เมื่อเช้า ผมตั้งใจมาประชุมให้ทัน 8.30 น. (Weekly Meeting) เป็นการประชุมทุกวันพุธของ สคส.
ผมเตรียมตัวออกจากบ้านตั้งแต่ 7.00 น. แต่หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ ท้องไส้ก็แปรปรวน เกิดอาการท้องเสียอย่างหนัก ผมเดินเข้า-ออก ห้องน้ำอยู่ 2 รอบ แล้วกินยาระงับอาการท้องร่วงและนั่งอยู่นิ่งๆสักพัก ให้แน่ใจว่าข้าศึกจะไม่มาประชิดระหว่างที่ผมเดินทาง
จนกระทั่งได้ออกจากบ้าน 8.15 น. แล้วเดินออกจากซอยได้ เมือถึงถนนใหญ่ก็เรียกแท็กซี่ทันที
"ไปช่อง 5 สนามเป้าครับ" (เนื่องจากที่ทำการ สคส. อยู่ตรงข้ามกับ ช่อง 5 ผมเลยบอกจุดหลักๆให้แท็กซี่ไปถึงที่หมายโดยด่วน)
ผมถามแท็กซี่ว่า "ไปทางไหนเร็วที่สุด ระหว่างเส้นพระรามเก้า กับ เส้นลาดพร้าว"
แท็กซี่ตอบ : "พระรามเก้าชัวร์กว่า เร็วกว่าเยอะ" พร้อมกับถามผมกลับว่า "รีบเหรอครับ ?"
ผมตอบทันทีว่า : "รีบมาก"
จากนั้นแท็กซี่ ก็เร่งขับให้ ซอกแซก พร้อมกับหมุนจากคลื่นวิทยุลูกทุ่งที่ฟังอยู่เดิม ไปที่ จส. 100 เพื่อเช็คเส้นทางจราจรทันที โดยที่ผมเองก็รู้สึกหวาดเสียวท้องน้อยอยู่เป็นช่วงๆ
"ผมรู้สึกดี ที่แท็กซี่พยายามจะให้ผมไปถึงที่หมายได้ทันเวลา พร้อมกับเต็มใจให้บริการ"
ระหว่างทางผมอ่านหัวข้อการประชุมที่มีทั้งหมด 11 หัวข้อ และนึกในใจว่า...
"ป่านนี้เขาจะผ่านกันไปกี่หัวข้อแล้วนะ"
ผมเหลือบไปเห็นป้ายชื่อคนขับรถชื่อ นายไสว แสนสุข ...
แล้วผมก็นึกเล่นๆในใจ เกี่ยวกับนามสกุลของคนขับว่า "เขาแสนสุขจริงหรือ" พร้อมกับตั้งคำถามออกมาว่า...
แขก : พี่ขับแท็กซี่มานานยังครับ ?
คนขับแท็กซี่ : ขับมาตั้งแต่ปี 2518 (ตอนนี้ก็ 21 ปีแล้ว)
แขก : โฮ!!! ขับมานานขนาดนี้ ไม่เบื่อเหรอครับ ?
คนขับแท็กซี่ : ไม่เบื่อนะ.. ผมเจอผู้โดยสารเจอทุกวัน แต่ละคนก็มีหลายระดับ ทั้งลูกนายตำรวจใหญ่ ๆดารานักแสดง แม้กระทั่ง ยาจก ก็นั่งรถผมมาแล้วทั้งนั้น แต่ละคนก็แปลกแตกต่างกันไป พูดจาไม่เหมือนกัน นิสัยไม่เหมือนกัน มันเหมือนได้เจอคนหลายรูปแบบ เราก็ได้ศึกษาลักษณะของคนที่แตกต่างกันไป มีดี มีชั่ว และก็รับรู้ว่าสังคมนี้ มันเป็นอย่างนี้
แขก : แล้วความสุขของพี่อยู่ตรงไหนอ่ะ ?
คนขับแท็กซี่ : ก็ตรงที่ได้ขับรถนี่งัย !! ผมชอบขับรถมาตั้งแต่เด็ก เท่าที่จำความได้ผมขับตั้งแต่อายุ 17 ปี และก็มาเริ่มขับแท็กซี่จริงๆ ตอนอายุ 19 ปี ตอนนั้นตื่นเต้นมากขับแท็กซี่ในกรุงเทพฯ เมื่อ 20 ปีก่อน ค่าโดยสาร(ยังไม่มี มิเตอร์) จากอนุสาวรีย์ชัยฯ - ห้วยขวาง คิดแค่ 7 บาทเอง ช่วงนั้นผมถูกตำรวจจับด้วย เพราะอายุไม่ถึง 20 ปี ยังไม่มีใบอนุญาติขับรถ และก็ยังขับมาเรื่อย กระทั่งตอนอายุ 20 หยุดขับไปปีหนึ่ง(กลับบ้านทำสวน) หลังจากนั้นก็กลับมาขับถึงปัจจุบันนี้ และยังไม่เคยทำอาชีพอื่นเลย
แขก : แล้วทำไมไม่เปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นบ้างล่ะครับ ?
คนขับแท็กซี่ : ก็ไม่รู้จะไปทำอะไรได้ เราจบแค่ป.4 ขับแท็กซี่มาตั้งแต่แรกด้วย แต่ก็มีความสุขนะ ไม่เคยคิดอยากไปทำอะไรอื่นเลย นอกจากขับรถอย่างเดียว
แขก : ความสุขของพี่ ก็คือการขับรถเหรอครับ ?
คนขับแท็กซี่ :ใช่ครับ ใช้ชีวิตบนรถแท็กซี่ มากกว่าอยู่บ้านซะอีก (หัวเราะ) และมันก็เรียนรู้สังคมไปทุกๆวัน ฟังจากวิทยุ ฟังจากผู้โดยสาร และจากอื่นๆอีกมาก ที่เราเห็นอยู่ทุกๆวัน
แขก :แล้ว รายได้ปัจจุบัน กับ เมื่อก่อนต่างกันมากมั๊ยครับ ?
คนขับแท็กซี่ :ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่ เพราะเมื่อก่อนค่าเช่ารถ 65 บาท/วัน รายได้มันก็ราคาถูก ก็พอเหลือเก็บบ้าง สมัยนี้ ค่าเช่าแพง (700-800บาท/วัน) น้ำมันแพง เราก็เปลี่ยนมาใช้แก๊ส และค่าโดยสารก็ พออยู่ได้ หักค่าเช่า ค่าแก๊ส เหลือเงินเก็บบางวันก็เป็นพันบาท บางวันก็เหลือ ไม่ถึง 100 บาท แท็กซี่ก็เยอะขึ้นเรื่อยๆ รถตู้ก็เยอะ เราก็แบ่งๆกันหากิน ได้มากได้น้อย แล้วแต่โชคครับ.
จบประโยคนี้รถก็มาถึงที่หมายที่ผมต้องรีบขึ้นไปประชุมทันที ผมจ่ายค่าโดยสารไป 135 บาท พร้อมกับขอบคุณพี่ไสวที่ช่วยให้บทสนทนาที่ดีกับผม เป็นบทสนทนาที่ดี ท่ามกลางการจราจรในกรุงเทพฯที่มักจะวุ่นวายในตอนเช้าๆ
เรื่องเล่าเช้านี้ของผมก็จบลงแค่นี้ครับ แต่ผมก็ได้ข้อคิดว่า...
แม้จะทำให้เช้านี้ผมจะรู้สึกไม่ดีกับอาการท้องเสีย จนต้องมาประชุมสาย (ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดีเลย) แต่ ผมก็รู้สึกดีที่ได้เห็นแง่มุมชีวิตของคนขับแท็กซี่คนหนึ่งที่ขับแท็กซี่มา 21 ปี และยังมีความสุขกับการทำงานเดิมๆอยู่ ขณะเดียวกันก็เรียนรู้ผู้อื่น จากการที่ผู้โดยสารขึ้นรถของแก แล้วพูดคุยกัน หรือการฟังข่าวสารบ้านเมืองจากวิทยุ และเพลงลูกทุ่งที่พี่ไสวชื่นชอบ
เพียงแค่บทสนทนาไม่กี่นาที ที่ได้คุยกับพี่ไสว ก็ทำให้ได้เห็นเรื่องเล่าความภาคภูมิใจของคนขับแท็กซี่ 1 คน ที่ยังทำงานอย่างมีความสุข
แล้วคุณล่ะครับ ทำงานปัจจุบันมากี่ปีแล้ว
หากรู้สึกเบื่อกับการทำงานแบบเดิมๆ ก็อย่าลืมนึกถึงเรื่องเล่าของพี่ไสว นะครับ
เผื่อจะได้วิธีการทำงานแบบใหม่ อย่างมีความสุขครับ.
แท๊กซี่ส่วนใหญ่จะรอบรู้นะคะ เพราะเขาฟังข่าวสารบ้านเมืองตลอดเวลา
ใช่ครับ อ.จันทวรรณพูดถูก
มีหนังอยู่เรื่องหนึ่งที่ผมดูเรื่อง "เฉิ่ม" แสดงนำโดยหม่ำ จ๊กมก
เขามีความสุขกับการขับแท็กซี่ของเขามาก และก็หลงไหนในเสียงเพลงลูกทุ่ง ในรายการวิทยุลูกทุงสมัยเก่าๆ ที่มีครูเพลงร้องเพลงไพเราะเสนาะหู (ฟังเพลงไปขับรถไป และบริการดีมาก)
ผมนึกแล้ว ตอนนั้นก็อยากเป็นคนขับแท็กซี่มากเลยครับ
เพราะนอกจากในหนัง จะใช้พระเอก ถ่ายทอดโดยคนขับแท็กซี่ให้คนดู รู้ว่า นอกจากความสุขของคนขับแท็กซี่คืออะไรแล้ว ยังบอกเป็นนัยๆว่า
อาชีพแท็กซี่ เป็นอาชีพที่มีความรอบรู้พอสมควร เพราะฟังบ่อย (จากวิทยุ จากผู้โดยสาร ฯลฯ) และยังไม่ได้อยู่กับที่ ขับไปโน่น เจอไอ้นี่ มากมาย ...
จนกระทั่งวันนี้ผมได้มีโอกาสคุยกับ คนขับแท็กซี่ตัวจริง ทำให้ผมหวนนึกถึงหนังเรื่อง "เฉิ่ม" อีกครั้ง และก็เห็นความสุขของคนขับแท็กซี่ ที่ขับมานานถึง 21 ปี เล่าเรื่องราวของเขาให้ผมฟังอย่างมีความสุข
....เสียดายถ้ามีเวลามากกว่านี้ หรือมีโอกาสได้เจอพี่ไสวอีกทีคงมีโอกาสได้คุยกันอีกมากกว่านี้ (ยังคุยได้ไม่จุใจเลย ..)
เพราะรู้สึกว่าพี่เขาคุยสนุก เป็นมิตร ไม่อารมณ์เสียเหมือนแท็กซี่คนอื่นๆ และที่สำคัญเต็มใจให้บริการด้วย.
วันนี้เจอ Taxi ไม่ดีมา มาไล่ๆ อ่าน รู้สึกดี ที่ยังพอมีเรื่องดีๆ อยู่บ้าง