บินครั้งแรกในชีวิตการบิน


บินครั้งแรก
ถ้าคุณเป็นคนคนหนึ่งที่มีความฝัน คุณเคยฝันไหมครับว่าอยากบินไปในท้องฟ้า มีอิสระไปไหนก็ได้ตามที่ใจเรานึก อยากเป็นนกจะได้บินไปสูงๆ มองลงมาข้างล่าง ผู้เขียนก็เป็นคนคนหนึ่งที่มีความฝันว่าสักวันต้องบินได้อย่างนก แต่เมื่อเกิดมาเป็นคนแล้วจะกลายเป็นนกได้ไง หรือต้องตายแล้วเกิดใหม่หรือเปล่า
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นของผู้เขียนครับ แต่ความฝันของผู้เขียนได้พังทลายไปถึงสองครั้งก่อนที่จะมาได้เป็นนักบิน ครั้งแรกกับบริษัท การบินไทย เนื่องจากสาเหตุที่ไปสมัครแล้วโดนดูถูกเรื่องเครื่องแต่งกาย เลยเพื่อศักดิ์ศรีเลยกลับมาทำงานรับราชการเหมือนเดิม ครั้งที่สองก็เพราะว่ารักในอาชีพตำรวจ ต้องการที่จะอยู่กับชาวบ้านช่วยเหลือชาวบ้าน ไปสมัครสายการบินเรียนร้อย แต่ไม่ยอมไปสอบ แต่สุดท้ายหัวใจของผู้เขียนมันเรียกร้องว่าชีวิตนี้ต้องบินให้ได้
บินครั้งแรกในชีวิตเกิดขึ้นเมื่อผู้เขียนได้ย้ายมาเรียนที่ศูนย์ฝึกการบินพลเรือน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถ้าหลายคนนึกไม่ออกก็นึกถึงท่าอากาศยานหัวหินครับ คนแถวนั้นเค้าเรียกว่าสนามบินบ่อฝ้ายครับ จำได้แม่นยำว่าเป็นวันที่ตื่นเต้นมาก แทบนอนไม่หลับเลยครับ เพราะว่าครั้งแรกนี่ครับ ที่เริ่มชีวิตนักบินได้ขับได้จับเครื่องบินจริงๆ เสียที การบินครั้งแรกผมมีครูสมเกียรติ หรือครูเกียรติ เป็นครูประจำสายครับ เริ่มด้วยการไปลงชื่อเพื่อขออนุญาตทำการบินที่อาคารดับเพลิงแล้วแจ้งทางโทรศัพท์เพื่อขอทำการขึ้นบิน จากนั้นจึงไปที่เครื่องที่ทำการบิน ครูเกียรตินั่งรออยู่แล้วผู้เขียนจึงขึ้นไปนั่งตำแหน่งเก้าอี้ทางด้านขวา หรือเรียกกันว่านักบินที่ 1 (กัปตัน) จากนั้นเริ่มทำการติดเครื่อง ก่อนที่เครื่องยนต์จะติดผู้เขียนรู้สึกไม่อยากจะขึ้นบินเลย เกิดความกลัวขึ้นมาทันที แต่พอเครื่องยนต์ติดแล้วความกลัวก็จางหายไปเอง เครื่องเริ่มยกตัวขึ้นแล้วครับ นี่เป็นครั้งแรกที่ตัวผู้เขียนลอยขึ้นจากพื้นนานกว่าการกระโดดนะครับ ความสูงประมาณ 3 ฟุต จากนั้นครูค่อยๆ บังคับเครื่องให้ลอยตัวไปตามพื้นทางขับ(Taxiway) เพื่อไปยังจุดที่กำหนด(Holding Point) ข้างทางวิ่ง(Runway) แล้วรอคำสั่งจากหอบังคับการบิน เมื่อได้รับคำสั่งให้นำเครื่องขึ้นสู่ทางวิ่งเพื่อเตรียมวิ่งขึ้น (Take off) ครูเกียรติก็ยกตัวเครื่องขึ้นแล้วไปรอบนทางวิ่ง
พอได้ยินเสียงหอบังคับการบินสั่งว่า "Clear for take off" ครูจึงค่อยๆ บังคับให้เครื่องบินก้มหัวลงแล้ววิ่งไปข้างหน้าตามเส้นบนทางวิ่ง แล้วจากนั้นเครื่องก็ค่อยๆ ยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จนมันเริ่มกินลม (รู้สึกได้ครับ) แล้วเริ่มเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผู้เขียนเหลือบมาดูที่เครื่องวัดความเร็วประมาณ 60 น็อต จากนั้นครูก็เลี้ยวเพื่อทำวงจรออกไปยังพื้นที่การฝึกที่ศูนย์ฝึกบินกำหนดเอาไว้ วันแรกครูพาผมไปยัง Area 4 เป็นพื้นที่หลังภูเขาข้างสนามบิน ส่วนมากเป็นไร่อ้อนครับ โดยวันแรกครูให้ผู้เขียนเริ่มหัดบังคับเครื่องเลย งงซิครับงานนี้ เพราะว่าไม่เคยขับมาก่อน ก็ซัดเลยครับพรวดเข้าให้แบบว่าจับมันโยกแบบเต็มแรง จนเครื่องเอียงเสียการทรงตัว ครูต้องคว้าคันบังคับกลับคืนครับ งานนี้โดนว่าเล็กน้อย ครูจึงสอนว่า"การบินก็เหมือนงานศิลปะ ไม่ใช่กรรมกรที่ต้องใช้แรง การบังคับเครื่อง ต้องค่อยๆ ทำ ทีละนิดอย่างนุ่มนวล Very Small and Very Smooth" ผู้เขียนเพิ่งรู้ก็วันนี้ เพราะว่าตั้งแต่เห็นนักบินส่วนมากตัวโตๆ ใหญ่ๆ ทั้งนั้นครับ
คุยมาเสียเพลิน ครูสั่งให้ผู้เขียนเอาใหม่ ครั้งนี้ให้บินตรงไปข้างหน้าโดยมองตามแนวไปข้างหน้า โดยรักษาความสูง รักษาทิศทาง และรักษาความเร็ว เชื่อไหมครับ พอครูปล่อยมือเท่านั้น เครื่องหมุนไปทางซ้ายเอียงๆ ไปเรื่อยๆ หัวเริ่มชี้ลงพื้น ความเร็วเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ความสูงเสียไปเรื่อยๆ แต่ครูไม่แก้นะครับให้ผู้เขียนแก้ แต่จนแล้วจนรอดก็เอาไม่ได้ ครูเลยต้องจับให้ใหม่ ผู้เขียนเริ่มรู้วิธีการบังคับบ้างแล้ว เอาใหม่ๆ ครั้งที่สองปรากฎว่าดีขึ้นครับแต่ว่าเครื่องลอยขึ้นไปเรื่อยๆ จนกระทั่งความสูงประมาณ 1,700 ฟุต (ตอนเริ่มบินใช้ความสูงประมาณ 1,000) ฟุต จากนั้นครูเริ่มจับคันบังคับ แล้วพูดผ่านวิทยุนักบินว่า "เครื่องยนต์เสีย" จากนั้นเครื่องมันก็สะบัดไปทางซ้ายทันที แล้วเริ่มร่วงแบบก้อนหินร่วงลงพื้น หัวเครื่องเริ่มดิ่งลง ดูที่ความเร็วเข้าไปที่ 80 น๊อต แล้ว ความสูงเสียมาอย่างเร็วมากๆ อัตราการร่วงหล่นประมาณ 1,500-1,800 ฟุตต่อนาที ตอนนี้ยอมรับครับว่าขนาดผู้เขียนใส่แว่นตาแล้ว ยังน้ำตาซึมเลยครับ นึกว่างานนี้เสร็จแน่ๆ ตัวเกร็งไปทั้งตัวเลยครับทั้งแขนขาแข็งหมดเลยครับ ความสูงเริ่มเสียมาเรื่อยๆ แต่ท่าทางครูบังคับเหมือนกับเครื่องมันร่อนตรงไปข้างหน้าหาที่ว่าง ตอนนี้ความเร็วลดลง 70 น๊อตแล้วครับ แต่เครื่องยังเสียความสูงมาเรื่อยๆ จนกระทั่งผมเห็นวัวที่อยู่บนพื้นได้ชัดเจนครับ ระยะน่าจะประมาณ 50 ฟุตสุดท้ายครับ ครูค่อยๆ ดึงเครื่องให้หัวเชิด เหมือนกับเป็นการเบรค ชะลอความเร็วลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเกือบหยุดจากนั้นนำเครื่องวางบนพื้นหญ้า(ใกล้ๆ ฝูงวัว) แล้วจึงผ่อนเครื่องยนต์ใส่ Friction เอาไว้กันมันดีด จากนั้นหันมาบอกกับผู้เขียนว่า นี่คือถ้าเครื่องยนต์เสียต้องทำให้ได้แบบนี้ ถึงไม่มีเครื่องยนต์ก็บินลงมาที่พื้นได้อย่างปลอดภัย...อิอิ...ไม่รู้ว่าครูจะรู้หรือเปล่าว่าวิญญาณผมออกตั้งแต่ครูบอกว่าเครื่องยนต์เสียแล้วครับ
หลังจากโดนครูดับเครื่องกลางอากาศเสร็จ ครูก็พาฝึกบินบนอากาศท่าพื้นฐาน บินตรงบินระดับ เมื่อครบกำหนดเวลา 1 ชั่วโมง จึงบินกลับสนามบิน...เฮ้อ..นี่ขนาดชั่วโมงแรกนะครับ ยังขนาดนี้ นี่แล้วต่อไปเป็นไงกันเนี่ย
หมายเลขบันทึก: 128389เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2007 14:35 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 21:52 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สะใจดีนะครับ

วิญญาณออกจากร่างตั้งแต่ได้ยินคำว่าเครื่องยนต์เสีย

ครั้งแรกนับว่าเป็นความน่าประทับใจที่สยองเล็กน้อย แต่เมื่อมีครั้งต่อไป เชื่อได้ว่า ความสยองจะลดลงเรื่อยๆนะครับ

แหม....เล่นกันแรงๆ  ดีจังนะคะ....

แค่แวะมาบอกว่าวันหลังช่วยพาคุณป้าๆ  ไปบินกับผู้หมวดหน่อยนะคะ

สวัสดีค่ะ

อ่านแล้วหวาดเสียวมากค่ะ ที่นักบันกับครูฝึกเครื่องตกเสียชีวิต ซึ่งเป็นข่าวที่น่าเศร้า น่าสงสารมากๆ คงเป็นอย่างนี้นี่เอง

ตัวเองขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ก็เมา เหงื่อแตกใจจะขาดค่ะ จนเดี๋ยวนี้ขึ้นมาจนนับครั้งไม่ได้แล้ว ทุกครั้งที่ขึ้นเครื่องบินยังกลัวอยู่เลยค่ะ

  • คุณนักบินครับ
  • อ่านแล้วมองเห็นภาพเลยครับ เกร็งไปกับคุณด้วย
  • ต้องขอโทษที่เข้ามาเยี่ยมช้า เพราะเป็นมือใหม่สำหรับบล๊อคเหมือนกัน ลุยเขียนอย่างเดียว เพิ่งพอจะแกะทางได้ว่าจะเข้าไปเยี่ยมบล๊อคคนอื่นอย่างไร ดูที่ไหนว่าแพลนเน็ตที่เราเห็นใครเป็นเจ้าของ จะไปทักทายเขาอย่างไรครับ
  • นึกว่าน้องหมู
  • บินมาตกแถวๆๆกำแพงแสนเสียแล้ว
  • เห็นรูปนี้ชอบเลยเอามาฝาก
  • เผื่อเครื่องตก
  • ภาพในบล็อกเหมือนที่สะพานข้ามแม่น้ำแควเลยครับ
  • โห น้องหมูหายไปนานมากๆๆ
  • พี่กลับมากำแพงแสนแล้วครับ
  • สบายดีไหม
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท