่ำกว่าหลักร้อย เต็มโรงพยาบาล  และพื้นที่โดยรอบ  รถกระบะที่นำส่งผู้ป่วยที่บาดเจ็บถูกลำเลียงส่งมาอย่างไม่ขาดระยะ   รอยเลือดที่ไหลเต็มห้องฉุกเฉิน สภาพขา และแขนที่โดนระเบิด  ดูกระรุ่งกระริ่ง  เป็นสภาพที่ดูแย่มาก  ....ไม่มีเสียงครวญคราง จากผู้ป่วย และญาติ  มันดูเงียบจนน่ากลัว  เสียงที่ดังสลับกันระหว่างทีมแพทย์ และพยาบาลเป็นเสียงเดียวที่ได้ยินในขณะนี้  มีการจัดส่ง รถส่งต่อ จากโรงพยาบาลจังหวัด  มาช่วยเหลือโรงพยาบาลหนองจิก เพิ่มอีก  3 คัน  หลังจากที่มีการประสานกัน ในเรื่องของการส่งต่อที่เกินขีดความสามารถของโรงพยาบาล   ... กำลังสาละวนกับการจัดการ แขนส่วนที่ขาดหายไป กับแผลที่กระรุ่งกระริ่ง  ...รู้สึกถึงหยดน้ำ ที่ตกใส่แขนตนเอง  ..รีบเงยหน้า สบตาน้อง ก็พบว่า มีน้ำใสๆ เอ่อเต็มเบ้าตาของน้อง .. เรายิ้มให้กำลังใจ  เหมือนจะบอกน้องว่า  เราต้องเข็มแข็ง ....เพราะยังมีเรื่องราวอีกมากมาย ที่เกิดขึ้นในพื้นที่แห่งนี้   ... พื้นที่สีแดงที่เราทิ้งไปไม่ได้ ..

 : ทำไม ..ทำไม มันต้องเป็นอย่างนี้  ทำไมต้องเป็นพี่   ทำไมพี่ต้องตาย   แล้วพรุ่งนี้ฉันจะอยู่กับใคร  แล้วใครจะเลี้ยงลูก  แล้วฉันกับลูกจะอยู่อย่างไร  ถ้าไม่มีพี่  .. เสียงร่ำให้ของญาติผู้ป่วย  คนแล้ว คนเล่า  ที่ถูกยิงเสียชีวิต  กึกก้องอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน  ไม่มีคำปลอบใจ เพราะมันไม่มีค่า  ค่าของพวกเขา  มันหมดไปพร้อมความตายที่มาเยือน  :    ขอให้พวกเขาร้องให้ ...ให้พอ  เพราะมันเป็นทางเลือก ทางเดียวที่พวกเขาเลือกได้   ความคาดหวังของเราไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนัก  ... ผู้ป่วยที่มาถึงห้องฉุกฉินของเรา มีเพียงไม่กี่รายที่พวกเขาจะได้รับการส่งต่อ  เพื่อที่จะได้กลับมามีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของผืนแผ่นดินแห่งนี้  อีกครั้ง  มันเป็นความเข็มแข็งของวิชาชีพ... พยาบาลที่ต้องรับรู้ความเจ็บปวดของพวกเขา คนแล้ว คนเล่าที่ผ่านมาที่ห้องฉุกเฉิน  มันมากมายจนเกินกว่าที่เราจะจดจำ  มันเป็นความเจ็บปวดเกินกว่าที่เราจะเยียวยาญาติผู้ป่วยเหล่านั้น 

อีกครั้งหนึ่งกับวิถีชีวิตประจำวันที่เจ็บปวด

 

