เมื่อวันที่ 22 – 24 สิงหาคม 2550 ผมได้รับโจทย์ร้อน ๆ จากศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดชุมพรให้ช่วยจัดการฝึกอบรม เรื่อง โครงการพัฒนาบุคลากรเพื่อวิเคราะห์ Competency กลุ่มเป้าหมายคือ พนักงานของสถานประกอบการและบุคลากรภาครัฐ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้มีความรู้ ความสามารถ ในการวิเคราะห์ตำแหน่งงาน และการพัฒนาบุคลากรในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กำหนดการซึ่งแสดงหัวข้อการฝึกอบรม และเอกสารพิมพ์จากไฟล์ PowerPoint ที่ได้รับมาปึกใหญ่ ไม่ได้ให้ความชัดเจนในการทำงาน พลิกอ่านไปมา 2-3 รอบ ก็เกิดความรู้สึกว่า นี่ถ้าต้องสอนตามนี้ทั้งหมดคงจะเกิดอาการที่ผมเรียกว่า “บ้าใบ” คือ อบ – รม – บ่ม – เพาะ กันไป แต่สุดท้ายไม่ทำให้เกิดดอก ออกผล ออกแต่ใบให้เห็นเขียว ๆ กันอย่างเดียว
อาการ “บ้าใบ” ยังติดตามมาเมื่อเข้าไปค้นหาและ Download เอกสารการฝึกอบรมของหน่วยงานราชการต่าง ๆ ทางอินเตอร์เน็ท มีแต่คำอธิบายความหมายของ Competency, DACUM ที่แปลมาจากตำราวิชาการ (ทั้งดุ้น) ตามมาด้วยแผนภาพ Diagram ที่สลับซับซ้อน โยงไปโยงมาน่าเวียนหัว นึกถึงภาพที่ท่านเหล่านั้นกำลังอธิบาย คงจะ “อวดอ้าง” (Show & Reference) กันมันส์ปาก ฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง เพราะท่านพูดไทยคำ อังกฤษห้าคำ เป็นการแสดงออกถึงความเก่งกาจสามารถในแบบที่เราเคยชิน
แต่ในเวทีระดับ “ผู้ปฏิบัติ” หลับแน่นอน...ถ้าไม่สามารถดึงการมีส่วนร่วมและสร้างความน่าสนใจให้เกิดขึ้นได้จริง ผมจึงตัดสินใจขออนุญาตเจ้าของโครงการฯ ปรับเปลี่ยนรูปแบบ วิธีการฝึกอบรมเสียใหม่ พร้อมทั้งให้สัญญาว่า จะพาไปให้ถึงความรู้ ความเข้าใจ และสร้างความสามารถในการวิเคราะห์ Competency & DACUM ออกมาเป็นผลสำเร็จให้จงได้ โดยผมจะเน้นหนักในการทำ Workshop กันเป็นหลัก ให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นพระเอก-นางเอก แสดงออกกันอย่างเต็มที่ บนพื้นฐานของความเชื่อที่ว่า “ความรู้อยู่ที่ผู้ปฏิบัติ”
วันแรกผมเริ่มต้นด้วยการบรรยาย เรื่อง “บริหารชีวิต-บริหารคุณธรรม” โดยใช้เทคนิค เรื่องเล่าเร้าพลัง (Storytelling) จากประวัติชีวิตของผู้ใหญ่วิบูลย์ เข็มเฉลิม, พี่เลี่ยม บุตรจันทา ฯลฯ เพื่อให้ตระหนักในคุณค่าของทุนความรู้ ทุนมนุษย์ ทุนทางสังคมในองค์กร พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้เรียนออกมานำเสนอผลการวิเคราะห์ “งบดุลชีวิต” ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการเอาไปใช้ประโยชน์ได้จริง
จากนั้นจึงเข้าสู่เนื้อหาหลัก โดยใช้รูปแบบการบรรยายเนื้อหา 20% และการแบ่งกลุ่มทำ Workshop ตามประเด็นที่ถูกออกแบบมา 80% ตลอดการฝึกอบรมเราสนุกกับ Workshop ใหม่ ๆ กันถึง 5 ครั้ง ดังนี้
การออกแบบกระบวนการฝึกอบรมลักษณะนี้แน่นอนว่าความยากอยู่ที่การเตรียมการ เพราะต้องเชื่อมโยงเอาสาระหลักทางวิชาการออกมาสู่การเรียนรู้โดยเน้นหนักที่ตัวผู้เรียนเป็นสำคัญ เนื้อหาและกระบวนการปฏิบัติจะต้องไปกันได้กับพื้นฐานของผู้เรียนด้วย และที่สำคัญที่สุดก็คือ การสร้างบรรยากาศแห่งการ “แลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันเป็นทีม” (Team Learning) จะเป็นตัวร้อยรัด เชื่อมโยง ให้เวทีของการฝึกอบรมพัฒนาไปสู่ การเป็น “สนามพลังแห่งความคิดสร้างสรรค์”.
ติดตามเนื้อหาและภาพของการฝึกอบรม Competnecy ครั้งนี้ได้ที่เว็บไซต์ www.chumol.com
ไม่มีความเห็น