ประวัติและผลงานที่ต้องบันทึกไว้
ของนักเพลงพื้นบ้าน รุ่นปัจจุบัน
ในจังหวัดสุพรรณบุรี (ตอนที่ 4)
ทำไมจึงเรียกว่า เพลงอีแซว นางบัวผัน จันทร์ศรี ครูเพลงชื่อดังและศิลปินแห่งชาติด้านการแสดงเพลงอีแซว บ้านห้วยเจริญ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ได้กล่าวไว้ว่า แต่เดิมไม่มีเพลงอีแซว มีแต่เพลงแคนคู่มากับเพลงฉ่อย แต่เมื่อเล่นกันนานเข้าและว่ากันคืนยันรุ่ง (ตั้งแต่ครึ่งคืนจนถึงสว่างคาตา) ร้องต่อว่ากันได้นาน จึงเรียกกันว่า “เพลงอีแซว” ต่อจากนักเพลงรุ่นครูมาถึงศิลปินในยุคปัจจุบันที่ยังคงยึดมั่นในการรับงานแสดงเพลงอีแซว และนำคณะไปแสดงบนเวทีในงานปิดทองหลวงพ่อโต ที่วัดป่าเลไลยก์จนถึงทุกวันนี้ ได้แก่
นางลำจวน เกษมสุข หรือ ลำจวน สวนแตง เกิดปี พ.ศ. 2480 ปัจจุบันอายุ 70 ปี (พ.ศ. 2550) บ้านเลขที่ 59 หมู่ 2 ตำบลศาลาขาว อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี แยกทางจากสามีโดยมีบุตรด้วยกัน 3 คน ตัวของลำจวนเองไม่เคยสนใจเพลงอีแซวมาก่อนเลย เห็นเขาเล่นเพลงยังไม่อยากดู เพราะว่าเขาร้องกันหยาบคาย ไม่น่าฟัง จนกระทั่งวันหนึ่งได้มีโอกาสตามพี่สาวไปเที่ยวงานปิดทองหลวงพ่อโตที่วัดป่าเลไลยก์ ได้เห็นเขาเล่นเพลง ดูแล้วสนุกสนาน จึงได้ติดตามพี่มาลัยไปงานเพลง มีอยู่วันหนึ่งพี่สาวป่วยรักษาไม่หาย ลุงเป็นคนมาบอกกับพ่อว่า จะต้องทรงเจ้า ถ้ารับเป็นคนทรงจึงจะหาย แต่ว่าพ่อเป็นคนไม่ชอบเพลง พอพี่สาวรับเป็นคนทรงเจ้า อาการป่วยก็หาย พอมีคนมาหาเพลงพี่สาวยังไปไม่ค่อยจะไหว ลำจวนจึงจำเป็นต้องหิ้วกระเป๋าไปให้พี่สาว ตอนนั้นอายุ 12 ปี สมัยก่อนไปเล่นเพลงต้องเดินไป ไปกับพี่สาวบ่อย ๆ เข้าเขาให้ร้องก็ไม่กล้าร้อง อายคนดู เริ่มต้นที่การตีฉิ่ง ได้ค่าตัวงานละ 1 บาท อยู่มาวันหนึ่งเห็นคนที่เขาเล่นเพลงเป็นได้ค่าตัวงานละ 30 บาท แต่ตัวเองตีฉิ่งได้ 10 บาท ก็เลยคิดอยากร้องเพลง ก็ไปขอเพลงออกตัวจากรุ่นพี เดินทางไปก็ต่อเพลงกันไป เมื่อไปเล่นงานบ่อย ๆ ก็จำเนื้อเพลงได้ ระยะหลัง ๆ มีความสนใจเพลงอีแซวมากขึ้น ใช้เวลาไม่นานก็จำเพลงได้มาก มีเพลงหักกัน (เพลงที่ว่ากันเจ็บ ๆ) แก้กันไม่ตก ผู้ชายว่ามาแล้วผู้หญิงแก้เพลงไม่ได้ เพลงคณะลำจวน สวนแตง ว่ากันเป็นเรื่องแบบเก่า ไม่หยาบคาย มีสองแง่สองง่ามบ้าง
นางขวัญจิต ศรีประจันต์ เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2490 อายุ 60 ปี (พ.ศ. 2550) ชื่อจริงนางเกลียว เสร็จกิจ สมรสกับนายเสวี ธาราพร มีบุตร 3 คน บ้านเดิมอยู่ที่ ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรของนายอัง นางปลด เสร็จกิจ ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ที่ 1 ตำบลสนามชัย อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โทร. 035-521706 และ 081-945-4771 ขวัญจิต มีพี่น้องทั้งหมด 3 คน เป็นหญิง ได้แก่ ขวัญใจ ศรีประจันต์ (จำนงค์ เสร็จกิจ) และบุญนะ เสร็จกิจ เริ่มฝึกเพลงอีแซวจากนายไสว วงษ์งาม และแม่บัวผัน จันทร์ศรี ตั้งแต่เป็นเด็กอายุราว 15 ปี ทั้งที่พ่อ แม่ไม่สนับสนุนให้หัดเพลงเกรงว่าเมื่อโตเป็นสาวจะมีปัญหาเรื่องชู้สาวตามมาแต่กลับสนับสนุนให้น้องสาวคนเล็กไปฝึกหัดแทน ด้วยความสนใจในเพลงพื้นบ้านจึงทำให้นางเกลียวติดตามดูการร้อง การรำ การแสดงของแม่บัวผัน จันทร์ศรี เป็นประจำ จนในที่สุดได้มีโอกาสไปดูแลน้องสาวที่เล่นเพลงอยู่ในวงพ่อไสว วงษ์งาม จึงได้เรียนรู้เพลงอีแซวแบบครูพักลักจำ พี่น้องทั้ง 3 คนฝึกเล่นเพลงอีแซวมาในระยะเดียวกัน จนเป็นแม่เพลงอีแซวที่มีชื่อเสียงมาก แต่ด้วยภาพลักษณ์ที่โดดเด่นในด้านการแสดงเพลงอีแซวของขวัญจิต ศรีประจันต์ การด้นเพลงอย่างฉับพลัน และสามารถนำเอาเหตุการณ์ในปัจจุบัน มาร้องหน้าเวทีได้อย่างไพเราะยิ่ง ท่องเนื้อเพลงได้หลายลีลาตามแนวของแม่บัวผัน นางเกลียว เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือต่าง ๆ รวมทั้งวรรณคดีเก่า ๆ แล้วนำไปร้องตามทำนองเพลงอีแซวจนมีความแตกฉาน จึงไปขอครูไสวแสดงเพลงอีแซวหน้าเวที ได้แสดงความสามารถด้วยความเฉลียวฉลาดในการว่าเพลง อย่างคมคาย จึงเป็นที่ชื่นชอบของนักฟังเพลงอีแซว นางเกลียว ตระเวนเล่นเพลงอีแซวหลายวงจึงทำให้เกิดความแตกฉาน หลังจากที่เล่นเพลงอีแซว จนมีชื่อเสียงแล้ว นางเกลียว เสร็จกิจไปสมัครเป็นนักร้องกับวงดนตรี จำรัส สุวคนธ์ (น้อย) อยู่กับวงไวพจน์ เพชรสุพรรณ มีเพลงที่ดังติดหู เช่น เบื่อสมบัติ แหลมตะลุมพุก ฯลฯ อยู่ในวงการเพลงลูกทุ่ง จนมีชื่อเสียงโด่งดังด้วยเพลง “กับข้าว เพชฌฆาต” ซึ่งประพันธ์โดยครูจิ๋ว พิจิตร และต่อมาได้ตั้งวงดนตรีเป็นของตนเอง (ประมาณปี พ.ศ. 2510-2516) เป็นช่วงเวลาของวงดนตรีลูกทุ่ง คณะขวัญจิต ศรีประจันต์ กำลังได้รับความนิยมและในปี พ.ศ. 2516 นี้เองที่ขวัญจิต ศรีประจันต์ ยุติวงดนตรีลูกทุ่งกลับไปฟื้นฟูเพลงอีแซวที่จังหวัดสุพรรณบุรี บ้านเกิดอีกครั้งและอุทิศชีวิตให้กับการอนุรักษ์ เผยแพร่และถ่ายทอดเพลงอีแซวให้กับลูกศิษย์และนักเรียน นักศึกษา ประชาชนผู้ที่สนใจในเพลงอีแซว และเป็นนักเพลงที่เสียสละอุทิศตนเพื่อสังคม ขวัญจิต ศรีประจันต์ จึงได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน-อีแซว) ประจำปี พ.ศ. 2539
ขวัญใจ ศรีประจันต์ ชื่อจริง จำนงค์ เสร็จกิจ เกิดเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2493 อายุ 57 ปี (พ.ศ. 2550) เป็นน้องสาวของนางเกลียว เสร็จกิจ (ขวัญจิต ศรีประจันต์) ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ 77/1 หมู่ที่ 5 ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โทร. 035-521706 และ 081-195-8197 บ้านตรงข้ามกับ สุจินต์ ศรีประจันต์ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและรับงานแสดงเพลงอีแซว รับทำขวัญนาค และแสดงประกอบเทศน์มหาชาติ ขวัญใจ เริ่มฝึกหัดเพลงตั้งแต่อายุ 13 ปี โดยมีพี่น้องฝาแฝดอีกคนชื่อ บุญนะ เสร็จกิจ บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 5 ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ อยู่เลยเข้าไปในเส้นทางเดียวกันอีกประมาณ 500 เมตร ครูเพลงที่ขวัญใจและบุญนะไปฝึกหัดเพลงเมื่อตอนเริ่มแรกคือ ครูไสว วงษ์งาม และแม่บัวผัน จันทร์ศรี ทั้งที่พ่อ แม่ก็ไม่สนับสนุนให้หัดเพลง ต่อมาเมื่อพี่สาวคือ ขวัญจิต ไปหัดเพลงด้วยกัน จึงมีคู่เล่นที่เสียงดี และท่าทางน่าชม ประกอบกับในยุคนั้นนักเพลงรุ่นเก่า ๆ เริ่มที่จะเลิกรากันไป เมื่อนักเพลงอีแซวรุ่นใหม่อย่าง ขวัญจิต ศรีประจันต์ ขวัญใจ ศรีประจันต์ และสุจินต์ ศรีประจันต์เข้ามาหัดเพลงและออกแสดงหน้าเวที ทำให้มีผู้ชมให้การต้อนรับเป็นอย่างมาก ในบางสถานที่ถึงกับพาครอบครัวไปจองที่ชมการแสดงตั้งแต่ตอนเย็น ขวัญใจ ศรีประจันต์ แสดงเพลงอีแซวอยู่ได้ระยะหนึ่ง ก็ต้องลาจากวงการเพลงอีแซวไปเป็นนักร้องลูกทุ่งโดยไปกับพี่สาวคือขวัญจิต มีชื่อเสียงอยู่ในวงการเพลงลูกทุ่ง มีผลงานบันทึกแผ่นเสียงหลายเพลง ต่อมามีผลงานเทปคาสเสทเพลงอีแซวคู่กับขวัญจิต, ไวพจน์ หลายชุด และในช่วงเวลาเดียวกันกับที่ขวัญจิต ศรีประจันต์ หยุดวงดนตรี ประมาณ ปี 2516 ขวัญใจ ก็กลับมาเป็นแม่เพลงสุพรรณฯ อย่างเดิม รับงานแสดงเพลงอีแซวมาจนถึงปัจจุบันนี้
นายสุจินต์ ศรีประจันต์ ชื่อจริง นายสุจินต์ ชาวบางงาม เกิดเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2492 อายุ 58 ปี (พ.ศ. 2550) บิดาชื่อนายสังเวียน ชาวบางงาม มารดาชื่อนางจอม ชาวบางงาม อยู่บ้านเลขที่ 44 หมู่ที่ 5 ตำบลวังน้ำซับ อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี โทร. 081-795-3615 ฝึกหัดเพลงอีแซวจากพ่อไสว วงษ์งามและแม่บัวผัน จันทร์ศรี ตั้งแต่อายุ 13 ปี ในระยะเวลาไล่เลี่ยกับขวัญจิต ศรีประจันต์ ในขณะที่หัดเพลงอีแซวก็ฝึกหัดเพลงทรงเครื่อง (เพลงฉ่อย) เพลงเกี่ยวข้าว เพลงพวงมาลัย เพลงเรือ เพลงระบำต่าง ๆ อีกมาก ในยุคนี้การหัดเพลงจะต้องฝึกตั้งเสียงกับครูเพลงก่อน ต่อจากนั้นจดเนื้อเพลงเอาไปท่องให้จำได้ แล้วกลับมาว่าเพลงให้ครูฟัง เมื่อมีงานแสดงก็ติดตามดูรุ่นพี่ ๆ เขาเล่น จนมีโอกาสเข้าไปร่วมแสดง ว่าเพลงออกตัวก่อนเมื่อว่าเพลงได้มากเข้าก็ออกไปเล่นไปกับรุ่นพี่ ๆ จน กระทั่งเป็นที่ยอมรับในความสามารถยกให้เป็นพ่อเพลง สุจินต์ ชาวบางงาม เป็นพ่อเพลงรุ่นใหม่ที่ยึดอาชีพการแสดงเพลงอีแซวเอาไว้อย่างเหนียวแน่นเป็นงานหลักมีรายได้จากการแสดงเพลงอีแซว การร้องทำขวัญนาคและแสดงดนตรีจนสามารถส่งลูกเรียนจบสำเร็จได้ทั้ง 3 คน สุจินต์ ศรีประจันต์ มีความสามารถสูงยิ่งน้ำเสียงไพเราะสดใสน่าฟัง ร้องเพลงด้นได้อย่างฉับพลัน มีท่วงท่าในการแสดง และลูกเล่นลูกล้อในวงเพลงที่หาตัวจับได้ยาก ทุกวัน นี้ยังคงมีงานแสดงเพลงอีแซวไม่ขาดรวมทั้งการเผยแพร่ศิลปะการแสดง เพลงอีแซวไปสู่เยาวชนในโรงเรียนต่างๆ อีกด้วย
นางนกเอี้ยง เสียงทอง ชื่อจริง นางสวัสดิ์ เทียนแจ่ม เกิดเมื่อวันพุธ เดือน 9 ปีมะเมีย พ.ศ. 2497 อายุ 53 ปี (พ.ศ. 2550) ที่บ้านบางงาม อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี แต่งงานแล้วมีบุตร สาว 3 คน ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 667 หมู่ที่ 5 ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี โทร. 089-887-6711 ในระยะแรก ๆ ไม่ได้สนใจเพลงอีแซว ชอบร้องเพลงลูกทุ่ง เป็นนักร้องเพลงลูกทุ่งอยู่กับคณะแตรวงในระแวกบ้าน เล่นอยู่นานพอสมควรจึงหันเหชีวิตไปฝึกหัดร้องเพลงอีแซว ครั้งแรกกับครูเคลิ้ม ปักษี (เสียชีวิตแล้ว) เป็นครูเพลงชื่อดังในเขตดอนเจดีย์จนเป็นที่รู้จักของผู้ชมทั่วไป นกเอี้ยง เป็นแม่เพลงที่ไม่รู้หนังสือ เขาอ่านเขียนหนังสือไม่ได้มีความรู้เพียงแค่ชั้น ป.2 พอที่จะเขียนชื่อตนเองได้เท่านั้น ส่วนการจำเพลงนั้นต้องให้น้องสาว นางพยงค์ บุญช่วย (นกเล็ก) อ่านเนื้อเพลงให้ฟัง ได้ฟังทีละลงเพลง เพียงแค่ 2-3 เที่ยว ก็จำเนื้อเพลงได้นกเอี้ยงเป็นคนเสียงดีรำสวย เขามีคณะเพลงอีแซวเป็นของตนเองตระเวนแสดงในเขตจังหวัดสุพรรณบุรี และสถานที่ต่าง ๆ ทั่วไป และยึดอาชีพเล่นเพลงอีแซวมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน นกเอี้ยง เสียงทอง เป็นคนที่เคารพครูบาอาจารย์ ประพฤติตนตามที่ครูเพลงแนะนำสั่งสอน นกเอี้ยงมีลีลาการร้องเพลงอีแซวที่ไม่ซ้ำแบบใคร มีการประยุกต์ทำนองร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ต่างไปจากนักเพลงคนอื่น ๆ น้ำเสียงสดใส เล่นสนุก ร้องกระชับ ประทับใจคนดู
นายบุญโชค ชนะโชติ (โชติ สุวรรณประทีป) เกิดเมื่อปี พ.ศ.2486 อายุ 63 ปี (เสียชีวิต ปี พ.ศ. 2549) บ้านเดิมอยู่ข้างวัดพังม่วง อำเภอศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี บิดาชื่อนายไสว สุวรรณประทีป มารดาชื่อ นางบท สุวรรณประทีป มีพี่น้องรวม 4 คน เป็นชาย 2 คน หญิง 2 คน บุญโชค มีบุตรกับภริยาเดิม 2 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 1 คน เมื่อภริยาเก่าเสียชีวิต จึงได้สมรสกับนางเบญจภรณ์ (ภริยาคนปัจจุบัน) อยู่บ้านเลขที่ 1622 หมู่ที่ 5 ตำบลดอนเจดีย์ อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี บุญโชค เริ่มหัดเพลงอีแซวเมื่ออายุประมาณ 23 ปี กับครูช้าม หอมจันทร์ บ้านเดิมบางนางบวช แต่ก่อนหน้านั้นเคยไปหัดเล่นลิเกกับคณะลิเกที่วัดโพธิ์ศรีเจริญ เมื่ออายุ 19 ปี หัดลิเกอยู่ระยะหนึ่งและออกแสดงกับคณะที่ฝึกอยู่นาน จนหันเหชีวิตมาเป็นเพลงอีแซว การหัดเพลงในยุคนั้นบุญโชค บอกว่าฝึกร้องตามเขา (ร้องตามครูเพลง) ฝึกเวลากลางวัน ส่วนตอนกลางคืนจดเนื้อเพลงมาท่อง ได้แสดงเพลงอีแซวครั้งแรกในงานวัดหลวงพ่อแพพิกุลทองจังหวัดสิงห์บุรี เล่นจนสว่างได้ค่าตัว 10 บาท ต่อมาคนในวงเพลงของพ่อไสวขาด ตัวแสดงไม่พอเล่นจึงมีโอกาสได้ร่วมแสดงกับคณะเพลงอีแซวของพ่อ บางครั้งทำหน้าที่ตีรำมะนาและได้มาร่วมงานแสดงเพลงอีแซวกับคณะขวัญจิต ศรีประจันต์ อยู่หลายปีจนในที่สุดตั้งคณะเพลงของตนเอง ในนามบุญโชค ชนะโชติ
จากการศึกษาชีวิตประวัติความเป็นมาของคนเพลงในจังหวัดสุพรรณบุรีที่มีชื่อเสียงส่วนหนึ่ง ทำให้ได้ทราบชีวิตความเป็นอยู่และภูมิหลังของนักเพลงเหล่านั้นรวมทั้งจุดเริ่มต้นของการฝึกหัดเพลงพื้นบ้าน ที่พอจะสรุปได้ ดังนี้
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า นักเพลงบางคนหัดเพลงเพราะใจรัก บางคนหัดเพลงเพราะอยากมีรายได้ บางคนหัดเพลงเพราะเพื่อน ๆ ชักชวน และบางคนพ่อแม่ก็ไม่สนับสนุนให้หัดเพลงพื้นบ้าน แต่ก็ยังสามารถหัดจนได้และส่วนมากจะเริ่มหัดเพลงตั้งแต่วัยรุ่น อายุประมาณ 13-15 ปี ทำให้มีระยะเวลาในการแสดงเพลงอีแซวยาวนานมาจวบจนกระทั่งถึงในปัจจุบันนี้
(ชำเลือง มณีวงษ์ : 2550. พบกันตอนที่ 5 นักเพลงอีแซวรุ่นเยาวชน ที่สืบสานอยู่ในโรงเรียน)
สวัสดีค่ะ
เรื่องเพลงอีแซวนี้ ดิฉันได้เคยฟังมา แต่ไม่มากนัก แต่ก็นิยมมากค่ะ เพราะเป็นสัญญลักษณ์ของไทยแท้ เลย นิยมไทยค่ะ
สวัสดีครับ