: ไฟดับ . ..ทั้งหมู่บ้านเลยเหรอ ..เสียงถามที่ค่อนข้างแปลกใจ กับความมืดมิดของ

พื้นที่ ที่บ่งบอกสัญญาณที่ไม่ปกติเท่าไรนัก  เราเริ่มรู้สึกกังวลใจอย่างบอกไม่ถูก      มันไม่ใช่เฉพาะในหมู่บ้าน  ตอนนี้ไฟดับทั้งตัวเมือง และอีกหลายอำเภอในจังหวัดปัตตานี   รวมทั้ง ยะลา และนราธิวาสด้วย เสียงตอบของน้องสาว หลังจากที่โทรศัพท์สอบถามข้อมูลในส่วนที่เกี่ยวข้องจากหลายส่วน  เพียงระยะเวลาไม่นานนัก เสียงโทรศัพท์ ก็ดังขึ้นไม่ขาดสาย มีเหตุการณ์ที่รับทราบมาจากส่วนต่างๆ ที่เกิดเหตุ มีการถล่มจุดสำคัญของพื้นที่ หลายพื้นที่ มีการปะทะกันหลายจุด  และมีการโรยเรือใบ บนเส้นทางสัญจร หลายเส้นทาง  ..

 

: เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น รัวๆ หลายครั้ง  ... ระเบิดร้านอาหารชื่อดัง ใจกลางเมือง

ปัตตานี  มีผู้บาดจำนวนมาก  และคาดว่าเสียชีวิตอีกหลายศพ  เป็นเสียงบอกเล่าที่ค่อนข้างตกใจ ของน้องสาวซึ่งเป็นพยาบาล โรงพยาบาลปัตตานี ....น้อง ฝากลูกหน่อยนะ ...โรงพยาบาลปัตตานีประกาศแผนฉุกเฉิน  น้อง คงต้องรีบไป โรงพยาบาลด่วน .. เสียงรถฉุกเฉินดังไปทั่วเมืองปัตตานี มีทั้งรถของโรงพยาบาล , รถจากมูลนิธิ และรถของพลเมืองดีอีกจำนวนไม่น้อย...ลำเลียงผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตเข้าโรงพยาบาลปัตตานี อย่างไม่ขาดสาย   มันเป็นวิถีชีวิตประจำวัน ที่เจ็บปวด  ของพวกเรา 

วันเวลาแห่งการเจ็บปวด ... 

 

                                : น้องฟารีด๊ะ  คงไม่ไหวแล้วละ  ผ.อ. ...  เราคงต้องให้น้องเขาย้าย  เพราะสิ่งแวดล้อมเดิมๆ  กับความเจ็บปวดที่เขาต้องเผชิญ  มันจะทำให้เขาแย่ไปกว่านี้มาก  พวกเราไม่สามารถเยียวยาเขาได้  ถ้ายังต้องเจอกับสภาพ ที่ทำให้เขาต้องจดจำกับเหตุการณ์ที่หัวหน้าครอบครัวถูกยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติงาน    โรงพยาบาลกับสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ  มันจะช่วยเรื่องสุขภาพจิตของน้องได้  ถึงแม้ว่าพยาบาลทีมีอยู่อาจไม่เพียงพอต่อการปฏิบัติงานเวรผลัด บ่าย ดึก  แต่พวกเราน่าจะพออยู่กันได้  และแล้ว....เราก็ต้องสูญเสียพยาบาลออกจากพื้นที่อีกครั้งหนึ่ง  มันเป็นการสูญเสียครั้งแล้ว ครั้งเล่า  ที่เราไม่สามารถทัดทานไว้ได้ 

                                : ปิ่นคงต้องเดินทางพรุ่งนี้แล้วละ  ติดต่อเรื่องบ้านที่ภูเก็ตได้ แล้ว  ฝากพี่ดูแลโรงพยาบาล  และฝากดูแลน้องๆ ทุกคนที่นี้   ปิ่นรักที่นี้  ปิ่นไม่อยากทิ้งพวกเราไป  แต่ปิ่นสงสารแม่  แม่ดูแย่มาก  หลังจากพี่ชายถูกยิงเสียชีวิตที่หน้าบ้าน  แม่ไม่พูด ไม่จา  ไม่ตอบสนองว่ารับรู้ในสิ่งที่ปิ่นพูด ปิ่นทำ นับวัน ปิ่นอาจต้องเสียแม่ไปอีกคนถ้าปิ่นยังคงอยู่ที่นี้   พี่สะใภ้กับหลานๆก็คงย้ายไปอยู่กับคุณยายที่สงขลา  บ้านหลังนั้นก็คงทิ้งร้างไว้  เราจะเก็บมันไว้เพื่อเล่าเรื่องราวให้ลูกหลานรับรู้ถึงความเจ็บปวดที่ครอบครัวของเรามีส่วนรับรู้ถึงความรุนแรงของเหตุกราณ์ใต้  แล้วปิ่นจะกลับมาเยี่ยมพวกเราอีกถ้ามีโอกาส  ถึงแม้ว่าที่นี้ จะเต็มไปด้วยความทรงจำที่เจ็บปวด 

:  มีการรัวถล่ม บ้านของชาวบ้านใน อำเภอปะนาเระ  มีผู้บาดเจ็บ และตาย

 จำนวน หลายคน ศพ และผู้บาดเจ็บถูกลำเลียงส่ง โรงพยาบาลปะนาเระแล้ว  ....เป็นเสียงวิทยุสื่อสารที่ทำให้หลาย ๆ คน โทรศัพท์สอบถามหาญาติในพื้นที่   เราไม่มีแรงที่จะอยู่ดุแลผู้ป่วยในตึกต่อไป   ถ้าไม่มีโอกาสรู้ว่า บ้านหลายหลังที่ถูกถล่ม มีบ้านของเราเป็นส่วนหนึ่ง หรือไม่ 

:  น้องทราย ใจเย็นๆ นะ  พ่อ กับ แม่  หมดเวร หมดกรรมแล้ว   ทุกอย่างมันเป็น

เรื่องราวที่เราไม่สามารถป้องกันได้ ส่วนเรื่องศพ   มีรถโรงพยาบาล ปะนาเระไปรับศพไว้ที่โรงพยาบาลแล้ว  แต่เราคงไปรับศพในค่ำคืนนี้ไม่ได้ เนื่องจากมีการลอบวางระเบิต และโรยเรือใบ ตลอดเส้นทาง ยะหริ่ง -  ปะนาเระ  และมีการปะทะกันอีกหลายจุด   : 

:  ทราย  ต้องเข้มแข็งเพื่อวันพรุ่งนี้นะ   เพราะทรายยังต้องอยู่เพื่อลูก   ...    ส่วนพ่อกับแม่  เขารอคอยทรายให้จัดการเรื่องงานศพ  และกำลังดูทรายว่าจะอยู่เพื่อคนข้างหลังต่อไปอย่างไร   ทุกอย่างยังต้องดำเนินไป  วันนี้ทรายต้องไม่ล้ม</span

คำสำคัญ (Tags): #บนเส้นทางสีขาว
หมายเลขบันทึก: 147219เขียนเมื่อ 17 พฤศจิกายน 2007 15:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 สิงหาคม 2014 20:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มาจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
  • ขอแสดงความเสียใจด้วยคนครับ
  • ขอให้มีความสุขกับการทำงานครับ
  • สวัสดีค่ะ
  • บทความนี้
  • เห็นความเจ็บปวด ชัดเจนจริง ๆ
  • ปวดใจที่ได้อ่าน
  • เจ็บปวดยิ่งกว่า
  • ที่ช่วยอะไรไม่ได้มากไปกว่าการแสดงความเสียใจ
  • "เราไม่ใช่นางฟ้าที่ตายไม่ได้"
  • นั่นจริง ยิ่งกว่า จริง
  • ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งค่ะ

สวัสดีครับ

  • ติดตามข่าวมาตั้งแต่เริ่มประทุ
  • ได้แต่หวังว่าจะสงบลง
  • แต่ชีวิตก็หลุดไปเหมือนใบไม้หลุดขั้วทุกวันๆ
  • ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท