ความเป็นผู้นำของคน ลักษณ์ 4 (คนโศกซึ้ง)


คนลักษณ์ 4 มีศักยภาพพิเศษ ที่คนอื่นๆ ยากจะเข้าถึง คือ เป็นคนที่มีความเข้มข้นทางอารมณ์ค่อนข้างมาก
 

ลักษณ์ 4 มีชื่อเรียกว่า คนโศกซึ้ง (The tragic Romantic) บุคลิกภาพภายนอกคนลักษณ์ 4 ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์แบบศิลปิน ช่างจินตนาการ เห็นง่ายๆ จากการแต่งกายที่มีบางอย่างแปลกตา คนลักษณ์ 4 ต้องการแสดงความรู้สึกออกมา และอยากให้คนอื่นมองว่าตนเองเป็นคนพิเศษ แสวงหาความหมายของชีวิต

 

ลักษณ์ 4 อยู่ในศูนย์ใจ พลังใจของคนลักษณ์ 4 แตกต่างจากคนลักษณ์ 2 ที่ใช้ใจในการเอาชนะใจคนอื่น ให้คนอื่นยอมรับว่าตนเป็นคนน่ารัก และแตกต่างจากคนลักษณ์ 3 ซึ่งใช้พลังใจผลักดันงาน เพื่อไปสู่เป้าหมาย

 

การใช้ภาพลักษณ์ของคนลักษณ์ 4 เป็นไปในทางที่ทำให้ตนเองเศร้า คือ มักมองคนอื่นว่ามีความเป็นอุดมคติมากกว่าตนเอง ดีกว่าตนเอง สมบูรณ์แบบกว่าตนเอง คนลักษณ์ 4 จึงมีแรงจูงใจอยู่ที่การหลีกเลี่ยงความสามัญธรรมดา ต้องทำอะไรที่พิเศษกว่าคนอื่นอยู่ตลอดเวลา หรือต้องลึกซึ้งกว่าคนอื่น อันเป็นที่มาของความคิดสร้างสรรค์จำนวนมาก 

 

คนลักษณ์ 4 มีศักยภาพพิเศษ ที่คนอื่นๆ ยากจะเข้าถึง คือ เป็นคนที่มีความเข้มข้นทางอารมณ์ค่อนข้างมาก

ผู้นำลักษณ์ 4 มักจะมีส่วนที่คนอื่นชื่นชอบคือ มีความเข้าอกเข้าใจทีมงานหรือลูกน้องอย่างลึกซึ้งและจริงใจ ให้ความสำคัญกับคนมากกว่าผลงาน มีสุนทรียะในการทำงาน สร้างบรรยากาศในการทำงานให้รื่นรมย์และแตกต่างจากที่อื่นๆ ที่ผู้นำลักษณ์ 4 ให้ค่าว่า ธรรมดา

 

แต่ผู้นำลักษณ์ 4 ที่ไม่ค่อยรู้ตัว มักจะมีบุคลิกลักษณะที่คนอื่นไม่ชอบคือ เป็นคนเจ้าอารมณ์ อารมณ์อ่อนไหวง่าย ขึ้นๆ ลงๆ ยากที่คนอื่นจะเข้าใจ และชอบทำตัวแตกต่าง ทำตัวให้เกิดความพิเศษอย่างไม่จำเป็น

 

ในใจลึกๆ ของผู้นำลักษณ์ 4 คือ ฉันมีความพิเศษ แตกต่าง ผลงานของฉันโดดเด่นไม่เหมือนใคร เราจึงพบว่าคนลักษณ์ 4 จะนำเสนองานโดยที่จะไม่ถ่ายทอดงานอย่างแห้งแล้งแต่ข้อเท็จจริงแบบคนลักษณ์ 5 แต่จะเต็มไปด้วยอารมณ์ ความรู้สึกในงานนั้นๆ รูปแบบการนำเสนองานจะมีความเฉพาะตัว

 

