เมื่อ ๒ วันก่อน (๑๙ กันยายน) ได้ดูข่าวทางช่อง ๗ สี ว่ามีนักเรียนโรงเรียนหนึ่งในจังหวัดเชียงราย โดยผึ้งหลวงต่อยต้องนำส่งโรงพยาบาล จำนวน ๕๐ คน.. กลับบ้านได้ ๓๔ คน รอดูอาการต่ออีก ๑๖ คน (เข้าใจว่าคงไม่มีใครเสียชีวิต)
ถ้าดูข่าวเผินๆ ก็เหมือนน้องผึ้งหลวงของเราจะดุ บุกไปทำร้ายคนนะครับ แต่ถ้าอ่านข่าวให้ละเอียดพิจารณาให้เป็นธรรมหน่อย..ลองอ่านที่มาที่ไปหน่อยนะครับ
ครูใหญ่โรงเรียนนี้เล่าว่า เย็นวันที่ ๑๘ พบผึ้งหลวงบินอพยพมาเกาะอยู่ที่ต้นหางนกยูงข้างโรงเรียน ยังไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น พอมาวันเกิดเหตุ ช่วงกลางวัน ขณะนักเรียนกำลังเล่นฟุตบอลกันอยู่นั่นเอง..มีเด็กนักเรียน ป.๔ กลุ่มหนึ่ง นึกสนุกอย่างไรไม่ทราบ..ใช้ก้อนหิน ปาใส่รังผึ้ง..ไม่ใช่ปาก้อนเดียวแต่ปาหลายก้อนด้วย
ท่านลองนึกสภาพ ตอนท่านนั่งเล่นอยู่ที่บ้าน จู่ๆ ก็มีคนมาขว้างก้อนหินใส่บ้านท่าน ๔-๕ ก้อนท่านจะรู้สึกอย่างไรบ้าง...
เมื่อน้องผึ้งถูกก้อนหินปาใส่รัง เขาก็ไม่ทราบว่าใครเป็นใครหรอกครับ...เห็นสิ่งที่เคลื่อนไหว ก็เห็นว่าเป็นศัตรู แล้วน้องผึ้งพวกที่มีหน้าที่ปกป้องรัง ซึ่งเป็นน้องตัวเมียทั้งหมด ก็ยกพวกไปหาเด็กนักเรียนที่วิ่งเล่นฟุตบอลกันอยู่ เล่นงานจนน่วมไปตามๆ กัน ตามข่าว ๕๐ คน
แล้วพวกเธอที่ออกไปทั้งหมดนั้น ก็ต้องพลีชีพเพื่อชาติหรือครอบครัวของเธอ คือ ทุกตัวที่ปล่อยเหล็กในออกมา ก็ตายหมด..ถ้าดูภาพตามข่าว พวกเธอก็จะบินกลับมาร่วงหล่นตายอยู่แถวรัง (บินกลับมาตายที่รัง) นั่นเอง
ถ้าจะเอาภาพตอนเธอตายมาให้ดู ก็จะไม่น่ารักเหมือนภาพที่ผมจะนำมาให้ชมกันนี้ครับ
ภาพผึ้งพันธุ์ (ซ้าย)
กำลังป้อนอาหารให้ผึ้งหลวง (ขวา) เปรียบเทียบขนาดกันเองนะครับ |
เป็นภาพน่ารักของผึ้งพันธุ์ กำลังป้อนอาหารให้ผึ้งหลวง ภาพนี้ไม่ได้เกิดตามธรรมชาตินะครับ มีคน (คือ beeman) เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย เอาไว้ค่อยเล่าอีกบันทึกหนึ่ง..นี่เป็น Tacit Knowledge ของ beeman ที่ทำให้ผึ้ง ๒ ชนิดมาอยู่ด้วยกัน
ลองไปอ่านนิทานอีสปกันบ้าง...ผมดัดแปลงและแต่งบทสนทนาเพิ่มเติมครับ (ต้นฉบับเป็นภาษาอังกฤษ)
นิทานอีสป เรื่อง "ผึ้งขอพรพระอิศวร" |
นางพญาผึ้งตัวหนึ่ง นำน้ำผึ้งสดๆ
จากรวงผึ้งของเธอไปถวายพระอิศวรเป็นประจำ
|
ในความเป็นจริงผึ้งต่อยเพื่อป้องกันรัง ไม่ได้มีจุดประสงค์จะไปทำร้ายคน (ถ้าคนไม่ไปทำร้ายเขาก่อน) และเขาก็ไม่อยากไปทำร้ายคน เพราะเขารู้ว่าเมื่อเขาต่อยแล้วเขาต้องตายครับ
"ผึ้งหลวง" หรือที่เราเรียกว่า "ผึ้งป่า" เป็นผึ้งที่อพยพได้ไกลๆ..ท่าน ศ.ดร.สิริวัฒน์ วงษ์ศิริ เคยคุยกับ ดร.นิโก้ โคนิงเกอร์ ชาวเยอรมัน ได้ความว่า ผึ้งหลวงบางทีอพยพไกลถึง ๒๐๐ กิโลเมตรเลยทีเดียว
ด้วยเหตุนี้ ผึ้งหลวงจึงจำเป็นต้องมีนิสัย aggressive คือ ดุเล็กน้อย เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ เพราะต้องเผชิญกับศัตรูอยู่ตลอดเวลา แต่ก็มีผึ้งหลวงที่ใจดี ไม่ค่อยดุเหมือนกัน แต่สายพันธุ์นี้เหลือไม่มาก
ศ.ดร.สิริวัฒน์ เคยบอก beeman ว่า ผึ้ง Killer bee หรือ "ผึ้งเพชฌฆาต" ของอเมริกา มาเจอผึ้งหลวงของเราก็หงอไปเลย เพราะผึ้งหลวงเรามีพิษแรงกว่าครับ....ขอจบแค่นี้ก่อนครับ
มนุษย์ผึ้งมหัศจรรย์ |
สวัสดีครับ
ได้ความรู้ดีครับ แต่ไม่มีภาพประกอบ
น่าจะนำภาพผึ้งหลวงมาให้ดู มาประกอบหรือเปรียบเทียบให้เห็นก็จะดี
เพราะบางคนก็ไม่ได้ตามข่าวทางโทรทัศน์ครับ
สวัสดีครับ คุณ waz
สวัสดีค่ะ อ.beeman
ได้ยินว่าผึ้งหลวงมันสู้กับ"ตัวต่อ"ได้สูสี มากกว่าผึ้งยุโรป ใช่มั้ยครับ
ล่าสุดเคยอ่านจากหนังสือแนววิทยาศาสตร์เล่มนึง เค้าบอกว่ามันใช้วิธีรุมกอดตัวต่อจนเกิด HeatShock ครับ(ผึ้งหลวงทหารและต่อจะตายด้วยกัน แต่ผึ้งจะมีพรรคพลมากกว่า ต่อเลยไม่อยากเสี่ยง)
ส่วนผึ้งยุโรปยังไม่ค่อยได้เจอผู้ล่าชนิดนี้ เมื่อต่อหัวเสือเริ่มรุกขึ้นไปยังแถบเหนือ จึงกลายเป็นตัวปัญหาชวนปวดเศียรเวียนเกล้าต่อผู้เลี้ยงผึ้งยุโรปครับ -_-