การเขียนวิทยานิพนธ์ : การเขียนสรุปผลแบบมืออาชีพ


การเขียนสรุปผลการวิจัย

   เมื่อวานผมได้รับเมล์ 2-3 เมล์ ของนิสิต นักศึกษา สอบถามมาว่า การเขียนสรุปผลและอภิปรายผล เขียนอย่างไร และอาจารย์ที่ปรึกษาให้แก้ไขเรื่องสรุป ผล อภิปรายผล ดังนั้นวันนี้ผมจะแนะแนวทางการเขียนสรุปผลและอภิปรายผล ซึ่งแยกเป็น 2 บันทึกครับ

      การสรุปผลการวิจัย  เป็นการนำผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากบทที่ 4 มาเขียนสรุปย่อเพื่อให้ผู้อื่นอ่านแล้วเข้าใจว่าผลการวิจัยเป็นอย่างไร และการเขียนสรุปผลการวิจัยที่ดีนั้นต้องแสดงถึงความสัมพันธ์ของภาพรวมของการวิจัยทั้งหมด  การเขียนสรุปจะเขียนเฉพาะในส่วนที่สำคัญ ๆ เพื่อให้ผู้อ่านทราบว่าได้ผลอย่างไรบ้าง พยายามสรุปให้ครอบคลุมครบถ้วนประเด็นปัญหาที่วิจัยทั้งหมด การสรุปผลการวิจัยมีหลักเกณฑ์ในการเขียน ดังนี้
     1.  การสรุปผลการวิจัย  ควรสรุปตามความมุ่งหมายของการวิจัยและสมมติฐานของการวิจัย ทั้งนี้เพราะสรุปผลการวิจัยจะสามารถเชื่อมโยงหรือแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความมุ่งหมายของการวิจัย  สมมติฐานของการวิจัยและสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล  ตัวอย่างเช่น
 จากวิทยานิพนธ์เรื่อง การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2  ระหว่างการเรียนจากวีดิทัศน์แบบปฏิสัมพันธ์ กับการสอนแบบปกติ  เรื่อง  การออกแบบผลิตภัณฑ์  กลุ่มสาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี ของนรินทร์  สุ่มมาตร์ (2548)

ความมุ่งหมายของการวิจัย
      1.  เพื่อพัฒนาบทเรียนวีดิทัศน์แบบปฏิสัมพันธ์  เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์  กลุ่มสาระ การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2  ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
       2.  เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2  ที่เรียนจาก    การสอนด้วยวีดีทัศน์แบบปฏิสัมพันธ์กับการสอนปกติ  เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์  กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี 
      3.  เพื่อเปรียบเทียบความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2 ที่เรียนจาก       การสอนด้วยวีดิทัศน์แบบปฏิสัมพันธ์กับการสอนปกติ  เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์  กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี

สมมติฐานของการวิจัย
 1.  นักเรียนที่เรียนจากการสอนบทเรียนวีดิทัศน์แบบปฏิสัมพันธ์และนักเรียนที่เรียนจากการสอนปกติ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแตกต่างกัน
2. นักเรียนที่เรียนจากการสอนด้วยวีดิทัศน์แบบปฏิสัมพันธ์และนักเรียนที่เรียนจากการสอนปกติ  มีความคิดสร้างสรรค์แตกต่างกัน