สุภาพสตรีวัยใกล้ 50 เจ้าของกิจการบริษัทที่ปรึกษาและโปรดักชั่นเฮ้าส์ แห่งหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ตอนสาวๆ รับงาน Event แต่ละครั้งจะต้องดิ้นรนเป็นอย่างมากที่จะหาจุดที่แตกต่างจากที่บริษัทอื่นๆ ทำ แม้ไม่ได้หลับไม่ได้นอนก็ยอม บางครั้งลูกค้าบอกว่าพอใจในงานแล้ว แต่ตัวเองยังไม่พอใจก็ยังต้องเดินหน้าทำต่อ และพบว่าลูกค้าส่วนมากก็พอใจกับงานระดับมาตรฐานทั่วๆ ไปที่บริษัทอื่นเขาทำกัน มีแต่ตัวเองนั่นแหละที่ติ้นรนให้เกิดความพิเศษ จนลูกน้องไม่ได้หลับไม่ได้นอน สั่งรื้อใหม่ ทำใหม่อยู่บ่อยๆ สรุปแล้วด้วยความเป็นลักษณ์ 4 ของตนเองนั่นแหละที่ทำให้เกิดทุกข์ทั้งกับตนเองและผู้อื่น แต่ก็มีข้อดีคือ ลูกค้าชื่นชมในผลงานที่โดดเด่นเกินความคาดหมาย

 

เธอบอกอีกว่า เมื่อรู้ตัวก็ปรับสมดุลให้กับตัวเองได้ว่าควรจะทำในระดับใด ที่จะไม่เป็นทุกข์ทั้งกับตนเองและทีมงาน การเห็นลักษณ์ของตนเองทำงาน (กลไกทางจิตแบบลักษณ์ 4) ก็มีข้อดีที่จะลดความทุกข์

 

แต่ก็พบว่าความยากในการข้ามพ้นทุกข์ของผู้นำลักษณ์ 4 คือ การฝึกที่จะเป็นคนธรรมดา อยู่อย่างคนธรรมดา ที่ไม่ต้องแสวงหาความแตกต่าง หรือความพิเศษ เพื่อให้พบกับภาพลักษณ์ในอุดมคติ โดยการอยู่กับความเป็นจริงในปัจจุบัน โดยไม่ปรุงแต่ง (การที่ต้องพิเศษในทางพุทธเรียกอาการทำนองนี้ว่า การปรุงแต่งของจิต) เป็นเรื่องที่ต้องฝึกหนักพอสมควร

 เราอาจจะเข้าใจผู้นำลักษณ์ 4 ได้จากบทกลอนข้างล่าง ผู้เขียนขอขอบคุณผู้ประพันธ์ คือคุณสุขจิต ศรีสุคนธ์ และคุณอุดร จิตต์เจริญ 

โลกลึกซึ้ง โลกซับซ้อน เราสร้างสรรค์

สิทธิพิเศษ เราเท่านั้นที่เข้าท่า

เบื่อคนตื้น ความเกลื่อนกลาด ดาษดา

ทำไมหนอ ไม่เห็นค่า ไม่เข้าใจ

 

เศร้าหรือสุข แยกไม่ออก บอกไม่ถูก

สุขหรือทุกข์ ทรมาน หวานใช้ได้

ชีวิตไม่มีรส คงหมดใจ

อาจจะไม่มีเรา.. ว้า..เศร้าจัง

 

ถอดแว่นโศก โลกสีเทา เราคงหวั่น

แค่ลองนึก ก็ไม่มัน ไม่มีหวัง

ไม่กล้าปล่อย ไม่กล้าไป ใจเหนี่ยวรั้ง

กลัวจะพลั้ง พลาดช้ำ ธรรมดา

 

ถอดแว่นโศก โลกสีเปลี่ยน คล้ายว่างเปล่า

ก็นิ่งๆ แต่ไม่เหงา เหมือนเข้าท่า

ลองหัดอยู่ในความธรรมดา

ยังไม่คุ้น แต่คล้ายว่า ไม่แย่นัก

 

