อีกครั้งหนึ่งสำหรับผู้ป่วยฆ่าตัวตาย ผู้ป่วยหญิง อายุ 23 ปี รายหนึ่งมาที่ห้องฉุกเฉินด้วยใช้ขวดกรีดข้อมือตัวเอง ได้กลิ่นแอลกอฮอล์ จากการซักประวัติพบว่าผู้ป่วยทะเลาะกับสามีจะแยกทาง และมีปัญหาแย่งบุตรชายกัน หลังจากทำแผลเรียบร้อยผู้ป่วยกลับบ้านไปโดยไม่รอตรวจรักษาจากแพทย์ หลังจากนั้น ½ ชั่วโมงสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น มีเจ้าหน้าที่พบผู้ป่วยนั่งอยู่ริมระเบียงตึก 4 ชั้นขู่จะกระโดดตึก สถานการณ์นี้ถือเป็นวิกฤตจิตเวชที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น กระบวนการเจรจาต่อรองจึงเกิดขึ้นทันทีพร้อมๆกับการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและนอกโรงพยาบาล ผู้ป่วยต้องการพบลูก พยาบาลจึงเกลี้ยกล่อมให้คุยโทรศัพท์กับสามีและจับตัวไว้ได้ในที่สุด เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ไม่มีการบาดเจ็บและเสียชีวิต แต่เป็นบทเรียนที่เราต้องกลับมาวิเคราะห์การทำงาน ประเมินผล และนำมาพัฒนาแนวทางการดูแลผู้ป่วยทำร้ายตัวเองตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นถึงกระบวนการสุดท้ายในการดูแลผู้ป่วย
การที่ผู้ป่วย 1 คน ทำร้ายตนเองด้วยการกรีดข้อมือ สิ่งที่ผู้ป่วยอยากจะบอกกับเราคือเขามีความทุกข์ เจ็บปวดในใจมากจนเขาไม่สามารถทนไหว ต้องหาทางวิธีการถ่ายโอนความรู้สึกมาที่ร่างกายแทนโดยการทำร้ายตนเอง มีโอกาสเสี่ยงต่อการทำร้ายตัวเองที่รุนแรงขึ้นจนถึงเสียชีวิต ในฐานะแพทย์ พยาบาลหรือเจ้าหน้าที่ที่พบผู้ป่วยควรดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ให้ผู้ป่วยมีโอกาสระบายความรู้สึก มีการประเมินปัญหาและความเสี่ยงในการทำร้ายตัวเองซ้ำ ให้การตรวจรักษาพยาบาลโดยปราศจากอคติ กรณีที่ผู้ป่วยกำลังจะกระโดดตึก การประเมินสภาพผู้ป่วย กระบวนการเจรจาต่อรอง การประสานที่มีประสิทธิภาพ และความพร้อมของเจ้าหน้าที่ เป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จเราทุกคนคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก แต่ถ้าเกิดอีกครั้งเราก็คาดหวังว่าจะสามารถจัดการด้วยทุกกระบวนการอย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายสูงสุดคือผู้ป่วยปลอดภัย
เป็นเรื่องที่ดีที่มีการเล่าประสบการณ์ให้ได้ใช้เป็นบทเรียนเผื่อที่อื่นมีปัญหาเกิดขึ้นจะได้ใช้เป็นแนวทางจัดการ