วิทยาลัยชุมชนเกิดจากการที่สังคมไทยยังมีความเหลื่อมล้ำมทางด้านเศรษฐกิจสังคมและการศึกษา ส่งผลให้ประชาชนในหลายพื้นที่ขาดโอกาสทางการศึกษาหรือด้อยโอกาสในการเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษา ขาดแคลนที่ทางทำมาหากิน ต้องทิ้งถิ่นฐานบ้านช่องไปหากินที่อื่น ชุมชอ่อนแอลง ขาดการพัฒนา เพื่อให้ประชาชนได้รับโอกาสเท่าเทียมกันที่จะเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต
โดยยึดหลักการตามนโยบาย "การศึกษาสร้างชาติ สร้างคน สร้างงาน" รัฐบาลจึงได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2544 ด้านการศึกษาข้อ 4 ที่ว่า จัดให้มีวิทยาลัยชุมชนขึ้นโดยเฉพาะจังหวัดที่ขาดแคลนสถาบันอุดมศึกษา เพื่อเด็กที่จบมัธยมศึกษาแต่ไม่สามารถต่ออุดมศึกษาที่มีอยู่ได้ อาจจากความยากจน ความไม่สะดวกในการเดินทางหรือต้องประกอบอาชีพหรือคนที่มีอาชีพแล้วแต่ต้องการหาความรู้เพิ่มเติม เพิ่มทักษะอาชีพหรือเพิ่มทักษะชีวิตโดยเสียค่าเล่าเรียนหรือค่าหน่วยกิตไม่แพง
วิทยาลัยชุมชนทั้ง 17 แห่ง ประกอบด้วย(อาจหายไปบางแห่งเพราะความจำของผมอาจลดลงไปบ้าง) วิทยาลัยชุมชนแม่ฮ่องสอน ตาก พิจิตร หนองบัวลำภู บุรีรัมย์ มุกดาหาร สระแก้ว อุทัยธานี ระนอง นราธิวาส ปัตตานี ยโสธร (ที่เหลือจำไม่ได้แล้วครับ) หาอ่านได้จากหนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันที่ 12-13 มกราคมครับ
บริหารงานโดยสภาวิทยาลัยชุมชน มีการสรรหาผู้อำนวยการตามวาระ มีสภาวิชาการช่วยดูแลในเรื่องหลักสูตรและคุณภาพการศึกษา
ในการจัดตั้งได้มีทีมงานไปดูงานที่สหรัฐอเมริกา ที่มีจำนวนวิทยาลัยชุมชนจำนวนมาก เสียค่าเรียนหน่วยกิตละ 1 เหรียญ อาจารย์หมอเกษม วัฒนชัย ซึ่งมีส่วนร่วมในการผลักดันสมัยที่ท่านเป็น รมว.0 ศึกษาฯ กล่าวว่าอเมริกามีวิทยาลัยชุมชนจำนวนมากและบุคคลสำคัญของบ้านเราหลายคนก็จบจากวิทยาลัยชุมชนในอเมริกา
เพิ่มเติมครับ มีวิทยาลัยชุมชนที่ตราด ด้วย
ข่าวแจ้งว่าที่ระนองจะเปิดอนุปริญญาการส่งเสริมสุขภาพสำหรับผู้สูงอายุ ที่มุกดาหารจะเปิดผู้ช่วยเภสัชกรและที่แม่ฮ่องสอนจะเปิดบริการการแพทย์ฉุกเฉิน ในปี 2549 นี้ครับ