ปลาดุกที่ว่า เป็นปลาดุกตัวเป็นๆ
รถโดยสารที่ว่า เขาไม่ได้เอามาทำเป็นบ่อเลี้ยงปลานะครับ
ช่วงเย็นวันที่ 3 ต.ค.50
นายบอนเดินทางออกจาก คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ที่ มมส.เก่า มาขึ้นรถโดยสารกลับกาฬสินธุ์ เที่ยวสุดท้ายตอน 17.15 น. ที่สามแยกกาฬสินธุ์
รถแล่นมาจนถึงยางตลาด
2 ผู้โดยสารที่นั่งเบาะหน้า อยู่ๆก็ทำท่าเหมือนตกใจอะไรสักอย่าง แล้วก้มลงเหมือนมองหาอะไร
เอ๊ะ ตกใจอะไรกันตอนนี้
เมื่อมองตาม ตรงช่องทางเดินตรงกลางระหว่างเบาะที่นั่ง
ปลาดุกตัวเป็นๆ เลื้อยไหลไปตามทางเดิน จากหลังรถ เลื้อยไปข้างหน้า
ผู้โดยสารสาวที่นั่งเบาะหน้า มองดูปลาดุก บางคนก็ตกใจ ไม่นึกว่า จะเจอปลาดุกบนรถโดยสาร
ระหว่างทาง ฝนก็ตก อากาศก็หนาวเย็น
เจ้าของปลา ก็คงจะเขิน เลยไม่ลุกไปจับปลา
รถจอดส่งผู้โดยสารตามป้ายต่างๆ สักพัก ปลาดุกก็เลื้อยลงจากรถลงข้างทาง ไหลลงทุ่งนาไป
ข้อคิด จากเรื่องที่ดูเหมือนไม่มีสาระควรค่าแก่การบันทึก....
1. ปลาดุกตัวนี้โชคดีนะครับ หลุดรอดจากการเป็นอาหารของคนกลับสู่ทุ่งนาได้
2. ในที่ที่ไม่คิดว่า จะได้เจอ บางทีก็มีโอกาสได้เจอสิ่งที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เจอ (เช่น เจอปลาดุกเลื้อยไปตามพื้นบนรถโดยสาร)
3.เรื่องที่ดูเหมือนไร้สาระ มักจะสร้างรอยยิ้ม ผ่อนคลายได้หลายเรื่อง แต่คนเรามักมองข้ามคุณค่าของสิ่งเหล่านี้
4. คนเรามักจะมองเรื่องที่เครียด หนักๆ ว่ามีสาระ
, ,
คุณบอนค่ะ ขอบคุณบันทึกนี้มาก ในความไร้สาระยังมีบางเรื่องที่น่าสนใจซ่อนอยู่จริงๆคะ แต่คงขึ้นอยู่กับเป้าหมายของแต่ละคนในแต่ละเรื่องหรือเปล่าค่ะ
หายไปนานนะค่ะ
สวัสดีครับ พี่หมู
หลายคนมักจะมองว่า บางอย่าง มันไร้สาระ ทั้งๆที่จะมองให้มันมีสาระก็ย่อมได้ อยู่ที่ว่า เราจะมองเห็นหรือไม่
นายบอนไม่ได้หายไปไหนนะครับ เพียงแต่ไม่ค่อยขยันเขียนบันทึกในบางช่วงเวลาก็เท่านั้นเอง
เพราะไม่มีอะไรมาเขียนด้วยล่ะครับ