น้ำมันแก๊สโซฮอล์ออกเทน 95


น้ำมันเชื้อเพลิง
น้ำมันแก๊สโซฮอล์ออกเทน 95 ที่มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับน้ำมันเบนซิลพิเศษไร้สารตะกั่ว ออกเทน 95 แก๊สโซฮอล์ เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากแนวพระราชดำริใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 โดยทรงเล็งเห็นว่าประเทศไทยอาจประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมัน และปัญหาพืชผลทางการเกษตรมีราคาตกต่ำ จึงทรงมีพระราชดำริให้โครงการส่วนประองค์สวนจิตรลดาได้ศึกษากระบวนการผลิตแอลกอฮอล์จากอ้อย และนำแอลกอฮอล์ที่ผลิตได้นี้มาผสมกับน้ำมันเบนซิน ผลิตเป็นน้ำมัน “แก๊สโซฮอล์” เพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน โดยโครงการส่วนพระองค์ได้เริ่มผลผลิตแอลกอฮอล์จากอ้อยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2529 และได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ แก๊สโซฮอล์ กับประโยชน์ที่จะได้รับ นอกจากราคาแก๊สโซฮอล์จะถูกกว่าน้ำมันเบนซินธรรมดา ซึ่งช่วยประหยัดการใช้น้ำมันและเงินตราต่างประเทศในการซื้อน้ำมันไปได้มากแล้ว แก๊สโซฮอล์ยังช่วยลดปริมาณมลพิษจากท่อไอเสียและมลพิษในอากาศ เพราะสามารถลดปริมาณไฮโดรคาร์บอนมอนนอกไซด์ลงได้ถึง 30% ทำให้การเผาไหม้ของเครื่องยนต์สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แก๊สโซฮอล์สามารถเติมได้กับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกรุ่นตามที่ผู้ผลิตแนะนำโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปรับแต่งเครื่องยนต์ และสามารถเติมผสมกับน้ำมันเชื้อเพลิงที่เหลืออยู่ในถังได้เลยไม่ต้องรอให้น้ำมันหมดถังก่อน และหากไม่มีจุดเติมแก๊สโซฮอล์ก็สามารถเปลี่ยนไปเติมน้ำมันเบนซินทั่วไปได้ทันทีเช่นกัน เพราะแม้ว่าสารเติมแต่งค่าออกเทนที่กำหนดให้มีในการเติมน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว ออกเทน 95 โดยทั่วไปนั้น จะเติม MTBE (Methyl Tertiary Butyl Ether) แต่สำหรับแก๊สโซฮอล์ที่จะใช้ Ethyl Alcohol 99.5% ทดแทนในปริมาณ 10% แต่คุณสมบัติในการใช้งานกับเครื่องยนต์ยังคงเหมือนกันทุกประการ นอกจากนี้ การผลิตแก๊สโซฮอล์ยังถือเป็นการใช้ประโยชน์จากพืชผลทางการเกษตรในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพราะไม่ว่าจะเป็นอ้อย มันสำปะหลัง ข้าว ข้าวโพด สามารถนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตแอลกอฮอล์ได้ทั้งหมด ช่วยลดงบประมาณในการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรลงได้ถึงหนึ่งหมื่นล้านบาท *** เอทานอล คือ แอลกอฮอล์ที่ได้จากการหมักพืชหรือผลิตผลทางการเกษตร สามารถใชเป็นเชื้อเพลิงโดยตรงเพื่อทดแทนน้ำมันเบนซินหรือน้ำมันดีเซล เมื่อผสมกับน้ำมันเบนซินเป็น “แก๊สโซฮอล์” ผสมน้ำมัน ดีเซลเป็น “ดีโอฮอล์” ใช้แก๊สโซฮอล์เพื่อชาติ เป็นพลังงานทดแทน ผลิตจากพืชเกษตรในประเทศ ใช้แทนสารเพิ่มออกเทนที่นำเข้าจาก ต่างประเทศ ประหยัดเงินตราต่างประเทศมากกว่า 3,000 ล้านบาท ต่อปี ประหยัดการใช้น้ำมันที่มีอยู่จำกัด โดยการนำเอทานอลมาผสมกับน้ำมันเบนซิน จะช่วยลดการใช้ น้ำมันของประเทศลงได้ประมาณ 10% หรือเดือนละ 25 ล้านลิตร เกษตรกรไทยมีรายได้สูงขึ้น มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจากการผลิตเอทานอลที่ได้จากพืชเกษตร ลดมลพิษทางอากาศ โดยลดไฮโดรคาร์บอน และคาร์บอนมอนนอกไซด์ ลงได้ 20-25 % ช่วยลดคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลัก ที่ก่อให้เกิดสภาวะ เรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ (GREEN HOUSE EFFECT) รวมทั้งลดควันดำ ลดสารอะโรเมติกส์ และลดสารเบนซีน ช่วยกระจายการลงทุน การจ้างงานสู่ชนบท ใช้แก๊สโซฮอล์เพื่อคุณ ได้ใช้น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ในราคาที่ประหยัดลง 1.50 บาทต่อลิตร ช่วยให้เครื่องยนต์เผาไหม้สะอาด สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ได้มีส่วนช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อนร่วมชาติให้ขายผลผลิตได้ในราคาที่สูงขึ้น ได้ช่วยลดมลพิษทางอากาศ ซึ่งส่งผลถึงชีวิตตนเอง ลูกหลาน และเพื่อนร่วมชาติ -2- ผลเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการเติมแก๊สโซฮอล์ 95 เนื่องจากแก๊สโซฮอล์ 95 เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้จากการผสมระหว่าง เอทานอล หรือ เอทิลแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5% ผสมกับน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่ว ในอัตราส่วนเบนซิน 9 ส่วน เอทานอล 1 ส่วน 1. คุณสมบัติของแอลกอฮอล์ คือระเหยเร็ว ทำให้เกิดหยดน้ำในถัง อาจทำให้ถังน้ำมันเกิดสนิมและผุเร็วกว่าที่ควรจะเป็น อาจทำให้เกิดการอุดตันในระบบน้ำมันเชื้อเพลิง 2. ควรเติมแก๊สโซฮอล์ 95 สลับกับเบนซิน 95 เนื่องจากในแก๊สโซฮอล์ไม่มีสารหล่อลื่นบ่าวาวล์เหมือนในเบนซิน 95 จึงทำให้เกิดการสึกหรอที่บ่าวาวล์มากขึ้น 3. จากการใช้งานจริงอัตราการเร่งลดลงในช่วง 0 – 100 กม./ชม. ต้องใช้เวลาเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเบนซิน 95 จึงเป็นเหตุให้ต้องเหยียบคันเร่งมากขึ้น ทำให้เกิดการสิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้นตามไปด้วย เครื่องยนต์ทำงานหนักขึ้น เกิดการสึกหรอเร็วขึ้น 4. การเติมเอทานอล ลงในเบนซิน 95 มีผลต่อคุณสมบัติบางประการของวัสดุประเภทยางที่ใช้เป็นระบบเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์มากกว่า 5. การเติมเอทานอล ลงในเบนซิน 95 มีผลต่อคุณสมบัติบางประการของวัสดุประเภทพลาสติก ที่ใช้เป็นระบบเชื้อเพลิงในเครื่องยนต์ 6. อัตราการกินน้ำมันของรถ เปรียบเทียบระหว่าง แก๊สโซฮอล์ 95 กับ เบ็นซิน 95 จากการใช้จริง ก่อนหน้านี้ เติมเบ็นซิน 95 จำนวน 40 ลิตร วิ่งได้ระยะทาง = 400 กม. เบ็นซิน95 จำนวน 40 ลิตร ราคาลิตรละ 23.34 บ. เป็นงิน = 933.60 บาท ปัจจุบัน เติมแก๊สโซฮอล์95 จำนวน 40 ลิตร วิ่งได้ = 360 กม. แก๊สโซฮอล์95 จำนวน 40 ลิตร ราคาลิตรละ 21.84 บ. เป็นเงิน = 873.60 บาท ดังนั้นการเติมแก๊สโซฮอล์95 ประหยัดเงิน (เท่ากับ 933.60 - 873.60) = 60 บาท แต่... ระยะทางจะหายไป (เท่ากับ 400 – 360) = 40 กม. (ต้องเติม แก๊สโซฮอล์95 เพิ่มอีก 4.44 ลิตร จึงจะวิ่งได้ 400 กม. = เติมเบ็นซิน95 จำนวน 40 ลิตร) สรุป ต้องเติมแก๊สโซฮอล์95 จำนวน 44.44 ลิตร เป็นเงิน = 44.44x21.84 = 970.57 บาท ผลต่างคือ : ระยะทาง 400 กม. เติมแก๊สโซฮอล์95 = 970.57 บาท ระยะทาง 400 กม. เติมเบ็นซิน95 = 933.60 บาท กลายเป็นว่าต้องเสียเงินเพิ่ม 36.97 บาท จากการเติมแก๊สโซฮอล์95 เพื่อที่จะให้วิ่งได้ 400 กม. (เท่ากับเติมเบ็นซิน 95) บทสรุป " ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราว่าจะเลือกใช้อย่างไหน แต่ทั้งสองอย่างก็มี ข้อด้อย ข้อดี แตกต่างกันไป " หากมีข้อสงสัย หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ สำนักงานคณะกรรมการเอทานอลแห่งชาติ โทร. 0 2354 1648-51 โทรสาร 0 2354 1647 หรือ บริษัท เชลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์บริการลูกค้าบริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด โทร. 0-2262-7700 กด 2 การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย http://www.pttplc.com/th บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) 210 สุขุมวิท 64 บางจาก พระโขนง กรุงเทพฯ 10260 โทรศัพท์ 0-2335-4999 โทรสาร 0-2335-4009 ศูนย์บริการลูกค้าบางจาก โทรศัพท์ 0-2745-2440-4 ที่มา : จากอินเตอร์เน็ต
หมายเลขบันทึก: 141390เขียนเมื่อ 24 ตุลาคม 2007 12:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 เมษายน 2012 13:42 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท