เดิม ผู้ครวจสอบภายใน สพท.ปัตตานี เขต 1 ได้ออกตรวจสอบงานการเงิน การบัญชีและการบริหารสินทรัพย์ของโรงเรียนในสังกัด จะพบจุดเสี่ยงหลายจุดด้วยกัน เช่น การเบิกจ่าย การจัดซื้อจัดจ้าง การลงบัญชีการเงิน การลงบัญชีและทะเบียนครุถัณฑ์ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมีปัญหาปฏิบัติไม่ถูกต้อง เนื่องจากเปลี่ยนแปลงเจ้าหน้าที่บ่อย(จากการขอย้าย)หรือผู้บริหารจัดทำการเงิน เองไม่ปฏิบัติตามคำสั่งแต่งตั้งหน่วยตรวจสอบภายในพิจารณาแล้วต้องเข้าไปแก้ไขปัญหากรณีดังกล่าวโดยเร่งด่วน แต่เนื่องจากผู้ตรวจสอบภายในมีจำนวนน้อย สถานศึกษาในสังกัดที่ต้องรับผิดชอบมีจำนวนมาก หากผู้ตรวจสอบภายในออกให้ความรู้วันละโรงเรียนต้องใช้เวลา เราจึงได้ปรึกษาหารือกันภายในหน่วยตรวจสอบว่าเราจะทำอย่างไร จึงจะหาวิธีแก้ปัญหาหรือช่วยเหลือโรงเรียนได้ทั่วถึง จึงได้จัดทำโครงการอบรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการการเงิน การบัญชีและการบริหารสิ้นทรัพย์ เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติในสถานศึกษาโดยเริ่มจากโรงเรียนที่คาดว่ามีจุดเสี่ยงก่อนจำนวน 80 โรงเรียนโดยจัดอบรมสัมมนา 1 วัน และปฏิบัติจริง 1 วัน โดยเจ้าหน้าที่จะให้การช่วยเหลือแบบตัวต่อตัว แล้วเราก็ได้จัดทำหนังสือแจ้งโรงเรียนที่เราเลือก
สิ่งที่เราต้องให้
เราได้สร้างแบบฟอร์มการปฏิบัติงานทุกแบบในระบบการปฏิบัติงานและจัดหาระเบียบข้อกฎหมาย คู่มือแนวทางการปฏิบัติ/ขั้นตอนการปฏิบัติงาน
เมื่อเราดำเนินการตามโครงการเสร็จเราจะเลือกโรงเรียนที่ปฏิบัติงานได้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นโรงเรียนแกนนำ ไปขยายผลให้โรงเรียนในศูนย์เครื่อข่าย โดยใช้ชื่อว่า เพื่อช่วยเพื่อน เพื่อให้โรงเรียนในศูนย์เครื่อข่ายได้ช่วยเหลือกัน
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมนะคะ.....
เป็นการอบรมที่มีแนวความคิดดีมากๆขอชื่นชม เพราะการปฏิบัติงานการเงินนั้นต้องมีความรู้ในระเบียบกฎหมายจริงๆ ส่วนมากผู้ที่ถูกแต่งตั้งให้ปฏิบัติงานด้านนี้ไม่มีความรู้และทำงานกับไม่เป็นระบบทำให้เมื่อมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบจะเกิดข้อผิดพลาดบ่อยมากๆ อยากขอความอนุเคราะห์ คู่มือที่จะเป็นแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการอบมให้ความรู้ที่ท่านจัดบ้างต้องทำอย่าง
ผมมีข้อคิดเห็นอย่างนี้นะครับ การอบรมสัมนานี้เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่เรื่องการเงิน บัญชี และงานพัสดุครุภัณฑ์ เป็นที่ยากในการปฏิบัตินะครับ ผมทำหน้าที่สอนวิชานี้ในระดับปริญญาโท ภาควิชาการบริหารการศึกษา ของมหาศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์
ผมมีเหตุผลดังนี้ครับ จากประสบการณ์ของการทำงานด้านนี้มาเป็นเวลาเกือบสามสิบปี ความรู้เรื่องกฏหมายและบัญชีเป็นเรื่องที่สำคัญในการทำหน้าที่นะครับ ซึ่งผมได้ให้ความช่วยเหลือแก่ลูกศิษย์ในกรณีที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียนมาแล้วเห็นว่า หากทางสพท.ไม่ลงไปช่วยเรื่องนี้อย่างจริงจังแล้ว ผู้บริหารและครูผู้ปฏิบัติงานในด้านนี้จะเกิดปัญหาที่สะสมและทำให้ครูจะไม่อยากรับผิดชอบงานในเรื่องเหล่านี้เลยครับ
ยกตัวอย่าง การลงบัญชีตามเกณฑ์สิทธิ ตามมาตรฐานที่ใช้ปฏิบัติกันในปัจจุบันนี้ ในด้านธุรกิจยังต้องให้ผู้ลงบัญชีต้องได้รับ
ใบประกอบวิชาชีพสาขาบัญชีที่ถูกต้องตามกฏหมายก่อนจึงจะสามารถทำงานด้านนี้ได้ซึ่งต้องผ่านศึกษาในระดับอุดมศึกษา
สาขาบัญชีมาโดยตรงครับ
ผมขอถามว่า ถ้าเราใช้การอบรมในระยะสั้น ๆ แล้วไปปฏิบัติหน้าที่กันเลย ถึงแม้จะมีการช่วยเหลือติดตามการปฏิบัติงานของทุก ๆ โรงเรียน เราจะสามารถทำหน้าที่ให้ถูกต้องสมบูรณ์จริงหรือครับ
ผมจึงมีข้อแนะนำว่าเราควรทำงานในด้านนี้เป็นเครือข่ายจะเหมาะสมกว่านะครับ โดยมีสพท.เป็นศูนย์กลาง และจัดให้โรงเรียนขนาดใหญ่ ช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็ก ซึ่งสพท.มีนิติกร มีเจ้าหน้าที่ทางการเงินและบัญชีลงมาเป็นแกนนำ เป็นที่ปรึกษา โดยตรง
อย่าปล่อยให้โรงเรียนทำงานโดยลำพังเลยนะครับ ผมเห็นใจกับผอ.และครู ที่ต้องมานั่งร่างสัญญากันเอง โดยไม่มีพื้นความรู้ทางกฎหมายมา ซึ่งจะทำให้มีผลเสียหายต่อไปภายหน้าครับ
ในด้านการเงิน บัญชี การจัดซื้อจัดจ้าง ทุกอย่างเชื่อมโยงกัน มีผลกับเรื่องกฏหมายทั้งสิ้น หากครูลงบัญชีไม่ถูกต้อง เช่นการหักค่าเสื่อมราคา การลงบัญชีสมุดรายวัน เดบิต เครดิต ต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายนะครับ ขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง การตกลงราคา การสอบราคา การประกวดราคา และการใช้ระบบสารสนเทศในการจัดซื้อจัดจ้าง ทุกอย่างมีขั้นตอนที่ซับซ้อน
หากปล่อยให้ผอ.และครูทำหน้าที่กันเอง โดยไม่มีหน่วยงาน สพท.ลงไปช่วย จะทำให้เกิดปัญหาอย่างแน่นอนครับ
ทั้งนี้ในสพท.จะมีฝ่ายกฎหมาย การเงินและบัญชี พร้อมที่จะเป็นพี่เลี้ยงได้อยู่นะครับ ทุกเรื่องที่เสนอความคิดเห็นมานี้ เป็นเรื่องที่
มุ่งหวังแต่สิ่งดี ๆ แก่การศึกษาของประเทศไทยเรานะครับ หากเป็นในต่างประเทศเขาจะมีผู้รับผิดชอบด้านนี้แยกไปจากครูผู้ที่ทำหน้าที่เรื่องการเรียน การสอนครับ และผมขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านได้ทำหน้าที่ได้อย่างดีและประสพความสำเร็จนะครับ
สงสารครูไทยจังครับ