บางประเด็นบนเวทีการเป็นวิทยากร (๑) .. องค์การนิสิต มมส

ความเข้มแข็งที่ผ่านมา เป็นความเข้มแข็งระดับองค์กรหรือระดับผู้นำกันแน่

เสาร์ที่ ๘ กันยายน - ช่วงเช้าของวันนี้, ผมมีภารกิจอันสำคัญคือร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดการสัมมนาสรุปงานครึ่งปีขององค์การนิสิต รวมถึงการรับหน้าที่เป็น “วิทยากร” บรรยายในเรื่อง “การทำงานขององค์การนิสิตในมุมมองของกองกิจการนิสิต” ผมรับหน้าที่การเป็นวิทยากรอย่างเต็มใจ เพียงแต่มุมมองที่จะนำเสนอนั้น ไม่ใช่มุมมองของหน่วยงานหรือใครอื่น หากแต่เป็นมุมมองที่ว่าด้วยทัศนะอันเกิดจากการเฝ้าสังเกตการณ์ของผมโดยตรง นี่คือบางส่วน หรือบางประเด็นที่ผมได้สะท้อนไปสู่บรรดาคณะกรรมการบริหารองค์การนิสิตในวันนั้น จุดเด่นบางประการในด้านบุคลิกภาพขององค์กร ๑. มีทีมงานที่เข้มแข็ง : โดยเฉพาะในกลุ่ม “ผู้นำ” ทั้งในระดับนายกองค์การนิสิตและอุปนายก ซึ่งทั้งหมดนั้นผ่านเวทีของการเป็น “นักปฏิบัติ” ด้านกิจกรรมมาอย่างโชกโชน ทั้งการเป็นสมาชิกชมรม, ประธานชมรม หรือแม้แต่การเคยเป็นนายกสโมสรนิสิตคณะ และการเคยดำรงตำแหน่งรักษาการนายกองค์การนิสิตมาแล้วระยะหนึ่ง คุณลักษณะของการเป็นนักปฏิบัติจากเวทีกิจกรรมอันหลากหลายนั้น เป็นเสมือนการผ่านกระบวนการเพาะบ่มศักยภาพของการเป็น “ผู้นำ” (leadership) และ “ผู้ตาม” มาอย่างดียิ่ง จึงย่อมมีประสบการณ์ในการทำงานอยู่ในตัว ขึ้นอยู่กับว่าจะมากหรือน้อยเท่านั้นเอง ๒. มีบุคลิกภาพที่หลากหลาย : โดยผู้นำแต่ละคนมักจะมีความสามารถที่หลากหลายอยู่ในตัวเอง เป็นได้ทั้ง “นักรักและนักเลง” อย่างน่าประทับใจ ซึ่งถือว่าเป็นบุคลิกที่สำคัญของการเป็นผู้นำในยุคสมัยนี้ แตกต่างจากผมสิ้นเชิงที่ “บู๊ล้างผลาญ” ได้สถานเดียว จะให้ตีกลองร้องรำ หรือแม้แต่ปรบมือก็ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า และนี่คือบุคลิกภาพของผู้นำที่ผมค่อนข้างจะชื่นชอบและให้ความสำคัญ และพยายามค้นหา หรือแม้แต่บ่มเพาะให้เกิดขึ้นในตัวของนิสิตมาอย่างยาวนานพอสมควร ๓. มีวิถีขบถ : องค์การนิสิตชุดนี้ต้องถือว่ามีวิถีความเป็นขบถอยู่อย่างชัดเจน กล้าคิดและกล้าทำในวิถีใหม่ ๆ และกล้าที่จะก้าวออกมาจากวังวนวัฒนธรรมเดิม ๆ ของการจัดกิจกรรมของนิสิตอย่างน่าชื่นชม และความเป็นขบถนี่เองที่ช่วยให้นิสิตได้ค้นพบรสชาติใหม่ ๆ ของการจัดกิจกรรมทั้งเพื่อตนเองและสังคม ดังจะเห็นได้จากในห้วงการบริหารของทีมชุดนี้มีกิจกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายหลายโครงการ จุดเด่นบางประการในด้านการสร้างงาน๑. การเป็นกระบอกเสียงของนิสิต : องค์การนิสิตสามารถหยัดยืนปกป้องผลประโยชน์และสิทธิอันชอบธรรมของมวลนิสิตได้อย่างสง่าผ่าเผย และได้ขับเคลื่อนกิจกรรมนี้ตามนโยบายที่ป่าวประกาศไว้ในช่วงของการเลือกตั้งอย่างน่ายกย่อง เพราะวิถีเช่นนี้ไม่พบเลยในองค์การนิสิตในห้วง ๒ – ๓ ปีที่ผ่านมา ดังจะเห็นได้จากกิจกรรมที่จัดขึ้น เช่น องค์การนิสิตพบประชาคม, การเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิและเสรีภาพของนิสิตในเรื่องต่าง ๆ ที่มีอยู่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการไม่ละเลยที่จะให้ความสำคัญของสวัสดิภาพของนิสิต ทั้งการกิน การอยู่ หรือแม้แต่การตายก็ล้วนถูกหยิบมารวมเป็นเรื่อง “สาธารณะ” ด้วยกันทั้งหมด และกิจกรรมในทำนองนี้ก็ถูกปักธงรบอย่างชัดเจน - เป็นการปักธงรบในที่แจ้งอันเป็นสนามรบ ไม่มีการเร้นหลบอยู่ตามซอกหลืบเยี่ยงคนขลาด ….ซึ่งควรค่าต่อการยกย่องและบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์กิจกรรม มมส อย่างยิ่ง ๒. การเชิดชูวัฒนธรรม : กิจกรรมในด้านศิลปวัฒนธรรม ถือเป็นกิจกรรมที่องค์การนิสิตสามารถฉายสะท้อนออกมาได้อย่างชัดเจนและเกือบทุกกิจกรรมก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม อันเป็นผลสืบเนื่องจากผู้นำองค์กรก็ล้วนแล้วแต่มีความรู้และการตระหนักรู้ในเรื่องเหล่านี้อย่างชัดแจ้ง หลายกิจกรรมปักธงในรูปศิลปวัฒนธรรมอย่างอลังการ บางกิจกรรมก็นำความเป็นศิลปวัฒนธรรมไปเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนั้น ๆ อย่างกลมกลืน โดยเฉพาะวัฒนธรรมอีสานในรูปลักษณ์ต่าง ๆ นั้นถูกนำมาสะท้อนไว้อย่างมี “ตัวตน” ในเกือบทุก ๆ กิจกรรมที่จัดขึ้น ๓. การติดอาวุธทางความคิด : องค์การนิสิตชุดนี้พยายามอย่างเหลือเกินในการที่จะสร้างพลังทางปัญญาเพื่อการติดอาวุธทางความคิดให้กับนิสิต ดังจะเห็นได้จากการเปิดเวทีเสวนาพูดคุยในโอกาสต่าง ๆ อยู่บ่อยครั้ง ประเด็นการอบรม หรือเสวนาในแต่ละครั้ง ก็มักเกี่ยวโยงกับพันธกิจในทางสังคมอยู่เสมอ ซึ่งอาจมีนัยสำคัญถึงการทวงคืนทางเวทีความคิดที่หล่นหายและสาบสูญไปมาชั่วระยะหนึ่งก็เป็นได้ ๔. การสร้างระบบบริหารกิจกรรมโดยนิสิตเพื่อนิสิต : ประการสำคัญที่ผมให้เครดิตองค์การนิสิตชุดนี้มากเป็นพิเศษก็คือ การพยายามคิดและสร้างกิจกรรมด้วยตนเอง ไม่จำนนต่อการถูกครอบงำของระบบ อันเป็นคุณลักษณะปรัชญาของกิจกรรมตามแนวคิด “โดยนิสิต เพื่อ นิสิต” ซึ่งบางครั้งจราจรทางความคิดขององค์การนิสิตกับ “เรา” ก็พลุกพล่านและคับคั่งแทบจะชนกันก็มีเหมือนกัน แต่ทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี บนความเชื่อที่ว่า ความแตกต่างทางความคิด คือความงดงามของมนุษย์ จุดเปราะบางที่ควรปรับแต่ง ๑. การเรียนรู้ระบบ : ด้วยความที่องค์การนิสิตมีความเป็นขบถอยู่อย่างเต็มตัว บ่อยครั้งจึงมักสร้างกระบวนการที่ฉีกและแหวกไปจากระบบระเบียบของการจัดกิจกรรม ซึ่งผมย้ำว่าการเราต่างมีบทบาทและสถานะที่แตกต่างไปจากนิสิตทั่วไป บทบาทและสถานะนั้นก็คือการเป็นองค์กรนิสิต ไม่ใช่นิสิตธรรมดาที่มีหน้าที่อย่างเดียวคือ “เรียน” ให้จบตามหลักสูตรเท่านั้น ผมวิพากษ์ในเชิงให้ข้อคิดว่า องค์การนิสิต จำเป็นต้องเรียนรู้ระบบการทำกิจกรรมบนกรอบนโยบายและข้อบังคับของมหาวิทยาลัยให้ชัดเจน และความเข้าใจที่ชัดเจนนั้นจะช่วยให้เราทำงานได้อย่างราบรื่น มีระบบและไม่ขัดต่อระเบียบ และเมื่อเข้าใจระบบก็ง่ายต่อการจะอิงระบบเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดดังที่ใจปรารถนาและไม่มีมนุษย์ใดมีเสรีภาพเสียทั้งหมด เพราะมนุษย์คือสัตว์สังคม จึงย่อมมีกฎกติกาของการอยู่ร่วมกัน ซึ่งองค์การนิสิต ก็เป็นเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน จึงไม่สามารถสุดโต่งไปตามใจของตัวเองได้ทั้งหมด ๒. การเคลื่อนกิจกรรมด้านบำเพ็ญประโยชน์และกีฬา : กิจกรรมสองด้านนี้ยังถือว่าไม่โดดเด่นเท่าที่ควร นั่นอาจจะเป็นเพราะองค์การนิสิตโหมแรงและเวลาไปสู่กิจกรรมในทางเวทีความคิดและวัฒนธรรมเป็นสำคัญ หรือเพราะส่วนหนึ่งยังอยู่ในห้วงเวลาที่ต้องจัดกิจกรรมในวิถีวัฒนธรรมของความเป็นองค์กรนิสิต จึงยังไม่สามารถพาตัวเองออกมาสร้างกิจกรรมเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนก็เป็นได้ กระนั้น, ผมก็อยากให้องค์การนิสิต ได้ให้ความสำคัญต่อกิจกรรมด้านเหล่านี้ และสร้างกิจกรรมนี้ให้เป็นอีกทางเลือกของนิสิต มิใช่เสนอทางเลือกแต่เฉพาะด้านเวทีความคิดและศิลปวัฒนธรรมเท่านั้น ๓. การต่อยอดของสมาชิกชุดใหม่ : บรรดาแกนนำองค์การนิสิตหลายคนกำลังจะสำเร็จการศึกษาในเร็ววันนี้ ทั้งในระดับนายกองค์การนิสิต - อุปนายก และนั่นหมายถึงการผลัดใบของใบไม้กลางฤดูฝนที่ผมอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า คนที่เหลืออยู่จะสามารถต่อยอดพันธกิจได้อย่างเข้มแข็งหรือไม่ และความเข้มแข็งที่ผ่านมา เป็นความเข้มแข็งระดับองค์กรหรือระดับผู้นำกันแน่ - นั่นคือ คำถามที่ผมฝากให้พวกเขาได้หาคำตอบ นี่เป็นเพียงข้อสังเกตบางประการที่ผมสะท้อน หรือวิพากษ์บนเวทีของการเป็นวิทยากร หลายอย่างไม่ได้นำเสนอในบันทึกนี้ แต่ก็ดีใจที่เวทีเมื่อวานนี้ เป็นเวทีที่ผมไม่รู้สึกอึดอัดที่จะบอกว่า “ดี และด้อย” ….. ผมเชื่อเหลือเกินว่าองค์การจะรับฟัง และรับรู้ อย่างปราศจากมายาคติใด ๆ …

เขียนใน GotoKnow โดย แผ่นดิน
ใน pandin

คำสำคัญ (Tags): #กิจกรรมนิสิต#องค์การนิสิต#msu-km

หมายเลขบันทึก: 126606เขียนเมื่อ 9 กันยายน 2007 18:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 20:19 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่าน

ความเห็น (6)

thassana wong

เขียนเมื่อ 10 กันยายน 2007 22:56 น. ()

กระบวนการนิสิตนักศึกษา

เป็นองค์กรหนึ่งในมหาวิทยาลัย

ควรส่งเสริม ให้มีขึ้น และ ควรดูแล

ด้วยความเอาใจใส่

บางครั้ง กิจกรรมที่ทำ ก็อาจทำให้ผลการเรียนเสียได้

ควรแบ่งแยกให้ถูกว่า สิ่งไหนควรทำก่อน สิ่งไหนควรทำหลัง

การขับเคลื่อนพลังนั้น ถ้าได้ผู้นำที่ดี ก็จะทำให้กระบวนการ เดินไปสู่ทางที่ดี

ถ้าได้ผู้นำที่ไม่ดี ก็จะทำให้กระบวนการ เดินไปสู่ทางที่ไม่ดี

ดังที่เคยเป็น สมัยดุลาอาถรรพ์ มาแล้ว

เด็กขาดความเข้าใจในองค์กร ขาดความเข้าใจในหน้าที่ ขาดความเข้าใจในขอบเขต ขององค์กร ขาดความเข้าใจ ในเป้าหมาย ขาดความเข้าใจ ในการดำเนินกระบวนการและ อื่น ๆ

สิ่งที่ตามมา นั้นคือ ผลการเรียนเสียไป การหางานทำก็พลอยลำบากด้วย และ ผู้ที่เสียใจ คือ บิดามารดาของพวกเขาเอง

เหตุฉะนี้ จึงควรย้ำถึงขอบเขต หน้าที่ ความรับผิดชอบให้แจ้งชัด

ด้วยความห่วงใย

อาจารย์ ดูแลตนเองและครอบครัว ให้ดี รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ตลอดถึงครอบครัวด้วยให้อยู่เย็นเป็นสุข ทุกคน

สุข สงบ เย็น

rainalone

koibito

เขียนเมื่อ 13 กันยายน 2007 20:45 น. ()

สวัสดีคะ อ.แผ่นดิน
กำลัง จะจัดสัมมนาสโม ฯ พอดีเลย
เข้าประเด็นคะ
ขอเอาบางประเด็นไปใช้ และ เผยแพร่ให้ผู้นำองค์กร นศ บ้างได้ไหม๊คะ

sasinanda

เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2007 11:56 น. ()

สวัสดีค่ะ

sasinanda

คุณพนัสหายไปไหนมาคะ เงียบไปเกือบอาทิตย์เลย คิดถึงอยู่หลายวันแล้ว สบายดีหรือเปล่าคะ หรืองานยุ่งมาก ถ้ามีปัญหาด้านเทคนิคลอง emailถามทางทีมงานซีคะ

น่าจะท้องขึ้นนะ คนคงบ่นถึงกันหลายคน

กลับมาเร็วๆค่ะ

แผ่นดิน

เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2007 18:19 น. ()

สวัสดีครับ...thassana wong /// ... ช่วงนี้ผมประสบปัญหาเรื่องระบบ จนไม่สามารถที่จะตอบบันทึกได้ พลอยให้ห่างไปจากการเขียนบันทึก../// กิจกรรมนิสิต คือ "รสชาติชีวิตปัญญาชน" ซึ่งหมายถึง การเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ /// สำคัญคือนิสิต ต้องเรียนรู้ที่จะลำดับความสำคัญต่าง ๆ อย่างมีสติ .../// ..ขอบคุณแนวคิดและกำลังใจที่ดีซึ่งมีให้เสมอมา ///..

แผ่นดิน

เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2007 18:22 น. ()

สวัสดีครับ... koibito /// ... ขอบคุณนะครับที่แวะมาทักทาย และเป็นเกียรติอย่างยิ่งต่อการนำบันทึกของผมไปใช้เป็นประโยชน์ต่อการเสริมสร้างและพัฒนานิสิต /// ... นิสิตนักศึกษา คือ กลุ่มคนความหวังของสังคม ไม่ว่ายุคสมัยใด เราก็ไม่เคยสิ้นหวังต่อพวกเขา /// กระบวนการเรียนรู้ในตำราเรียนและกิจกรรม คือ กลไกอันสำคัญในการที่จะเพาะบ่มและขัดเกลาให้พวกเขาเติบโตอย่างมีคุณค่า ///.... ผมเป็นกำลังใจในการทำงานให้นะครับ -

แผ่นดิน

เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2007 18:28 น. ()

สวัสดีครับ พี่ศศินันท์///... ช่วงนี้มีประเด็นหลายอย่างที่เกี่ยวก้อยพาผมหายไปจากบันทึก พยายามอยู่เหมือนกันในการรวบรวมพลังเพื่อกลับเข้ามาอีกครั้ง /// อบอุ่นเสมอและมีแรงใจที่ดีเมื่อรู้ว่า มิ่งมิตรหลายท่านยังระลึกถึง /// ... คงใช้เวลาพักใหญ่ ๆ แหละครับ ถึงจะกลับมาเป็นปกติ /// ..