<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> หลายๆ คนคิดว่าเด็กคือตัวปัญหา มีสุภาษิตโบราณถึงกับกล่าวว่า “คบเด็กสร้างบ้าน” แต่ ณ วันนี้เด็กและเยาวชนได้พัฒนาการเรียนรู้ของตนเองไปอย่างมาก เด็กเป็นคนที่กล้าคิด กล้าแสดงออก หากแต่ผู้ใหญ่ต่างหากที่ให้โอกาสกับเด็กและเยาวชนมากน้อยเพียงใด วันนี้จึงเป็นการคบเด็กสร้างครอบครัวและชุมชนเข้มแข็ง</p>
<div style="text-align: center"></div>
การทำงานครอบครัวเข้มแข็งตลอดสี่ปีที่ผ่านมา ได้เห็นพลังและเสียงของเด็กและเยาวชนมาตลอด เราเห็นศักยภาพในตัวเขาค่อนข้างมาก จึงดึงเอาศักยภาพนั้นมาร่วมเรียนรู้ในการทำงาน ผู้ใหญ่หลายคนคิดว่า เด็กเป็นตัวสร้างปัญหา แต่มองมุมกลับใครล่ะที่ทำให้เด็กเป็นเช่นนั้น เราในฐานะผู้ใหญ่บางครั้งอาจละเลยจุดนี้ไปว่าเราเองก็มีส่วนสำคัญในการสังคมการเรียนรู้ของเด็ก
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> วันนี้ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๐ ณ ลานโพธิ์วัดอรัญญวาส อำเภอเมืองน่าน โครงการครอบครัวเข้มแข็งจังหวัดน่าน ได้จัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อถอดบทเรียนเรื่องเยาวชนกับงานครอบครัวเข้มแข็ง งานนี้มีผู้ใหญ่ใจดีและเด็กและเยาวชนเข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้อย่างคับคั่ง เกินกว่าเป่าหมายที่ตั้งไว้เสียอีก และกระบวนการเป็นไปอย่างคึกคัก เริ่มจากการเปิดการเรียนรู้แบบง่ายๆ และชี้แจงกระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน หลังจากนั้นได้ฉายวีดิทัศน์ชุด “พลังเยาวชนน่านกับการสร้างครอบครัวเข้มแข็ง” ซึ่งจัดทำโดยสถาบันครอบครัวรักลูก เป็นการปลุกเร้าให้เยาวชนและผู้ใหญ่ได้เห็นพลังของเด็กและเยาวชนร่วมกัน </p>
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> หลังจากนั้นพี่เบิ้ม (ศุภรัตน์ เสาร์แดน) ก็เริ่มจัดกิจรรมสันทนาการสร้างความคุ้นเคยกัน และให้จับคู่เปิดอกคุยกัน (เด็กจับคู่เด็ก ผู้ใหญ่จับคู่ผู้ใหญ่) เพื่อสร้างความรู้จักกันและเล่าเรื่องที่ประทับใจในโครงการครอบครัวเข้มแข็ง หลังจากนั้นให้รวมจากหนึ่งคู่เป็นสามคู่ แล้วให้แต่ละคนเล่าเรื่อง “แรงบันดาลใจหรือเหตุจูงใจที่เข้ามาร่วมกิจกรรมครอบครัวเข้มแข็งของชุมชน เข้ามาแล้วทำอะไรบ้าง เรียนรู้อะไรบ้าง เกิดการเปลี่ยนแปลงในตัวเอง และครอบครัวอย่างไร” เมื่อแต่ละคนเล่าจบแล้วก็ให้คัดเรื่องที่โดนใจที่สุดของกลุ่มเป็นตัวแทนกลุ่มเล่าสู่กลุ่มใหญ่</p>
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> กระบวนการเล่าเรื่องเป็นไปอย่างสนุกสนาน หลายๆ คนเข้ามาเพราะพ่อแม่ชักชวนให้เข้ามา บ้างก็มาตามเพื่อน แต่มาแล้วทุกคนรู้สึกว่าสนุกสนานได้สาระ ได้ประสบการณ์การเรียนรู้ที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่สำคัญทุกคนบอกว่าหลังเข้าร่วมกิจกรรมแล้วตนเองมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น รู้จักบทบาทหน้าที่ตนเอง รับผิดชอบตนเอง มีเหตุผล คนในครอบครัวเข้าใจกันมากขึ้น มีเวลาให้กันมากขึ้น มีการประหยัดเงินและออมเงิน เข้าไปมีส่วนร่วมกิจกรรมของชุมชน ช่วยเหลืองานต่างๆ ของชุมชนมากขึ้น และที่โดนใจสุดๆ คือหลายคนสามารถเปลี่ยนแปลงพ่อแม่และผู้ใหญ่ในชุมชน ได้ เช่น สามารถพูดให้พ่อแม่เลิกเหล้า เลิกบุหรี่ได้ ทำให้กลับบ้านเร็วขึ้น ไม่ทะเลาะกัน และมีเวลาให้ลูกมากขึ้น นอกจากนี้เรายังเห็นเยาวชนรวมกลุ่มทำกิจกรรมดีดีอย่างหลากหลาย เช่น การออมเงิน, การจัดทำธนาคารขยะ, การเรียนรู้การปลูกข้าว, การทำรายการวิทยุชุมชน, การอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน, ดนตรีไทย, การร่วมพัฒนาชุมชน เป็นต้น นี่แหละ “ละอ่อนเปลี่ยนแปลงคนใหญ่” (เด็กเปลี่ยนแปลงผู้ใหญ่)</p>
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> หลังจากเรื่องเล่าดีดีแล้ว เราก็ให้แต่ละชุมชนจับเข่าคุยกันว่าจะจัดกิจกรรมเยาวชนให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องและเข้มแข็งต่อไปอย่างไร แล้วนำมารูปจ่ายกาดความคิด (ตลาดความคิด) มาใช้เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน บรรยากาศกาดหมั้วยามเย็นเป็นไปอย่างคึกคัก มีความคิดดีพรั่งพรูออกมาอย่างหลากหลาย</p>
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"> ท้ายสุดผมและคุณสำรวย ผัดผล ได้กล่าวสรุปกระบวนการเรียนรู้และพูดเชิงท้าทายว่า “ความคิดดีดีในกาดหมั้ววันนี้ จะเป็นจริงสู่รูปธรรมได้อย่างไร ภายใต้กระบวนการเด็กนำผู้ใหญ่หนุน และอีกหนึ่งปีจากนี้ เราจะมาเปิดกาดหมั้วกันอีกครั้ง มิใช่กาดหมั้วที่เสนอเพียงความคิดเท่านั้น หากแต่ขายสินค้ารูปธรรมที่จับต้องได้จากงานที่ได้คิดกันในวันนี้”</p>
ครับ.....จากนี้ไปผู้ใหญ่ใจดีก็จะคอยสนับสนุน กระตุ้น และติดตามงานเยาวชนให้เดินไปตามความคิด ความฝันของเขาให้บรรลุผล ครับเรากำลังคบเด็กสร้างบ้านสร้างครอบครัวสร้างชุมชนให้เข้มแข็งครับ
</span>
น่าจะเปลี่ยนจากคำว่า กาดมั่ว
เป็น กาดหมั้ว ดูจะดีกว่านะค่ะ เพราะเป็นกำเมือง
("มั่ว" นี่ดูหมือนจะใช้กับมั่วสุม)