อาจารย์โสภณ คงจังหวัด
:
ครับก็ขอขอบคุณผู้ดำเนินรายการ ท่านผู้มีเกียรติที่เคารพ
ผมเป็นตัวแทนของคุณเอื้อปัจจุบันนี้เป็นผู้อำนวยการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดนครศรีธรรมราช
คงจะพอทราบบทบาทของคุณอำนวย คุณเอื้อ และคุณกิจบ้างแล้ว
ในส่วนของการเรียนรู้ของจังหวัดนครศรีธรรมราช
หลังจากที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเห็นชอบการจัดการเรียนรู้การเงินแล้ว
ส่วนงานต่างๆ เราก็ถือว่า จริงๆ
แล้วการจัดการความรู้บางที่เราต้องจัดการ
เพราะว่าเรามีปัญหาเหมือนกัน
ปัญหาที่เหมือนกันคือว่า
ในเรื่องขององค์กรชุมชนในเรื่องของกลุ่มการเงินนั้น
ชาวบ้านสับสน หน่วยราชการที่เราพูดถึง 9
หน่วยที่ลงไปก็ให้ความรู้แก่ชาวบ้านไม่เหมือนกัน
ชาวบ้านมาฟังธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรวันนี้
พรุ่งนี้ไปฟังธนาคารออมสิน แล้วสับสนว่าจะเอายังไงกันแน่
ที่สำคัญหน่วยงานนั้นไปสร้างองค์กรของตัวเองขึ้นมาในพื้นที่ก็มีความเป็นเจ้าของในองค์กรนั้นอีก
มันทำให้ชุมชนแทนที่จะมีความรักความสามัคคีเขาก็เกิดความแตกแยกกันในส่วนหนึ่ง
เหมือนกับว่าวันนี้สมัยที่เราเรียนหนังสือทุกคนก็คงเข้าใจว่า
ทำไมการพัฒนาเราไม่ยั่งยืน เราก็มองว่าส่วนราชการนั้นไม่ประสานงานกัน
วันนี้ผมเป็นคุณเอื้อ ผมเป็นหัวหน้าส่วนราชการ
ความหวังความตั้งใจของผมตั้งแต่เรียนหนังสือจนเริ่มทำงาน
คืออยากที่จะทำงานแบบบูรณาการกัน
เมื่อโครงการนี้เข้ามาความตั้งใจเดิมนั้นก็ประสบความสำเร็จ
ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาการพัฒนาองค์กรโตเฉพาะองค์กรหนึ่งองค์กรใดเท่านั้น
องค์กรไหนโตก็จะมีส่วนราชการไปรุมชื่นชมยินดี
องค์กรไหนล้มเหลวก็จะไม่มีใครดูแล ในที่สุดงบประมาณอะไรต่างๆ
ก็ไปลงกับองค์กรนั้นละครับ เข้มแข็งอยู่องค์กรเดียว
เราคาดว่าต่อไปนี้องค์กรที่ผ่านการเรียนรู้แล้วต้องเป็นองค์กรที่เข้มแข็ง
ในคณะทำงานของการจัดการเรียนรู้ จะมีทั้งหมดสามวง
ผมจะซ้ำให้ดูอีกที วงแรกคือวงคุณเอื้อ
คือหัวหน้าส่วนราชการที่จะต้องให้การสนับสนุนการทำงาน
วงที่สองก็คือวงคุณอำนวย
ก็คือพนักงานในสังกัดหน่วยราชการนั้น
วงสุดท้ายก็คือวงคุณกิจ
ซึ่งจะเห็นว่าวงคุณเอื้อนั้นคือทีมผู้บริหารนั่นเอง
คุณอำนวยนั้นทางส่วนราชการต้องสรรหาคนที่มีหน่วยก้านและความตั้งใจที่จะเป็นแกนกลางที่จะเข้าไปเรียนรู้กับชุมชน
ส่วนวงคุณกิจนั้น คือองค์กรเครือข่ายชุมชน
ผู้ที่สมัครใจเข้าเรียนรู้ ดูบทบาทแต่ละวง วงคุณเอื้อ
เวลาเราทำงาน เป้าหมายบทบาทจะมี
อย่างของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรปีนี้
ธนาคารสำนักงานใหญ่
ชี้วัดเลยว่าต้องเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนให้ได้เท่าไร
ยกตัวอย่างว่ากลุ่มการเงินปีนี้
ผมจะต้องทำกลุ่มการเงินให้เข้มแข็งอำเภอละหนึ่งกลุ่ม 21
อำเภอ 2 กิ่งอำเภอ เพราะฉะนั้นเราต้องทำแล้วอันนี้
อันที่สองคือคุณเอื้อต้องทำงานอย่างบูรณาการ
มาพูดคุยกันว่าเราจะกำหนดทิศทางการทำงานอย่างไร
ต่อไปในการส่งเสริมให้ความรู้กลุ่มการเงินหรือพี่น้องประชาชนในจังหวัดนครศรีธรรมราช
เราต้องมีกรอบและแนวคิดที่เหมือนกัน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ
เอาความรู้จากชาวบ้านที่มีอยู่
เอาความรู้ที่เป็นความรู้เปิดเผยที่เราสามารถที่จะเรียนรู้ได้มาแลกกัน
ที่สำคัญคือคุณเอื้อเราจะต้องสนับสนุนกันในเรื่องของคนและงบประมาณลงไป
จังหวัดนครศรีธรรมราชโชคดีที่ท่านผู้ว่าอนุมัติงบ CEO ลงไปให้
แต่ส่วนหนึ่งก็ยังไม่พอ ส่วนราชการเราที่มีโครงการมีแผนงาน
ซึ่งในแผนงานนั้นๆ ก็จะมีผู้รับผิดชอบ
จะมีงบประมาณและมีกิจกรรมอยู่แล้วส่วนนี้มาทำร่วมกัน
ในวงของคุณอำนวยที่เป็นตัวแทนของหน่วยราชการนั้น
คุณอำนวยเองก็ต้องเป็นคนที่มีใจรักในเรื่องเหล่านี้
มีหน่วยก้านดี มีความสมัครใจที่จะทำงาน
สามารถที่จะประสานงานระหว่างคุณกิจกับคุณเอื้อได้
และต้องมีความช่ำชองในเรื่องวิทยากรกระบวนการ
คุณอำนวยนั้นไม่ได้ทำหน้าที่เป็นครู
แต่ทำหน้าที่เป็นวิทยากรกระบวนการ
ดึงความรู้ของผู้ที่มาเรียนรู้ที่มีศักยภาพมาเผยแพร่และเอามาใช้ในโอกาสต่อไป
และที่สำคัญต้องมีการบันทึกไว้
สรุปก็คือคุณอำนวยก็คือแกนหลักของกระบวนการของเรา ส่วนคุณกิจ
คือชุมชน คือกลุ่มนั่นเอง
ซึ่งก็ต้องมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ตลอดเวลาและสามารถที่จะช่วยตัวเองได้
และต่อยอดเป็นสถาบันการเงินชุมชน เป็นองค์กรชุมชน
และต่อไป จะเป็นอะไร ก็เป็นกองทุนหมู่บ้าน
ต่อไปก็จะเป็นสถาบันการเงินชุมชน
อนาคตจะเป็นอย่างไรนั้นใช่หรือไม่
นั่นคือเรื่องที่เราคาดหวังให้คุณกิจจะต้องพัฒนาต่อยอดต่อไป
ส่วนที่เราคาดหวังให้เกิดคือชุมชนเข้มแข็ง
ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าที่เราพูดว่าชุมชนเข้มแข็ง
เราพัฒนากลุ่มโดยพัฒนาแบบปีนี้พัฒนาปีหน้าพัฒนากลุ่มเดิม
อยากจะเห็นกลุ่มที่มันเข้มแข็งแล้วในระดับตำบลหรือหมู่บ้านแล้วไปช่วยเหลือคนอื่น
เพราะฉะนั้นอาจทำหน้าที่คุณอำนวยในลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อน
ให้เพื่อนเข้มแข็งอย่างนั้นแหละชุมชนจึงจะเข้มแข็งจริงๆ
ซึ่งในแต่ละวงก็จะเกิดพลังเรียนรู้แบบทวีคูณ วงคุณเอื้อ
วงคุณอำนวยและวงคุณกิจ ก็จะมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้
มีการเชื่อมโยง และมีการสรุปบทเรียน
ซึ่งทั้งสามวงนี้ต้องมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันอยู่ตลอดเวลา
นอกจากเราแลกเปลี่ยนกันในวงกันเองแล้ว
จะต้องแลกเปลี่ยนกับคุณอำนวยด้วย
ซึ่งจะเกิดขุมที่เรียกว่าขุมความรู้หรือคลังความรู้
ซึ่งจะเป็นแกนความรู้จริงๆ
ที่ได้มาจากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากการเชื่อมโยงและการสรุปบทเรียน
ส่วนคุณเอื้อมีความคาดหวังว่าชุมชนเข้มแข็งสามารถช่วยตัวเองได้
อยากจะให้สมาชิกและกรรมการขององค์กรนั้นมีองค์ความรู้
ความสามารถ มีความรู้ในพื้นที่ที่ตนเองจะต้องส่งเสริมแนะนำ
มีความเข้าใจในเรื่องอำนาจที่ตนเองมีอำนาจ เช่น
อำนาจในการที่จะอนุมัติการทำงานอย่างนี้เป็นต้น
แล้วต่อไปทำอย่างไรให้คณะกรรมการหรือสมาชิกมีโอกาสที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกของกลุ่มเพิ่มขึ้น
ที่ผ่านมาคณะกรรมการของกองทุนหลายกองทุนโดยเฉพาะกองทุนหมู่บ้านปัจจุบันนี้ใครก็ไม่อยากเป็น
เพราะเป็นแล้วไม่ได้อะไร
แต่ถ้าตัวเองทราบบทบาทหน้าที่ของตัวเองว่าหน้าที่นั้นเป็นประโยชน์ต่อสังคม
ความเข้มแข็งเกิดขึ้นมาได้ก็เพราะเราเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อน
ถ้าเขาทราบบทบาทหน้าที่ตรงนี้แล้วโอกาสที่จะเข้าเป็นคณะทำงานก็มีมาก
คนที่เป็นสมาชิกก็จะทำหน้าที่บทบาทของตนเองอย่างถูกต้อง
ในเรื่องของการทำบัญชี
เราอยากจะเห็นการทำบัญชีที่เป็นปัจจุบัน
องค์กรการเงินปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเป็นกองทุนหมู่บ้าน
กลุ่มออมทรัพย์ เครดิตยูเนี่ยน ธนาคารชุมชน
ส่วนใหญ่แล้วจะมีปัญหาในเรื่องการบันทึกบัญชีที่เป็นปัจจุบัน
คุณเอื้อก็คาดหวังว่าถ้าจะให้เข้มแข็ง
ก็จะต้องบันทึกทำบัญชีได้ถูกต้อง โปร่งใส
พร้อมที่จะให้ใครตรวจสอบได้ นี่คือหัวใจของการทำธุรกิจ
ถ้าระบบการทำบัญชีไม่ถูกต้องแล้ว ความเชื่อถือไม่มี
ในเรื่องของความสามารถในการจัดการทุนและเงินให้มีประสิทธิภาพ
กองทุนหมู่บ้านปัจจุบันนี้เรามีทุนอยู่ทั้งหมดกองทุนละประมาณ
1,100,000 เศษๆ ถึง 1,200,000
ดังนั้นในการจัดการทุนจะทำอย่างไรให้ทุนนี้งอกเงยต่อยอดไปได้
การบริหารจัดการเงินให้มีสภาพคล่องเพียงพอ
บางชุมชนไม่ต้องการเพิ่มทุน ถึงแม้ว่าประชาชนในกลุ่มของตัวเอง
สมาชิกของตัวเองต้องการเพิ่มทุน แต่ก็ไม่ต้องการเพิ่มทุน
เพราะกลัวว่าจะเป็นปัญหา
ตัวนี้แหละคือการเสริมเรื่องเศรษฐกิจในระดับรากหญ้า
ถ้าเขาได้เงินไปแล้วไปพัฒนาให้เกิดการสร้างอาชีพ สร้างงาน
สร้างรายได้ขึ้นมา
ก็จะเกิดการพัฒนาเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าขึ้น
เพราะในส่วนของการจัดการทุนว่าทำอย่างไรให้มีทุนเพียงพอสำหรับการบริหารจัดการ
การจัดการเงินทำอย่างไรให้สมาชิกสามารถที่จะใช้เงินจากกองทุนไปใช้ประกอบอาชีพให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
ในที่สุดแล้วการบริหารจัดการนั้นจะต้องให้มีรายได้มากกว่ารายจ่าย
หรือที่เราพูดถึงกำไรนั่นเอง
อีกเรื่องหนึ่งก็เรื่องสวัสดิการของสมาชิกในชุมชน
กลุ่มการเงินเหล่านี้ปัจจุบันแล้วถ้าเรามองแล้วในเรื่องอัตราดอกเบี้ยส่วนใหญ่ก็จะเกินกว่าธนาคาร
หรือใกล้เคียงกับธนาคาร
แต่สิ่งที่ชุมชนจะได้รับคือเรื่องสวัสดิการ
เอากำไรจากตัวนี้มาจัดลงไปให้สมาชิกให้กับชุมชน
ในเรื่องของสวัสดิการเกี่ยวกับศึกษา
สวัสดิการเกี่ยวกับเรื่องของการรักษาพยาบาล
สวัสดิการเมื่อครอบครัวของสมาชิกถึงแก่กรรม
ในเรื่องของชุมชนมีสวัสดิการในเรื่องของการจัดงานวัฒนธรรมประเพณี
ถ้าเราทำตรงนี้ได้
ความจงรักภักดีหรือความศรัทธาที่สมาชิกมีให้กับชุมชนในเรื่องที่ตัวเองต้องเสียค่าตอบแทนหรือดอกเบี้ยลงไป
สมาชิกก็จะไม่มีความรู้สึกว่าตัวเองเสียเงิน
ก็ถือว่าตัวเองได้รับส่วนแบ่งปันด้วย
ความสามารถในการจัดระบบข้อมูลและจัดการชุมชนให้ดี ตรงนี้สำคัญที่สุด
ปัจจุบันนี้ไม่ว่าการประกอบอาชีพอะไร
ชุมชนนั้นต้องมีข้อมูลในเรื่องข้อมูลพื้นฐาน
ข้อมูลเกี่ยวกับการประกอบอาชีพการเงิน
ทำอย่างไรถึงจะทราบว่าวันนี้วันพุธ มันเริ่มออกดอกแล้ว
แต่ละเดือนมันจะให้ผลประมาณเท่าไร
เราจะส่งไปขายใครที่เป็นเครือข่ายของเรา
ข้อมูลตรงนี้ต้องมี
ซึ่งในลักษณะอย่างนี้เราคาดหวังว่าชุมชนน่าจะจัดการได้
อยากจะให้ชุมชนสร้างและเชื่อมโยงเครือข่าย
เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้แก่ตนเอง
คาดว่าในลักษณะเมื่อกี้ในลักษณะเพื่อนช่วยเพื่อนนั่นคือสิ่งที่เราคาดหวัง
คือชุมชนนี้มีการบริหารจัดการที่ดี
ผู้บริหารเป็นผู้จัดการมืออาชีพและอยากที่จะจัดการให้ตนเองมีความรู้ความเข้าใจ
อยากจะให้คนสมัครเข้าเป็นสมาชิก เป็นกรรมการ
เป็นผู้สนับสนุนตนเองอยู่ตลอดเวลา
บทบาทของคุณเอื้อเพื่อที่จะให้บรรลุเป้าหมาย ตัวนี้ก็คือที่
อาจารย์ภีมได้พูดถึง 9
หน่วยงานของหน่วยราชการของจังหวัดนครศรีธรรมราชก็เป็นที่ยอมรับว่า
หัวหน้าส่วนราชการงานเรามาก ประชุมในพื้นที่ไม่เท่าไร
แต่ประชุมต่างพื้นที่ ที่กรุงเทพฯ อะไรมั่ง
ของเก่ายังไม่ได้ทำของใหม่มาอีกแล้ว
เวลาทำโครงการนี้จะคุยในวงของคุณเอื้อก็คุยไม่ได้สักทีก็ส่งลูกน้องไปแทน
การเรียนรู้แทนที่จะต่อเนื่องก็ไม่ต่อเนื่อง
เพราะฉะนั้นส่วนนี้เราก็ต้องพยายามทำกรอบให้ชัดเจน
คนที่ไปแทนเราคนนั้นจะต้องบอกได้ว่านโยบาย
ภารกิจของเรานั้นต้องทำอย่างไร อันนี้ต้องสร้างความชัดเจน
ปัญหาของเราก็คือว่า
เราจะจัดการและพัฒนาคนในหน่วยงานของเราให้เป็นคุณอำนวยมืออาชีพได้อย่างไร
อีกอย่างหนึ่งก็คือว่า
เราจะร่วมมือทำงานกันอย่างบูรณาการกันให้ชุมชนเป็นแกนกลางและจะพัฒนาได้อย่างไร
สองเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่ทางคุณเอื้อจะต้องดำเนินการ
ซึ่งทั้งสองข้อนี้จะต้องพัฒนาคุณเอื้อในเรื่องของความรู้
ในเรื่องทักษะ
และสองข้อนี้แหละครับก็คือเป้าหมายของการจัดการเรียนรู้ของคุณเอื้อ
ซึ่งจะต้องจัดการเรียนรู้ต่อไปในจังหวัดนครศรีธรรมราช
วงของเราในเรื่องการจัดการความรู้ของชุมชน
บทสรุปของเราก็คือว่าเราจะปฏิรูปในการบูรณาการการทำงานโดยใช้วงคุณเอื้อ
ถ้าวงคุณเอื้อเห็นด้วย คุณเอื้อกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
มีแผนงานมีโครงการ
การปฏิบัติงานของเราเพื่อที่จะผลักดันให้ชุมชนเข้มแข็งนั้นก็จะเกิดขึ้นและประสบความสำเร็จ
ขอขอบคุณครับ
พ.ต. นพ.ธัญญ์ อิงคะกุล
:
ขอบคุณอาจารย์โสภณที่ให้มุมมองของคุณเอื้อ
ก็คงเป็นเรื่องของความคาดหวังว่าเราเอากระบวนการตรงนี้มาใช้แล้วจะเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง
สิ่งที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือการบริหารแบบบูรณาการ ที่
อาจารย์เน้นคงเป็นเรื่องของการประสานงานแล้วก็ต้องหาคุณอำนวยมืออาชีพ
เพื่อมาทำให้งานลุล่วงไปได้ด้วยดี
ดังที่การบูรณาการของจังหวัดนครศรีธรรมราชเคยตั้งไว้ว่าเป็นบูรณาการหน่วยงานด้วยการจัดการความรู้
เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์เมืองแห่งการเรียนรู้
ยังมีวิทยากรอีกท่านหนึ่ง เนื่องจากเวลาลุล่วงไป
จะขออนุญาตเบรกตรงนี้ก่อน
เราจะกลับมาที่ห้องนี้สักประมาณสิบเอ็ดโมง ในช่วง
session ต่อไปในช่วงสิบเอ็ดโมงถึงเที่ยง
คงจะเป็นวิทยากรอีกท่านหนึ่งมาให้ความรู้กับพวกเรา
แล้วมีการดูคลังความรู้กัน หลังจากนั้นคงเป็นการทำ
AAR (after action review) ของห้องนี้
ขอเชิญพักก่อนครับ
แล้วเดี๋ยวกลับมาพบกันครับ
พักรับประทานอาหารว่าง
พ.ต. นพ.ธัญญ์
อิงคะกุล
:
สวัสดีครับเราจะรอกันอีกสักสองสามนาที เพราะ
session ต่อไปยังมีวิทยากรอีกท่านหนึ่ง
ระหว่างที่รอถ้าใครมีคำถาม
อย่าลังเลที่จะถามขึ้นมานะครับ
เพราะวิทยากรของเราพร้อมที่จะตอบทุกคำถาม
ช่วงต่อไปช่วงสิบเอ็ดโมงถึงเที่ยงจะเป็นช่วงของวิทยากรอีกท่านหนึ่งที่จะมาให้ความรู้อีกเรื่องหนึ่งในฐานะที่เป็นคุณอำนวย
และเราจะเอาคลังความรู้ที่ได้วันนี้มานำเสนอกัน
รวมถึงประเด็นตอบคำถาม
มีคำถามมาค่อนข้างเยอะมาก มีใครยังไม่ได้กระดาษบ้างครับ
AAR คือจะถามว่าท่านมีเป้าหมายอะไรบ้าง
แล้วสิ่งที่ท่านได้
ตรงตามบรรลุสิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ที่มันไม่บรรลุเป้าหมายมันเป็นเพราะอะไร
แล้ววางแผนจะทำอะไรต่อไป
เราจะได้รู้ว่าที่เรามาฟังกันวันนี้อาจเป็นบทบาทของแค่องค์กรเดียว
กลับไปบริบทขององค์กรหรือหน่วยงานเราอาจไม่ใช่อย่างนี้ก็ได้
ฉะนั้นเราจะลองมาหาข้อสรุปกัน
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาจะเชิญวิทยากรท่านถัดไป อาจารย์จำนง
อาจารย์เป็นครูชำนาญการพิเศษ
อาจารย์มาวันนี้ในบทบาทของคุณอำนวย อาจารย์มีเรื่องเล่าดีๆ
เยอะมาก บวกกับอาจารย์เขียนบทความไว้
แล้วก็ยังมีสิ่งดีๆ
อีกทั้งบทความในเรื่องของการถอดความของทั้งคุณเอื้อ
คุณอำนวยและคุณกิจ และยังมีการถอดคลังความรู้
อันนี้อาจไม่ใช่ทฤษฎีของสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม
แต่เป็นทฤษฎีของอาจารย์เอง ซึ่งน่าสนใจ ลองฟังกันดู
เรียนเชิญ อาจารย์ครับ
อาจารย์จำนง หนูนิล
:
เรียนผู้ดำเนินรายการ
และเพื่อนข้าราชการที่มาร่วมประชุมกันในวันนี้
บทบาทของคุณอำนวย การที่ได้เราได้รับความรู้มา
คือผู้ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้
ไม่ใช่ครูสอนนักเรียน
บทบาทนี้ทำให้ทีมคุณอำนวยคิดมาก
เพราะอาจถูกสั่งสอนมาในระบบเดิมที่ว่าจะมีความรู้อะไรก็จะต้องไปสอนชาวบ้าน
พอเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
จึงต้องคิดใหม่ เราจะต้องปรับกระบวนทัศน์ใหม่
ในทีมของเรา วงคุณเอื้อ
ท่านคัดตัวคนที่จะไปเล่นบทบาทคุณอำนวยมาจากต่างหน่วยงานกัน
ส่วนของศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน
ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจังหวัดในฐานะคุณเอื้อ
พิจารณาครูอาสา คือ พอดีสามตำบลที่นำร่องอยู่ในอำเภอเมือง
ก็โยนเรื่องทั้งหมดให้อำเภอเมืองเป็นคนพิจารณา
ผมเป็นข้าราชการคนหนึ่งในอำเภอเมือง
ก็ดูน้องๆ ครูอาสาก็ดูแลกิจกรรมนี้อยู่
ก็วางตัวครูอาสาในสามตำบลลงไปเป็นทีมคุณอำนวยร่วมกับภาคีเครือข่ายอื่นๆ
เนื่องจากว่าภาคีเครือข่ายอื่นๆ
โครงสร้างองค์กรของเขาไม่ใช่คนที่จะเล่นในพื้นที่ครบ
ก็มาดูกันว่าหน่วยงานใดที่ครองพื้นที่อยู่
คือดูแลเข้าใจพื้นที่อยู่
หนีไม่พ้นศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนที่มีครูอาสาอยู่ทุกตำบล
ในขั้นคุณเอื้อที่เขาวางตัว ก็ได้ความจริงว่าในสามตำบลนี้
เราจะมีคนมาทำทีมเป็นทีมคุณอำนวย อย่างทีมตำบลบางจากเราได้พัฒนากร
คือพอดีเรียนอีกนิดนึงว่า ทั้ง 9
องค์กรนี้แล้ว
เรายังไปเชื่อมกับองค์การบริหารส่วนตำบลด้วย
บวกกับกำนันของอีกทั้ง 3 ตำบลด้วย
เพราะในราชการภาครัฐทั้ง 9 องค์กร
ไม่สามารถที่จะคิดอะไรลงไปได้
ต้องประสานกับท้องที่และท้องถิ่นด้วย
เพราะฉะนั้นกำนันของทั้งสามตำบลเป็นคุณเอื้อด้วย
เพราะฉะนั้นนายกองค์การบริหารส่วนตำบลทั้งสามตำบลก็เข้ามาเป็นวงของคุณเอื้อด้วย
แต่เนื่องจากว่าท่านผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรและสหกรณ์พูดแล้วว่า
เรื่องของการทำทีมของคุณเอื้อบกพร่องและกระท่อนกระแท่นไปหน่อย
แต่ถ้าเราให้ความสำคัญ
ต้องภาครัฐบวกกับท้องที่และท้องถิ่นด้วยถึงจะขับเคลื่อนการจัดการความรู้ตรงนี้ในสามท้องที่ได้
ทีมของตำบลบางจากก็มีพัฒนากร
เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนขององค์การบริหารส่วนตำบลมาเป็นหนึ่งในสามคนของทีมคุณอำนวยด้วย
มีครูอาสา มีสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ทางคุณภีมในฐานะ CKO
ของโครงการได้ออกแบบไว้อย่างนั้นว่าตำบลละ 3 คนเป็นทีมคุณอำนวย
บางจากก็ได้ทีมสามคนอย่างที่เรียนไปแล้ว
ตำบลท่าไร่ได้พัฒนากร
ซึ่งเป็นคนในพื้นที่ที่ใกล้ชิดที่สุด
คือรู้เรื่องหมดเลยตรงนั้นเป็นหนึ่งในสามคน
และก็มีอาสาพัฒนาของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนอยู่ในทีม
อีกตำบลหนึ่งคือตำบลมะม่วงสามต้น
เราได้พัฒนากรและครูอาสาอีกสองคน
คือเราไม่ได้เป็นบังคับว่าใครจะไปตรงไหนตรงไหน
พอคุณเอื้อวางตัวว่าคุณอำนวยแต่ละตำบลจะเป็นใครบ้าง
ตรงนี้ส่วนหนึ่งก็ให้เป็นอาสาสมัคร
คือเป็นความสมัครใจของคุณอำนวยเองด้วย
ที่จะลงในพื้นที่ไหน
คุณเอื้อก็ดูตัวเอาไว้ว่าจะเป็นใครได้บ้าง
แต่เอาเข้าจริงๆ
ส่วนหนึ่งก็เป็นไปตามความสมัครใจของคุณอำนวยที่จะทำด้วยว่าถนัดหรือเหมาะสมไหมที่จะเล่นในพื้นที่นั้น
นี่ก็เป็นที่มาของทีมคุณอำนวย
ในการที่ทีมของคุณอำนวยจะไปทำกิจกรรมของพื้นที่
เราถูกให้ข้อคิดเอาไว้ สำคัญประการหนึ่งที่ว่า
สิ่งที่เราจะลงไปเล่นจะต้องไม่ไปเริ่มต้นจากสิ่งใหม่
ควรเป็นสิ่งที่เขาทำอยู่
คุณอำนวยก็จะมาแลกเปลี่ยนความคิดกันว่าทุนเดิมของสามตำบลนี้
เป็นการเงินรูปแบบใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นออมทรัพย์
หรือกองทุนหมู่บ้าน ของทั้งสามตำบลนี้
การเรียนรู้ต่อเนื่องจากที่ชาวบ้านเรียนรู้มาแล้วมันเป็นอย่างไร
เพราะว่าถ้าเราไปตั้งโจทย์ใหม่ที่มันไม่ใช่สิ่งที่ทำอยู่
มันจะทำให้การดำเนินงานสะดุดได้
จากประสบการณ์ที่เราเป็นครูอาสาในพื้นที่
เป็นพัฒนากรในพื้นที่ ถ้ามีโครงการอะไรใหม่ๆ
แล้วเราพาเข้าไปในหมู่บ้านตำบล ชาวบ้านจะรับไม่ได้
เพราะฉะนั้นตรงนี้เราได้บทเรียนตรงนั้นมาแล้ว
ก็เอามาทำเป็นว่าต่อไปนี้ทีมคุณอำนวยจะนำความรู้เข้าไปในตำบล
ต้องดูเสียก่อนว่าทุนเดิมในตำบลที่มีอยู่
บริบทชุมชนมีอยู่อย่างไร คุณอำนวยแต่ละตำบลก็ไปศึกษาดูว่า
ปรากฏการณ์ทางการเงินที่เป็นอยู่ในทุกๆ ตำบลเป็นอย่างไร
เช่น
ยกตัวอย่างว่าตำบลบางจากมีความคิดที่จะเป็นสถาบันการเงินชุมชน
พยายามก่อตั้ง พยายามที่จะรวมตัวกันมานานแล้ว
ตรงนี้จะเป็นข้อมูลแก่คุณอำนวยว่า
ถ้าเราจะไปเล่นที่ตำบลบางจาก
ต้องหยิบฉวยเรื่องนี้มาเป็นข้อมูลในการที่จะมาวางแผนต่อไป
หรือตำบลท่าไร่
เป็นตำบลที่คิดจะนำการออมทรัพย์แต่ละแห่งผูกโยงเป็นเครือข่ายกัน
ตรงนี้ก็เป็นข้อมูลแล้วว่าทุนเดิมเขาเรียนรู้อะไรอยู่
เขาทำอะไร
แล้วทีมคุณอำนวยจะเข้าไปหยิบฉวยตรงไหนมาเป็นประเด็นในการเรียนรู้ได้บ้าง
ตำบลมะม่วงสามต้น ตรงนี้เขายังไม่ได้จับมือกันทำอะไร
เขาก็คิดกันว่าเขาน่าจะสร้างเสริมประสิทธิภาพการทำงานของกองทุนชุมชนให้มันดี
ตรงนี้ทีมคุณอำนวยจะต้องส่องกล้องมองดูไปหมดเลยว่าปรากฏการณ์ที่มันเป็นอยู่แต่ละตำบล
คืออะไรที่เป็นประเด็นเรียนรู้ที่เขาได้เรียนรู้อยู่แล้ว
ถ้าเราไปจับเรื่องใหม่ชาวบ้านจะรับไม่ได้
จะสังเกตได้ว่าโครงการอะไรใหม่ๆ เข้ามาในตำบล
ถ้ามันไม่เชื่อมโยงกับฐานความคิดความรู้เดิมของชาวบ้าน
การขับเคลื่อนจะยากมาก
คุณอำนวยของทั้งสามตำบลจะต้องไปลงคลุกคลี จากเมื่อก่อนนี้
ครูอาสากับพัฒนากรเข้าไปกันคนละที
จากความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยเป็นเรื่องเป็นราวก็มาทำในโจทย์เดียวกัน
อาศัยประเด็นที่ชาวบ้านเรียนรู้และมีความพยามยามจะทำอยู่แล้ว
ซึ่งจะทำให้การขับเคลื่อนเป็นไปได้ง่ายขึ้น
เมื่อได้ข้อมูลดังกล่าว ก็จะมาพูดคุยกันในวง
ว่าแต่ละตำบลจะมีประเด็นเรียนรู้อะไรบ้าง
หลังจากที่เราทำความรู้จักแต่ละตำบลแล้ว
โดยยึดโยงกับความรู้เดิมของชาวบ้าน
ทีมคุณอำนวยแต่ละตำบลจะมาประชุมกัน
ซึ่งมีการประชุมกันทุกครึ่งเดือน
โดยจะร่างแผนการการเรียนรู้ของชาวบ้าน
หรือการร่างหลักสูตรว่าจะเรียนรู้ต่อเนื่องในประเด็นใดได้บ้าง
ก่อนที่จะคิดตรงนี้ผมลืมพูดในประเด็นที่ว่าคุณอำนวยแต่ละคนต้องเรียนรู้และฝึกฝนตนเองมากพอสมควร
หาความรู้จากการอ่านหนังสือบ้าง
การแลกเปลี่ยนกันบ้างจากบล็อกหรือ internet ต่างๆ
ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำอยู่แล้วก็ตาม
ในการที่จะทำตรงนี้มันก็มีความรู้ใหม่ๆ เกิดขึ้นมาบ้าง
คุณอำนวยก็ต้องใช้ความพยายามอยู่เหมือนกันที่จะเข้าใจถึงเรื่องราวของการจัดการเรียนรู้
ในการมาทำทีมร่วมกันเนื่องจากว่าแต่ละคนที่มาก็ยังไม่ค่อยแน่ใจว่าตนเอง
คือคุณอำนวยว่าทำแล้วจะเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับงานที่ตนเองทำอยู่หรือไม่
อยากให้ทุกคนมองว่าการเงินของชุมชนมันเกี่ยวข้องกับศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนตรงไหน
คืออยากจะให้ทุกคนทำแล้วได้ด้วย คือได้กันทุกฝ่าย
ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนทำตรงไหนที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจะได้จากกองทุนการเงินชุมชน
มันแตกย่อยเป็นกิจกรรมแผนงานโครงการ หรือพัฒนากร
หรือจะเป็นเกษตรอะไรที่มันแฝงอยู่ในนั้น
บางทีถ้ามองไม่เห็นลังเลไม่แน่ใจว่าจะมาร่วมเป็นทีมกันได้หรือไม่
แต่พอวิเคราะห์เห็นแล้วว่าการเงินชุมชนตรงนี้มันมีเนื้องานของตนแทรกอยู่
นึกไม่ถึงว่าอย่างอนามัยมองเห็นงานของตนในองค์กรการเงินชุมชนด้วย
เมื่อวานผมได้ประชุมอีกเวทีหนึ่ง
ได้มีหมออนามัยบอกว่าเวลาจะเรียกประชุมชาวบ้านเรียกยาก
แต่พออาศัยเครือข่ายกองทุนการเงินชุมชนเรียกง่าย
ท่านจะมาบริการอะไรต่างๆ ก็จะมาบริการที่กองทุนการเงินชุมชน
เพราะฉะนั้นทีมของคุณอำนวยทั้งสามตำบลให้แต่ละคนมองให้เห็นว่ามีงานของตนเองรวมอยู่ด้วย
พอถึงขั้นตรงนี้แล้วจะถึงเรื่องของความสมัครใจในการทำงาน
ชาวบ้านก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ตนทำอยู่แล้ว
ตรงนี้จะทำให้ทุกฝ่ายสบายใจด้วยกัน
ไม่ใช่ว่าฉันถูกสั่งให้ทำ
คุณอำนวยเองจะต้องหัดมองดูและพัฒนาตนเองต่างๆ
ในเรื่องของการจัดการความรู้ เพราะว่าในหน้าที่ของแต่ละคน
แม้ว่าจะเป็นการบอกว่าองค์กรตนจัดการความรู้แล้วก็จริง
แต่มันก็ไม่รู้ว่าจะไปพลัดไปหลงทางตรงไหนหรือไม่
เพราะฉะนั้นทีมคุณอำนวยก็พยายามอ่านหนังสือต่างๆ
สำหรับจังหวัดนครศรีธรรมราชของเราก็พยายามขวนขวาย
ท่านผู้ว่าท่านให้เกียรติกับคุณอำนวยมาก
การให้งานมันผลักดันเดินไปข้างหน้าได้
มันมีวงขึ้นมาอีกวงหนึ่ง
วงคุณเอื้อบวกกับวงคุณอำนวยขึ้นมาอีกวงหนึ่ง
ท่านใช้วิธีของท่าน ยุทธศาสตร์ของท่านมาร่วมกับเรา
ทุกครั้งเวลาเรากลับจากพื้นที่ได้อะไรมายังไง
ท่านมักจะมาเป็นผู้เรียนคนหนึ่ง
มีอยู่ครั้งหนึ่งคุณอำนวยกลับจากดูงานในพื้นที่
พบว่าประเด็นเรียนรู้ที่สำคัญประเด็นหนึ่งของกองทุนการเงินชุมชนคือเรื่องของบัญชี
ในวงนั้นคือคุณเอื้อบวกคุณอำนวยกำลังจะคิดแบบบันทึกอะไรสักอย่าง
เป็นคู่มือกลางที่จะเอาไปใช้กับกลุ่มออมทรัพย์
ความคิดมันทำท่าจะไปอย่างนั้นอยู่แล้ว
แต่ก็มีความคิดหนึ่งว่าเราจะไปทำแบบนั้นให้โหลหมดไม่ได้
น่าจะให้แต่ละกลุ่มออมทรัพย์
แต่ละกองทุนหมู่บ้านคิดของตัวเองได้ด้วย
ไม่งั้นจะเป็นจัดการความรู้ได้อย่างไร
ท่านผู้ว่าท่านนั่งอยู่ด้วย ท่านก็บอกว่า นี่เอาละ!
ทำก็ทำเถอะไม่ว่า
แต่อย่าบังคับกลุ่มออมทรัพย์หรือกองทุนหมู่บ้านที่จะเอาไปใช้
ถ้าตรงไหนเขาดีอยู่แล้ว
ก็อาจจะสร้างบันทึกตรงนั้นขึ้นมาเป็นสีสันเป็นเรื่องที่เขาลงตัวอยู่แล้วก็ให้เขาทำไป
อันนี้ก็เป็นเรื่องที่เรียกว่าเป็นวงเรียนรู้จริงๆ
เป็นการจัดการความรู้ภาคปฏิบัติที่น่าสนใจมาก
ที่นี้พูดถึงหลังจากที่คุณอำนวยส่องกล้องปรากฏการณ์การเงินชุมชนแล้ว
ก็กลับมาก็กลับมานั่งร่างประเด็นเรียนรู้ต่างๆ
ที่จะนำไปพูดคุยกันในแต่ละตำบล
จากนั้นก็เอาร่างนี้ไปเป็นแผนหยาบ ๆ หรือหลักสูตรหยาบ ๆ
ว่าแต่ละตำบลคุณอำนวยจะเอาอะไรไปคุยและนำไปเสนอในแต่ละตำบล
ก็นำเอาลงไป
ผมลืมเรียนให้ทราบไปว่าในทีมคุณอำนวยทีมหนึ่งจะถูกวางให้มีคุณอำนวยคนหนึ่งเป็นคุณประสาน
เพื่อประสานการประชุมหรือนัดหมายสถานที่ เตรียมเอากระดาษเขียน
ปากกาหรือกระดาษต่างๆ ไป นั่นเป็นคุณประสาน
คุณวิทยากรกระบวนการ คือเวลาจะเป็นลำดับอะไรก่อนหลัง
การแบ่งกลุ่มย่อยใหญ่ การนำเสนอ
การบันทึกและการสรุปอะไรต่างๆ อย่าให้ที่ประชุมเงียบนิ่ง
อย่าให้ขัดแย้งกัน อะไรต่างๆ
เหล่านี้คือหน้าที่ของวิทยากรกระบวนการ
และอีกคนหนึ่งที่วางตัวไว้คือคุณลิขิต
คือคนที่คอยบันทึกเรื่องราวต่างๆ ในครูอาสา
ในสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน ก็จะวางตัวกันเอาไว้อย่างนี้
แต่ว่ามันก็ไม่แน่ว่าจะเป็นอย่างนี้ได้ตลอดไป
เพราะว่าเราเป็นคนปฏิบัติ
หากว่าในทีมเพื่อนคนใดหายไปต้องเล่นบทอื่นได้ด้วย
ทุกคนในทีมต้องทำได้ทุกอย่าง ทีนี้ก็นำแผนที่ร่างไว้อย่างหยาบๆ
มาเสนอ
จนเกิดความคิดที่หลากหลายว่าอยากรู้อยากเรียนเรื่องของการพิจารณาโครงการ
อยากเรียนเรื่องการทำบัญชี เรื่องสวัสดิการ
ออกมามากมายซึ่งตรงนี้ผมคิดว่ารายละเอียดต่างๆ
คงจะมีอยู่ในเอกสารแล้ว
รวมทั้งว่าเวลาที่เราไปนอกจากเนื้อหาที่เขาจะเรียนรู้แล้ว
ลีลาการเรียนรู้ของแต่ละตำบลแต่ละพื้นที่มันไม่เหมือนกัน
ข้อจำกัดมากมายก็ให้ประสานไปทางคุณอำนวยที่จะต้องร่วมมือกับคุณกิจ
เรื่องนี้วิธีเรียนรู้ใดถึงจะเหมาะสม ใช้สื่อใด
วิทยากรที่ไหนที่ต้องออกแบบร่วม
เพราะว่าวิทยากรกระบวนการไม่ใช่วิทยากรเนื้อหา
คุณอำนวยร่วมมือกับคุณกิจ
พิจารณาดูเป็นรายเนื้อหาว่าเนื้อหาไหนน่าจะมาก่อน
หรือชาวบ้านสอนกันเอง
หรือต่างหมู่บ้านต่างกลุ่มมาแบ่งปันและแลกเปลี่ยนกัน
คุณอำนวยจะต้องหูไวตาไวและจะต้องกำหนดออกมาให้ได้เป็นแผนปฏิบัติการการเรียนรู้
ทีนี้ก็ถึงขั้นที่ว่าเรียนรู้ตามแผนแล้ว
ในโครงการนำร่องเนื่องจากเป็นงบกลางปี
เราออกแบบไว้ให้คุณกิจมีกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งหมด 6
เวที 6 ครั้ง
แต่ผลออกมามากกว่าที่เราตั้งเป้าเอาไว้
ซึ่งทุกครั้งที่คุณอำนวยทำกิจกรรมในพื้นที่แล้วทุกครั้งเราจะเอามาพูดคุยกันในวงคุณอำนวยเพื่อที่จะถอดบทเรียน
เราก็ถอดแบบลูกทุ่ง
คุณอำนวยจะมีการมีบันทึกเอาไว้ทุกครั้ง
เพื่อที่จะเป็นข้อมูลในการที่เราจะได้ถอด
สรุปว่าการทำแต่ละครั้งมันได้อะไรมาเป็น
องค์ความรู้บ้าง
อันนี้ก็เป็นกระบวนการขั้นตอนในการเรียนรู้ที่เราทำกัน
อย่างน้อยๆ มันก็เกิดความรู้สึกดีในการที่เรามาเป็นนักเรียน
มาเรียนรู้มาแบ่งปัน ผลผลิตจริงๆ ของการทำออมทรัพย์
กองทุนหมู่บ้านก็ดี
มันอาจจะยังไม่เห็นผลมากมาย
เพราะระยะเวลาแค่ 6 เดือน
ทีนี้คุณอำนวยแต่ละคนก็จะต้องให้ข้อมูลเหมือนกัน
บางคนตั้งเป้าในกา
ไม่มีความเห็น