จากตอนที่แล้ว http://gotoknow.org/blog/www-doae/127829 ได้เล่าภาพรวมของการสัมมนาเรื่อง ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อการผลิตทางการเกษตร เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2550 ณ โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ กรุงเทพฯ
การสัมมนาในคร้งนี้ วิทยากรแต่ละท่านได้ให้ความรู้ถึงสาเหตุและผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีผลต่อสิ่งต่างๆ ของโลกเรามากมาย และใช้หลักวิทยาศาสตร์มาบรรยายให้เราได้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ซึ่งทำให้ดิฉันเก็บความรู้มาได้บ้างไม่ได้บ้าง ที่ลึกซึ้งเป็นความรู้เฉพาะด้านจริงๆ ก็ผ่านๆ ไป แต่ก็พยายามจะเก็บมาถ่ายทอดเท่าที่เก็บมาได้ในภาพรวมแล้วกันนะคะ...
ขอเริ่มจาก ผศ.ดร. กัณฑรีย์ บุญประกอบ จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง บรรยายเรื่อง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่องานด้านส่งเสริมการเกษตร มีเนื้อหาสาระที่น่าสนใจ ดังนี้
ผศ.ดร. กัณฑรีย์ บุญประกอบ
-ฤดูกาลเปลี่ยนแปลง มีผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร และการสืบทอดเผ่าพันธุ์ ของสิ่งมีชีวิตตามธรรมชาติ -ผลผลิตจากธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ
-ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น น้ำแข็งที่ขั้วโลกละลาย น้ำทะเลขยายตัวเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
-เกิดภัยธรรมชาติต่างๆ พายุ น้ำท่วม ไฟป่ารุนแรง ถี่ขึ้น
-พืช แมลงนก ปลา อพยพขึ้นเหนือหรือสูงขึ้นตามแนวเทือกเขา
-ฤดูกาลเพาะปลูกยาวนานขึ้นทางละติจูดเหนือ
-พืชออกดอกเร็วขึ้น นกอพยพมาเร็วขึ้น ฤดูผสมพันธุ์ และแมลงวางไข่เร็วขึ้นในซีกโลกเหนือ
-อาจทำให้ระบบนิเวศมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คืนกลับของระบบโลก (Earth system)
-ส่วนประกอบของชนิดพันธุ์พืช/สัตว์ และความเด่นของชนิดพันธุ์พืช/สัตว์ อาจมีการเปลี่ยนแปลง
-ขนาดและความหนาแน่นของประชากรของสิ่งมีชีวิตมีการเปลี่ยนแปลง
-พฤติกรรมสัตว์ป่าเปลี่ยนแปลง
-ต้องทำให้ปริมาณก๊าซเรือนกระจกคงที่
-เพื่อให้ระบบนิเวศมีการปรับตัว
-การผลิตอาหารมั่นคง
-และการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืน
-มีองค์ความรู้ เชิงวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ แบบบูรณาการ (Interdisciplinary)
-จำเป็นต้องมีความร่วมมือระหว่างนานาชาติ ทั้งเชิงวิจัย และนโยบาย เพื่อทำให้โลกนี้รอด
-การใช้พลังงานฟอสซิล (น้ำมัน ถ่านหิน) และการสูญเสียพื้นที่ป่า ทำให้เพิ่มก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
-การทำนาข้าว การทำปศุสัตว์ การบำบัดของเสีย ทำให้เพิ่ม ก๊าซมีเทน
-การใช้ปุ๋ยไนโตรเจน ทำให้เกิดก๊าซไนตรัสอ๊อกไซด์
1. USA 2.จีน 3.กลุ่ม EU 25 ประเทศ 4.รัสเซีย 5.อินเดีย
-อุณหภูมิเฉลี่ยผิวโลกเพิ่มขึ้น 1.4 - 5.8 องศา C
-ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 0.09 - 0.88 เมตร
-ปริมาณน้ำฝนเพิ่มขึ้นหรือลดลงในบางพื้นที่
-ความถี่และความรุนแรงของภัยธรรมชาติเพิ่มขึ้น
-ระบบนิเวศตามธรรมชาติเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร โดยบางกรณีไม่อาจกลับคืนสู่สภาพเดิม
-อุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น วันร้อนๆ และคลื่นความร้อนเพิ่มขึ้น ทำให้ สิ่งมีชีวิตมีการเจ็บป่วย และตายเพิ่มขึ้น พืชได้รับความเสียหาย ความต้องการไฟฟ้ามากขึ้น (อุณหภูมิสูง ทำให้ความสมบูรณ์ของละอองเรณูข้าวลดลง อุณหภูมิมีผลต่อผลผลิตพืชในทางทฤษฎี อุณหภูมิที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยทำให้ผลผลิตในเขตอบอุ่นเพิ่มขึ้น แต่ในเขตร้อนลดลง)
-ฝนตกแรงและหนักขึ้น ทำให้ความเสียหายจากน้ำท่วม ดินทรุด โคลนถล่ม สูยเสียหน้าดิน สาธารณภัยมากขึ้น
-พายุโซนร้อน เพิ่มขึ้น ชีวิตมีความเสี่ยงภัย การระบาดของโรคติดต่อมากขึ้น ระบบนิเวศชายฝั่งเสียหาย
-น้ำท่วมและภัยแล้งรุนแรงขึ้น เนื่องจากเอง นิโญ ทำให้ผลผลิตการเกษตรลดลง ศักยภาพของการผลิตไฟฟ้าพลังน้ำลดลง
-มรสุมในเอเชียแปรปรวนยิ่งขึ้น ทำให้เกิดภัยแล้งและน้ำท่วมรุนแรงขึ้นในเอเชียและเขตอบอุ่น
-ผลผลิตทางการเกษตร
ผลกระทบ อุณหภูมิ น้ำฝนและปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการผลิตดอก และติดผล
แนวทางการปรับตัว เปลี่ยนแปลงพื้นที่และเวลาปลูก ปรับปรุงและคัดเลือกสายพันธุ์พืชที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง
-ปศุสัตว์
ผลกระทบ สัตว์เกิดความเครียด ป่วยเป็นโรคระบาดส่งผผลต่อปริมาณคุณภาพ และผลผลิตปศุสัตว์
แนวทางการปรับตัว ปรับเปลี่ยนพื้นที่หรือรูปแบบในการเลี้ยงสัตว์ ปรับปรุงและคัดเลือกสายพันธุ์สัตว์ที่ทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
-ทรัพยากรป่าไม้และความหลากหลายทางชีวภาพ
ผลกระทบ โครงสร้างป่าเปลี่ยนแปลงมีผลต่อสมดุลของระบบนิเวศ พืชและสัตว์บางชนิดสูญพันธุ์ ผลผลิตป่าไม้ลดลง สูญเสียแหล่งพันธุกรรม
แนวทางการปรับตัว เชื่อมโยงพื้นที่อยู่อาศัย อุทยานฯ ด้วยการสร้างเป็นที่อพยพของพืชและสัตว์ อนุรักษ์พันธุกรรมในและนอกพื้นที่อยู่อาศัย
-ทรัพยากรน้ำจืด
ผลกระทบ คุณภาพน้ำเปลี่ยนแปลงจากการระเหยน้ำเพิ่มขึ้นและน้ำทะเลหนุน น้ำท่วมและภัยแล้งจากความแปนปรวนของน้ำฝน
แนวทางการปรับตัว สร้างแนวป้องกันน้ำท่วม วางแผนการใช้ทรัพยากรน้ำ
-ทรัพยากรชายฝั่งทะเลและการประมง
ผลกระทบ ระบบนิเวศชายฝั่งเสื่อมโทรมจากการเพิ่มระดับน้ำทะเล พายุ และความรุนแรงของคลื่น ผลผลิตทางการประมงลดลง สูญเสียชุมชนชายฝั่ง
แนวทางการปรับตัว สร้างแนวป้องกันชายฝั่ง เคลื่อนย้ายชุมชนและปรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรและชุมชนชายฝั่ง
-สุขภาพอนามัย
ผลกระทบ พื้นที่ระบาดของโรค เช่น มาเลเรีย ไข้เลือดออกเปลี่ยนแปลง ไม่สามารถระบายน้ำเสีย เนื่องจากระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดโรคระบาด เช่น อหิวาหตกโรค มีการเจ็บป่วยเนื่องจากอุณหภูมิสูงและคลื่นความร้อน เกิดความเครียดจากการปรับตัวทางสังคม เษรษฐกิจ และภัยธรรมชาติที่เกิดบ่อยครั้ง
แนวทางการปรับตัว ให้ความรู้ประชาชนด้านสุขอนามัยและโรคติดต่อในสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ให้บริกาทางสังคมที่เหมาะสม เพื่อบรรเทาความเครียดเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัย โรคระบาดและโภชนาการ ปรับปรุงระบบสุขาภิบาลให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
สุดท้าย วิทยากรได้มีข้อเสนอแนะว่าสิ่งที่ประเทศไทยควรเร่งดำเนินการด้าน Climate Change
-จัดตั้ง Climate Change Research Center เป็นหน่วยประสานงาน
-แบ่งกลุ่มการทำงานออกเป็น 2 กลุ่ม
1. เจรจาตาม UNFCCC
2. การวิจัยตามแนวทางของ IPCC (Intergovernmenttal Panel on Climate Change)
-มีแผนแม่บทการวิจัยแบบบูรณาการ และ
-มีการพัฒนาบุคลากรแบบบูรณาการ
และสำหรับท่านที่สนใจเรื่อง Climate Change สามารถหาความรู้เพิ่มเติมได้ที่นี่ค่ะ http://www.ru.ac.th/climate%2Dchange/
นันทา ติงสมบุติยุทธ์
15 กย. 50
ดิฉันสนใจเรื่องนี้มากค่ะ ขอความกรุณาชวยส่งข้อมูลที่ที่ e-mail ของดิฉันด้วยนะค่ะ อีเมล คือ [email protected] ขอขอบคุณล่วงหน้าค่ะ (ต้องการมากๆๆๆๆๆๆๆๆเพราะจะต้องทำรายงานค่ะ )