ผมเป็นครูพละมา 28 ปี ได้ทำหน้าที่สอนและฝึกฝนนักกรีฑา
จากประสบการณ์การสร้างนักกรีฑา ทำให้ผมได้มองเห็นว่านักกรีฑา
บางคนมีพรสวรรค์แต่ไม่มีพรแสวง ซึ่งคนเหล่านี้ก็คงจะไปได้ไม่
ไกลนักในวงการกีฬา ผิดกับบางคนที่ดูแล้วช่างน่าสงสารนัก คือ มี
พรแสวงแต่ไม่มีพรสวรรค์ ถึงจะขยันซักเท่าไหร่ก็ไปได้ไม่ค่อยไกล
เช่นกัน พรสวรรค์ก็เหมือนกับของมีค่าชิ้นหนึ่ง ซึ่งถ้าเราไม่นำมันไปใช้
ก็คงจะเกิดคุณค่าอะไรไม่ได้ แต่หากถ้าเรารู้จักใช้มันอย่างถูกวิธีก็คงจะ
ทำประโยชน์ให้มากมาย อีกทั้งถ้าเราบวกพรแสวงเข้าไปกับมันด้วย
แล้ว จะทำอะไรก็คงพบกับความสำเร็จอย่างง่ายดายเหมือนกับนกที่มี
ปีกจะบินไปไหนก็ได้ตามใจต้องการ คนเราเกิดมาเหมือนกัน อยู่บน
โลกเดียวกัน จะต่างกันก็แค่พรสวรรค์ที่ติดตัวมา พรสวรรค์ของใครจะ
เด่นกว่าของใคร ก็ขึ้นอยู่กับคนคนนั้นว่าจะนำมันไปใช้ได้อย่างถูกวิธี
ถูกที่หรือถูกเวลาหรือไม่ ในเมื่อเราได้ทราบแล้วว่าพรสวรรค์ของตน
เองคืออะไร ก็ควรจะพัฒนาศักยภาพของมันให้ดีขึ้น เพียงเท่านี้
อนาคตที่วาดฝันไว้ก็คงไม่ไกลเกินไปที่มือของมนุษย์จะเอื้อมไป
เก็บมา
!!!Fighting!!!
พรสวรรค์น่าจะหมายถึง ยีนหรือพันธุกรรม ในขณะที่พรแสวงน่าจะหมายถึง สภาพแวดล้อมหรือประสบการณ์ คนเราหรือสิ่งมีชีวิตใดๆก็ตาม จะเป็นอะไร ทำได้แค่ไหน ขึ้นอยู่กับ 2 สิ่งนี้ ยีนกับประสบการณ์ ยิ่งสังคมปัจจุบันแข่งขันสูงขึ้น ผู้(จะ)ชนะต้องพยายามมากขึ้น ต้องดีกว่าคนอื่น ไม่ดีกว่าก็แพ้ จะชนะ-จะดีกว่าได้อย่างไร? พรสวรรค์ที่พ่อแม่มอบให้ก็ไม่ค่อยมี แล้วจะเอาอะไรไปสู้เขา ที่เป็นไปได้ เห็นอยู่อย่างเดียว คือ ความขยัน(พรแสวง) ต้องเอาความขยันเข้าสู้ จึงจะมีโอกาส ยิ่งใครมีพรสวรรค์ที่สูงอยู่แล้ว อะไรๆ ก็ง่ายเข้า...เห็นด้วยครับ!
"พรสวรรค์ต้องมาคู่กับขยัน" จึงจะได้ผล ^_^