พิธีการบวชนี้ เรียกผู้ที่จะบวชว่า นาค มีเรื่องเล่ามากันดังนี้ ซึ่งรู้กันในหมู่ชาวบ้านว่า เมื่อพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ มีนาค (สัตว์ชนิดหนึ่งคล้ายงู อยู่ใต้บาดาล มีฤทธิ์สามารถแปลงตัวได้เป็นต้น) แปลงกายเป็นมนุษย์มาบวชในพระศาสนา อยู่มาวันหนึ่ง เธอนอนหลับ ร่างก็กลายคืนเป็นนาค เพราะตามธรรมดาของนาคนั้น ร่างจะกลายเป็นนาคเสมอไป ในกาล ๒ สถานคือ ในคราวเสพเมถุนธรรมกับนางนาค ๑ ในเวลานอนหลับ ๑ ภิกษุรูปหนึ่งไปพบเข้าตกใจกลัว เรื่องไปถึงพระพุทธเจ้า พระองค์รับสั่งถาม ได้ความว่าเธอมีศรัทธาปสาทะในพระศาสนาจึงปลอมตัวมาบวช ทรงตรัสว่าสัตว์เดรัจฉานไม่อยู่ในฐานะที่จะบวชได้ จึงทรงให้ลาเพศบรรพชิตเสีย กลับไปเป็นนาคดังเดิม แต่ภิกษุนั้นมีความอาลัยจึงขอฝากชื่อไว้ในพระศาสนา
ตามเรื่องนั้นความท่อนต้น ปรากฏในพระคัมภีร์มหาวรรค แต่ท่อนปลายที่ว่า นาคฝากชื่อนี้ มิได้ปรากฏในคัมภีร์ด้วย ความจริงนั้น ชื่อว่านาค อาจเป็นคำที่ท่านใช้เรียกเพื่อสะดวกในการสวด หรืออีกอย่างหนึ่ง วิเคราะห์ตามภาษาศาสตร์ นาค แปลว่า ผู้ประเสริฐหรือผู้ไม่ทำบาปก็ได้ โดยความหมายว่า การบวช เป็นการละเพศคฤหัสถ์ที่พร้อมทำบาปได้ทุกเมื่อ แต่การมาบวชจะทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะต้องอยู่ในวินัยของสมณะ เป็นการกลับตัวกลับใจใหม่ ดังนั้นผู้มาบวชจึงเรียกว่านาค แปลว่าผู้ไม่ทำบาปหรือผู้ประเสริฐ เช่นกล่าวแล้วขอบคุณมากมาย
มีงานส่งครูแล้ววววววววววววววว ..................!!!!!!!!!!!
ขอบคุงมากๆเรยคราบ มีงานส่งพี่เณรล่ะ