การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การให้คำปรึกษาผู้ป่วย HIV/AIDS
ที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศชายรักชาย (MSM)
นิยามของ MSM
MSM คือ กลุ่มชายรักชายที่มีพฤติกรรมรักเพศเดียวกัน ซึ่งแบ่งเป็นหลายประเภทและเรียกแตกต่างกันออกไป ชายที่ชอบร่วมเพศทั้งหญิงและชาย เรียกว่า BISEXSUAL ส่วนชายที่ต้องการหรือชอบที่จะมีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกันอย่างเดียว เรียกว่า HOMOSEXSUAL แต่ก็ต้องดูตามสถานการณ์ด้วย ซึ่ง MSM ไม่ได้หมายถึงว่าบุคคลเหล่านี้จะอยู่ในประเภทที่มีใจรักชายอย่างเดียวเท่านั้น ชายบางคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงอาจหาผู้หญิงร่วมเพศสัมพันธ์ไม่ได้ จึงจำเป็นต้องร่วมเพศกับชาย เช่น ชายที่อยู่ในทัณฑสถาน หรือ ผู้ที่ใช้สารเสพติด เป็นต้น ซึ่งกลุ่มคนที่มีพฤติกรรม MSM นี้จะมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ HIV/AIDS และโรคทางเพศสัมพันธ์ (STI) เช่น โรค กามโรค หนองใน เริมอ่อน หูดหงอนไก่ เป็นต้น
ในปัจจุบันผู้ที่มีพฤติกรรมชายรักชาย มีการเปิดเผยมากยิ่งขึ้น กลุ่มผู้ติดเชื้อจึงมีอัตราที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน
การมีเพศสัมพันธ์ที่เสี่ยงทางไหน
การมีเพศสัมพันธ์ของ MSM จะมีในลักษณะของการร่วมเพศทางทวารหนักเป็นส่วนใหญ่ การร่วมเพศลักษณะนี้อาจทำให้เกิดการระคายเคืองจากการเสียดสีเนื่องจากจะมีไม่มีสารหล่อลื่นจากธรรมชาติเหมือนในเพศหญิง ซึ่งจะทำให้เกิดแผลและเป็นช่องทางที่ทำให้ติดเชื้อ HIV/AIDS นอกจากการร่วมเพศทางทวารหนักแล้วยังมีการร่วมเพศในลักษณะของ Oral sex คือ การใช้ปากและลิ้นในการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ การร่วมเพศโดยใช้อุปกรณ์ช่วยก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการติดเชื้อและแพร่เชื้อ
วิธีการตั้งคำถามและการให้คำปรึกษาผู้ป่วย HIV/AIDS ที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศ
ผู้ป่วย HIV/AIDS ที่มีพฤติกรรมรักร่วมเพศจะมีจิตใจที่ละเอียดอ่อน การตั้งคำถามจึงต้องละเอียดอ่อนตามไปด้วย และต้องเป็นคำถามที่คลอบคลุมทุกรายละเอียด การตั้งคำถามต้องเป็นคำถามที่ชี้แนวทางให้เห็นถึงพฤติกรรมของผู้ป่วยและต้องใช้คำถามที่ไม่ทำลายความรู้สึก เช่น ถ้าต้องการที่จะทราบว่าผู้ป่วยมีเพศสัมพันธ์กับชายหรือไม่ ส่วนใหญ่ผู้ให้การปรึกษาจะพูดคุยในประเด็นอื่น ๆ ก่อนแล้วจึงใช้คำถามที่ถามถึงความรู้สึกที่แท้จริง เช่น เมื่อคุณอยู่ใกล้และสัมผัสผู้หญิง คุณรู้สึกอย่างไร มีความสุขหรือไม่ และเมื่อเทียบกับการที่ได้สัมผัสกับผู้ชาย ความรู้สึกไหนสร้างความสุขและความต้องการมากว่ากัน ในการสังเกตพฤติกรรมผู้ป่วยอาจจะต้องสังเกต ตั้งแต่การพูดคุย การตอบคำถาม พฤติกรรมการแสดงออก และผู้ให้การปรึกษาต้องให้การประเมินเบื้องต้นเพื่อเป็นแนวทางในการตั้งคำถามให้สอดคล้องกับลักษณะของผู้ป่วยในแต่ละบุคคล
สัมพันธภาพในการเข้าถึงกลุ่มชายรักชาย
ผู้ให้คำปรึกษาต้องสร้างความไว้วางใจให้ผู้ป่วยเชื่อใจและมีความมั่นใจว่าความลับของตนจะไม่ถูกเปิดเผย กล้าที่จะตอบคำถาม ต้องแสดงให้ผู้ป่วยกลุ่มนี้เห็นว่าผู้ให้คำปรึกษามีความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และทำตัวเป็นพวกเดียวกับคนกลุ่มนี้ ในขั้นตอนแรกอาจต้องมีการเรียนรู้ถึงพฤติกรรมเบื้องต้นของผู้ป่วย เช่น ท่าทางการเดิน การพูดคุย และ การแต่งกาย ผู้ให้คำปรึกษาต้องมีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติ และจิตใจของผู้ป่วยเป็นอย่างมาก ต้องมีการพูดคุยที่เป็นกันเอง ไม่ใช้ศัพท์หรือคำพูดที่ทำให้เห็นถึงความแตกต่างและเกิดช่องว่างระหว่างผู้ป่วยและผู้ให้คำปรึกษา การใช้น้ำเสียงต้องไม่แข็งกระด้าง รวมถึงการใช้คำถามผู้ให้การปรึกษาต้องมีกลยุทธ ในการถามเพื่อให้ได้คำตอบที่ถูกต้องมากที่สุด
การเกิดหูดหงอนไก่ใน HIV/AIDS ที่มีพฤติกรรมชายรักชาย
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ คือ การมีพฤติกรรมที่เสี่ยงในการร่วมเพศที่ผิดวิธี ผิดธรรมชาติ ไม่สะอาด ทำให้เชื้อไวรัสเกิดการแพร่เชื้อ ซึ่งเชื้อไวรัสชนิดนี้ไม่จำเป็นต้องติดต่อในกลุ่มชายรักชายและผู้ติดเชื้อ HIV/AIDS เท่านั้นในกลุ่มคนปกติก็สามารถติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ได้ หากไม่มีการตรวจร่างกายก่อนการมีเพศสัมพันธ์ หรือมีการร่วมเพศที่ผิดวิธี แต่ไวรัสชนิดนี้ก็สามารถรักษาให้หายได้
ยินดีต้อนรับครับ อยากให้เล่าสิ่งละอันพันละน้อย หรือเคล็ดลับในการดูแลผู้ป่วยโรคติดต่อที่บุคลากรของสถาบันฯ มีความภูมิใจร่วมกัน ว่ามีที่มาอย่างไร เกิดขึ้นได้อย่างไร
วิจารณ์ พานิช
เป็นก้าวแรกที่เป็นประโยชน์ในการรวบรวมองค์ความรู้ของบุคลากรในองค์กร และจะนำไปเป็นแบบอย่างสำหรับงานพัฒนาคุณภาพสถาบันค่ะ
ตามเข้ามาอ่านจากกระทู้ http://gotoknow.org/blog/microcosm/174360 ครับ
การอยู่กับคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ไม่ใช่จะติดกันง่ายอย่างที่คิด ดิฉันอยู่กันมา 9 ปี มี ลูก 2 คน ใช้ชีวิตปกติเหมือนคนทั่วไป อย่างไปกังวลใช้ชีวิตให้มีความสุขมากที่สุด นั่นล่ะจะไม่มีทุกข์
ผมเพิ่งไปมีเพศสัมพันกับผู้หญิงขายบริการวันนี้ แล้วถุงแตกกลัวติดเอดส์มากแล้วกลัวนำโรคไปติดแฟน ไม่รู้จะทำไงดี ถ้าติดจะเลิกกับแฟนยังไง แล้วจะอยู่ยังไง ผมกำลังจะแต่งงาน หรือจะตายดีครับ ช่วยให้คำตอบหน่อยกำลังตัดสินใจ
แนะนำให้เใช้ถุงยางกับภรรยา3-6เดือน ถ้าเจาะเลือดแล้วปกติก็เลิกใช้ได้ค่ะ บอกแฟนตามตรงจะได้ไม่ต้องโกหกค่ะ แฟนไม่ว่าหรอกค่ะ ความดีเก่าๆก็เอามาใช้นะคะ ต่อไปอย่าเที่ยวเลยค่ะ