สไตล์การทำงานของผู้นำลักษณ์ 4 อาจจะดูยากสักหน่อย อิทธิพลของปีก อาจจะทำให้เห็นสไตล์ได้มากกว่า เช่น ผู้นำลักษณ์ 4 ที่มีปีก 3 จะมีความมุ่งเน้นในผลงานหรือเป้าหมายที่ชัดเจน และขับเคลื่อนองค์กรด้วยคำว่า ประสิทธิภาพ มากกว่าผู้นำลักษณ์ 4 ปีก 5 ซึ่งจะบริหารงานด้วยข้อมูลมากกว่า และมีความหนืดในการขับเคลื่อนหรือการบริหารองค์กร และจะมีสไตล์เป็นศิลปินเดี่ยวมากกว่าที่จะสามารถทำงานเป็นทีมได้

 

ศักยภาพพิเศษของผู้นำลักษณ์ 4 คือ ความสามารถในการอ่านใจคนออกโดยไม่ต้องใช้คำพูด (ใช้พลังใจไปสัมผัสโดยตรงกับอารมณ์ และความรู้สึกของคนอื่น) เป็นเรื่องที่ยากที่ผู้นำลักษณ์อื่นจะทำได้

ศักยภาพแบบนี้ที่จริงมีอยู่ในคนทุกคน แต่คนลักษณ์อื่นๆ มองข้าม และไม่เคยใช้มันมาตลอดชีวิต จึงทำไม่เป็น

ผู้เขียนเคยนั่งสบตาคนลักษณ์ 4 แล้วส่งความรู้สึกออกไปเป็นคำพูดในใจ โดยไม่ได้เอ่ยปากพูดไปเลยสักคำเดียว แล้วถามเธอว่ารู้ไหมว่าผู้เขียนส่งอารมณ์ความรู้สึกอะไรไปให้ เธอพูดได้แทบจะเลียนประโยคที่ส่งไปได้แบบที่เรียกว่า คำต่อคำ ทีเดียว  งานนี้ผู้เขียนรู้ซึ้งถึงคำว่า ดวงตา เป็นหน้าต่างของหัวใจ ทีเดียวแหละ เพราะว่าถ้าให้ตัวเองทำ คงทำไม่ได้อย่างแน่นอน (เป็นผู้ส่งได้ แต่เป็นผู้รับที่แย่มากๆ เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนลักษณ์ 5 ที่หลีกหนีเรื่องอารมณ์มาตั้งแต่เด็กๆ....แล้วค่อยทำความรู้จักลักษณ์ 5 ในตอนต่อๆ ไปค่ะ)
ข้อความที่เกี่ยวข้อง
ความเป็นผู้นำของคน 9 ลักษณ์  http://gotoknow.org/blog/nujjin/121322
ความเป็นผู้นำของคนลักษณ์ 9   http://gotoknow.org/blog/nujjin/121569
ความเป็นผู้นำของคนลักษณ์  8 http://gotoknow.org/blog/nujjin/122504
ความเป็นผู้นำของคนลักษณ์ 1 http://gotoknow.org/blog/nujjin/122771
ความเป็นผู้นำของคนลักษณ์ 3 http://gotoknow.org/blog/nujjin/123139

ความเป็นผู้นำของคนลักษณ์ 2

http://gotoknow.org/blog/nujjin/124694

 

หมายเลขบันทึก: 124928เขียนเมื่อ 4 กันยายน 2007 14:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 10:44 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

สวัสดีคะคุณลักษณ์ 5 จากคนลักษณ์ 4 ที่มักชอบแหย่คนลักษณ์ 5 ให้รำคาญใจบ่อยๆ (ที่ทำงานมีพี่ลักษณ์ 5 แจ่มๆอยู่คนหนึ่งคะ) ชอบแกล้งพี่เขาสนุกดี

ยินดีที่รู้จักค่ะ

เข้ามาแหย่ดิฉันมั่งก็ได้นะคะ....

ดิฉันก็มีเพื่อนซี้มากๆๆๆ ตั้งแต่สมัยเรียนปริญญาตรี เป็นลักษณ์ 4 ค่ะ...... ไม่ต้องพูดกันมากก็เข้าใจกันได้ดีค่ะ..... ถูกจริตคน 5

ดิฉันว่า บางเรื่องเธอเข้าใจความรู้สึกดีกว่าตัวดิฉันเสียอีกค่ะ .. มหัศจรรย์มาก (ก่อนทีจะรู้จักนพลักษณ์)

ตามมาอ่านขบทความของพี่นุชครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท