ดินแดนล้านนาสมัยก่อนโน้นเชื่อกันว่าเป็นถิ่นที่อยู่ของชาวพื้นเมืองเผ่าลัวะบ้าง ขอมบ้าง หรือมีเผ่าอื่นๆอีกที่สาบสูญหรืออาจถูกกลืนชาติพันธุ์ไปแล้วเหลือแต่แผ่นดินให้พวกเราอยู่อาศัยในปัจจุบัน
ความเป็นอยู่สมัยก่อนผู้คนมีความเชื่อเรื่องวิญญาณ ผี พลังลี้ลับก่อนที่จะพบกับการนับถือศาสนา ดังนั้นผู้คนจึงต้องหาที่พึ่งทางใจโดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดที่คอยปกปักรักษาเมื่อญาติผู้ใหญ่สูญเสียไปแล้วยังมีความเชื่อว่าจิตวิญญาณของท่านเหล่านั้นคงมีความห่วงหาอาลัยลูกหลาน วิญญาณดังกล่าวเกิดเป็นพลังเวียนว่ายคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา ด้วยความเชื่อดังกล่าวจึงเกิดวิถีการเลี้ยงผีปู่ย่า
ทำไมจึงมีเพียงคำว่าผีปู่ย่า ? ไม่มีผีตายายหรือไง ?
ที่จริงที่มาของคำว่าผีปู่ย่าเพราะคนล้านนาส่วนมากมีคำพูดว่า" อี่ปู่.....อี่ย่า..อี่ป้อ..อี่แม่.. ดังนั้นจึงมีเพียงคำว่า ผีปู่ย่า เพราะคำพูดคนล้านนาไม่เรียกคำว่า "ตาหรือยาย" ดังนั้นจึงไม่มีผีตายายแม้ในชีวิตจริงจะมีตาหรือยายในภาษาอื่นก็ตาม นอกจากนี้บางท้องถิ่นยังเรียกคุณปู่ คุณย่า คุณตาคุณยาย ว่า ป้ออุ๊ย..แม่อุ๊ย เท่านั้น ไม่ว่าคุณปู่หรือคุณตาก็เรียกกันว่า ป้ออุ๊ย ส่วนคุณย่าและคุณยายก็เรียกเหมือนกันว่า แม่อุ๊ย
บางท้องถิ่นเรียกคุณตาคุณยายว่า " ป้อหลวงแม่หลวง"ก็ยังมี
ขอวกเข้ามาเรื่องผีปู่ย่า ตำนานผีปู่ย่าที่สำคัญพอค้นหาได้และพอมีหลักฐานค้นคว้าก็คือเรื่องของผีปู่แสะย่าแสะ ที่ดอยคำหรือดงหลวงบางครั้งเรียกกันว่าผีปู่ย่าดอยคำ ในเมืองเชียงใหม่ปัจจุบัน
ดังได้กล่าวมาแล้วว่า คนเราต้องการความอบอุ่นทางใจ ต้องการมีกำลังใจในการดำรงชีวิตประจำวันประกอบกับความอาลัยอาวรหาญาติผู้ที่เสียชีวิตจึงมีการปรุงแต่งให้มีผีปู่ย่าขึ้น
ผีปู่ย่าเชื่อว่าเป็นผีบรรพบุรุษที่คุ้มครองญาติๆที่นับถือต่อๆกันมาโดยมีเครื่องสักการะคือสวย(กรวย)ดอกไม้จำนวนสวยขึ้นอยู่กับแต่ละตระกูลจะกำหนดแต่ที่ทราบมามักจะถือเอาจำนวนเงินค่าผีมากำหนดเช่น ตระกูลนี้มีค่าผี 32 แถบ เขาก็จะกำหนดสวยดอกจำนวน 32 สวยเป็นต้น หรือบางท้องถิ่นอาจแตกต่างกันไปบ้างขึ้นอยู่กับถิ่นที่
นอกจากสวยดอกไม้ยังมีธูปเทียน ต้นดอก ต้นเทียน หมากพลู เครื่องประดับตกแต่ง ตามแต่ผู้คนจะกำหนดกัน แต่ที่แน่ๆ การกำหนดที่อยู่ของผีปู่ย่าจะต้องมี 2 แห่ง คือหิ้งผีปู่ย่าในห้องนอนหลวง(ใหญ่)ซึ่งเป็นห้องนอนของญาติผู้ใหญ่ นอกจากนี้จะต้องทำหอผีปู่ย่าไว้ในรั้วบ้านอีกแห่งหนึ่ง เพื่อเป็นสถานที่ให้บรรดาญาติที่มาร่วมเลี้ยงผีได้มาสักการะบูชาไหว้สาพร้อมๆกัน
เครื่องเซ่นบูชาส่วนมากจะเป็นอาหารทั่วไปในชีวิตประจำวันที่ใช้รับประทานกันในบ้านเรือนหรือในท้องถิ่นนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นฮังเล แกงแค น้ำพริกอ่อง หรือบางบ้านอาจมีหัวหมู ไก่ ก็ขึ้นอยู่กับการกำหนด และฐานะของเจ้าของบ้าน เมื่อถึงเวลาผู้เป็นใหญ่หรืออาวุโสจะกล่าวคำบูชา พร้อมกับญาติๆที่มาร่วมก็พนมมือไหว้สาอธิษฐาน เสร็จแล้วก็ถอยออกมารอจนกว่าไฟไหม้ธูป เทียนจนหมดเล่มถือว่าผีปู่ย่าได้รับรู้และรับเครื่องบูชาเสร็จ ลูกหลานก็จะถอยเอาเครื่องบูชา ข้าวปลาอาหารออกมาแบ่งปันเลี้ยงรับประทานกันในหมู่ญาติมิตร พูดจาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ลูกหลานที่อยู่ไกลได้มาอยู่ใกล้กันเด็กๆได้รู้จักสนิทสนมกันดีขึ้น เป็นการขันเกลียวเครือญาติให้แน่นแฟ้น
เมื่อผู้ใหญ่หรืออาวุโสเสียชีวิตลง ผีปู่ย่าจะต้องมีผู้รับเอาไปเลี้ยงต่อหากในบ้านนั้นมีผู้หญิงหรือลูกสาวเจ้าของบ้านก็จะสืบทอดผีปู่ย่าต่อกันมา แต่หากมีลูกผู้หญิงคนโตไปอยู่ต่างเรือนก็จะต้องเอาหิ้งผีปู่ย่าพร้อมเครื่องสักการะที่มีอยู่ทั้งหมดที่อยู่ในเรือนใหญ่ย้ายไปไว้ในบ้านของลูกผู้หญิงคนโตนั้น จะเห็นว่า การสืบทอดผีปู่ย่าจะขึ้นอยู่กับสตรีเท่านั้น หากบุตรตรีคนโตเสียชีวิตก็จะต้องมอบให้บุตรีคนรองลงมาเป็นขั้นตอน หากในครอบครัวไม่มีบุตรีก็จะต้องพิจารณาว่าเรือนใดของเครือญาติมีสตรีที่เป็นผู้อาวุโสสูงสุดก็ต้องย้ายหิ้งผีปู่ย่าไปไว้บ้านนั้นเป็นผู้ดูแล ส่วนการบูชา ต่างๆก็ต้องกระทำตามประเพณีไหว้ผีปู่ย่าดังเดิม ส่วนหอผีปู่ย่าที่สร้างไว้ก็ต้องให้อยู่คงเดิม ขณะเดียวกันญาติๆที่เป็นบริวารก็ต้องสร้างหอผีปู่ย่าไว้ที่บริเวณบ้านของตนเพื่อเป็นที่สักการะบูชาเพียงแต่ไม่มีหิ้งผีปู่ย่าเหมือนเรือนที่เป็นเก๊า(ต้น/ปฐม/รากเหง้า)ผีเท่านั้น
ดังนั้นเมื่อเราไปแถวๆชนบทในล้านนาจะเห็นบ้านหลังเล็กปลูกอยู่ตามริมรั้วหลังบ้าน มีเครื่องสักการะบูชา ดอกไม้ประดับ หากคนในบ้านมีสิ่งผิดปกติ หรือมีการเดินทางไกล หรือมีเหตุการณ์ที่ต้องการพึ่งพาทางใจ ผู้คนในบ้านก็ไปบอกกล่าวหรือบนบานกับหอผีปู่ย่า เพื่อให้ปกป้องคุ้มครอง คล้ายๆกับการมีศาลพระภูมิเจ้าที่ของผู้คนถิ่นอื่นๆ
หากมีผู้คนมาอยู่ในครัวเรือนอาจเป็นลูกจาย(ลูกเขย)ลูกญิงหรือลูกไป๊(ลูกสะไภ้)ก็ต้องบอกกล่าวให้ผีปู่ย่าเลี้ยงผีปู่ย่าให้รับทราบและถือว่านั่นคือความผูกพันเป็นเครือญาติหรือในหมู่ผีปู่ย่าเดียวกันแล้ว
เวลาที่เลี้ยงผีปู่ย่าประจำปี มักกระทำกันในเดือนเจ็ดเรื่อยไปจนถึงเดือนเก้าเหนือแล้วแต่สะดวกในช่วงใดช่วงหนึ่ง
ตามที่กล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเชื่อถือเรื่องผีปู่ย่า อาจมีสิ่งที่แตกต่างไปจากนี้บ้างมักขึ้นอยู่กับความละเอียดอ่อนของผู้คนในแต่ละถิ่นแต่ละที่จะกำหนด
แต่ที่แน่ๆผีปู่ย่าจะคอยปกป้องรักษาให้เครือญาติรักผูกพันได้มาร่วมพบปะกันหมู่เครือญาติสุขใจในการเลี้ยงผีปู่ย่า
ต้องขอบคุณลุงหนานเป็นอย่างสูง ผมได้ความรู้มากเลยทีเดียว ผมขออนุญาตนำไปออกรายการวิทยุที่แม่ฮ่องสอนด้วยนะครับ
อาจารย์เก
ไหว้สาอาจารย์เก.....
ยินดีและอนุญาตให้นำเรื่องราวไปเผยแพร่ได้ครับ...
จากลุงหนาน....พรหมมา
ต้องขอบพระคุณลุงหนานมากนะค่ะที่ให้ข้อมูลความรู้
หนูจะนำไปประกอบกับรายงานการวิจัยที่มมร.ล้านนาค่ะ
ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
สวัสดีครับคุณกรณิศ..
ลุงกลับมาอ่านก็เลยเวลามาเมินนักแก...ยินดีครับที่เป๋นประโยชน์แก่นักศึกษาครับ..
ด้วยความปรารถนดีจากลุงหนาน....พรหมมา
ขอบพระคุณลุงหนานมากค่ะที่ให้ความรู้ น้องยังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ แต่ไปอยู่กรุงเทพ เพิ่งมาอ่านหลายบทความของลุงหนานประกอบการศึกษา (กำลังจะทำการ์ตูนเกี่ยวกับเรื่องทางล้านนา) อ่านไปอ่านมา ได้ทำความเข้าใจกับเรื่องหลายๆอย่างในชีวิต เช่น บางเรื่องที่ยายถือมากๆ แต่เราไม่เคยเข้าใจ เป็นประโยชน์มากๆค่ะ ขอบคุณนะคะ