สรุปผล
 1.  บทเรียนวีดิทัศน์แบบปฏิสัมพันธ์ เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2    กลุ่มสาระ การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี  ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 85.45/83.69 
 2.  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2  ที่เรียนด้วยบทเรียนวีดิทัศน์แบบปฏิสัมพันธ์  เรื่อง          การออกแบบผลิตภัณฑ์  กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี  มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าการสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
 3.  นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  2  ที่เรียนด้วยบทเรียนวีดิทัศน์แบบปฏิสัมพันธ์  เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์  กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี มีความคิดสร้างสรรค์สูงกว่าการสอนแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
 2.  สรุปผลการวิจัย  นิสิต นักศึกษาควรใช้ภาษาเขียนที่เป็นกลางหลีกเลี่ยงการใช้ความ คิดเห็นส่วนตัวมาสรุปในการบรรยายและหลีกเลี่ยงการตีความเอาเองในสรุปผลการวิจัย 
ตัวอย่างเช่น
  สรุปผลการวิจัยเดิม
    บทเรียนวีดิทัศน์แบบปฏิสัมพันธ์ เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี  ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 85.45/83.69   สูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ในสมมติฐาน
  สรุปผลการวิจัยที่ปรับปรุงแล้ว 
    บทเรียนวีดิทัศน์แบบปฏิสัมพันธ์ เรื่อง การออกแบบผลิตภัณฑ์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระ การเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี  มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.45/83.69  
 3.  การสรุปผลการวิจัยควรใช้ภาษาที่ชัดเจนและรัดกุม บ่งบอกถึงการตอบคำถามของการวิจัยที่ชัดเจนหรือสมมติฐานของการวิจัยที่ตั้งไว้ในบทที่ 1
 4.  ควรสรุปภาพรวมของผลการวิจัย ไม่ควรยกผลการวิจัยทั้งหมดจากบทที่ 4 มาเขียนสรุปผลการวิจัยและอธิบายปลีกย่อยมากเกินไปจะทำให้สับสนผลการวิจัยได้
 5.  กรณีที่ผลการวิจัยได้ผลเหมือนกัน นิสิต นักศึกษาสามารถรวมเป็นข้อเดียวกันก็ได้ เพื่อความกระชับในการเขียนสรุปผลการวิจัย ไม่จำเป็นต้องแยกข้อจนอ่านไม่เข้าใจ ทั้งที่สามารถรวมเป็นข้อเดียวได้  ดังตัวอย่าง  จากผลการวิจัยบทที่ 4   พบว่า  
   ผู้บริหารสถานศึกษาในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามหาสารคาม เขต  2 มีความพึงพอใจต่อสภาพการจัดกิจกรรมลูกเสือ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงตามค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก คือ ด้านบุคลากร( = 4.54) รองลงมาคือ ด้านการจัดกิจกรรม( = 4.38) และด้านหลักสูตร ( = 4.28)
   ผู้กำกับลูกเสือในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามหาสารคาม เขต  2 มีความพึงพอใจต่อสภาพการจัดกิจกรรมลูกเสือ  ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงตามค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก คือ ด้านบุคลากร( = 4.45) รองลงมาคือ ด้านการจัดกิจกรรม ( = 4.43) และด้านหลักสูตร ( = 4.27)
   รองผู้กำกับลูกเสือหรือครูผู้สอนลูกเสือในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามหาสารคาม เขต  2 มีความพึงพอใจต่อสภาพการจัดกิจกรรมลูกเสือ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงตามค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย 3 อันดับแรก คือ ด้านบุคลากรและด้านการจัดกิจกรรม ( = 4.43) รองลงมาคือ ด้านหลักสูตร ( = 4.16) และด้านกระบวนการเรียนการสอนลูกเสือ( = 3.95)
   จากผลการวิจัย  สรุปผลได้ว่า  ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้กำกับลูกเสือและรองผู้กำกับลูกเสือหรือครูผู้สอนลูกเสือในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามหาสารคาม เขต  2 มีความพึงพอใจต่อสภาพการจัดกิจกรรมลูกเสือ ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2544 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก
  6.  สรุปผลการวิจัยบทที่ 5 คือบทคัดย่อนั้นเอง การสรุปควรมีกระชับ รัดกุมที่สำคัญ     การสรุปผลการวิจัย นิสิต นักศึกษาคือการตอบคำถามของความมุ่งหมายของการวิจัยและสมมติฐานการวิจัย ว่าตอบชัดเจนหรือไม่อย่างไร สามารถตรวจสอบได้โดยย้อนดูความมุ่งหมายของการวิจัยอีกครั้ง
  7.  กรณีที่นิสิต  นักศึกษาสรุปผลการวิจัยแล้ว อยากตรวจสอบว่าสรุปผลครอบคลุม ชัดเจน  รัดกุมหรือไม่  สามารถตรวจสอบได้โดยทำตารางความสัมพันธ์ระหว่าง  ความมุ่งหมายของการวิจัย  สมมติฐานของการวิจัยและสรุปผลการวิจัย ซึ่งจะบ่งชี้ความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ตรวจสอบได้ง่ายว่าการสรุปผลมีความชัดเจนเพียงใด 
 สรุปได้ว่า การสรุปผลการวิจัยไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยากในการทำวิทยานิพนธ์  การเขียนสรุปผลต้องมีความสอดคล้องกับความมุ่งหมายของการวิจัยและสมมติฐานของการวิจัย(ถ้ามี) มีความกระชับ รัดกุม  ไม่ใส่ความรู้สึกของผู้ทำวิทยานิพนธ์ลงในการสรุปผล  จะทำให้สรุปผลการวิจัยมีความสมบูรณ์มากขึ้น

ทองสง่า ผ่องแผ้ว 22/10/2550

หมายเลขบันทึก: 140716เขียนเมื่อ 22 ตุลาคม 2007 08:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 12:14 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)
วิริยะ เชาว์พานิช

ตอนนี้ผมเรียนโท  สาขาบริหารการศึกษาครับ

ผมยังไม่มีความรู้ในทางการที่จะทำวิทยานิพนธ์

ผมจึงอยากขอคำปรึกษาหน่อยจะได้ไหมครับ

ผมอย่างจะให้คุณตั้งชื่อเรื่องให้ผมได้ไหมครับว่าเหมาะที่จะทำเรื่องอะไรเพราะตอนนี้ผมทำงานอยู่ที่โรงเรียนเอกชนครับเป็นโรงเรียนอนุบาลถึง ป.6

ขอตั้งชื่อเรื่องให้ผมซักสองสามเรื่องครับขอบคุณครับ

เป็นประโยชน์มาก ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท