ผมได้เรียนรู้เรื่องปรากฏการณ์ของการเปลี่ยนแปลง หรือ change management นี้จากการประชุม R2R ที่ศิริราช เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 50 จากคำพูดของ ศ. นพ. ธาดา ยิบอินซอย ครูที่ผมเคารพที่สุดคนหนึ่งของผม ผมได้ลงบันทึกเล่าการประชุมนี้เมื่อวาน
จากการพูดคุยทำความเข้าใจผลสัมฤทธิ์ของโครงการ R2R ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา และยุทธศาสตร์การทำงานในช่วง 3 ปีต่อไป
ผมชี้ให้ที่ประชุมเห็นว่า โครงการ R2R ได้เข้าไปทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนศิริราช จากการเป็น service – based organization ไปสู่ research – based organization หรือ innovation – based organization ซึ่งจะต้องมีการเปลี่ยนวัฒนธรรมองค์กร มีการเปลี่ยนเป้าหมายความสำเร็จขององค์กรและตัวบุคคล ในลักษณะของการเปลี่ยนแบบก้าวกระโดด เปลี่ยนในระดับ paradigm shift
แต่ ศ. นพ. ธาดา ยิบอินซอย มองต่าง ท่านไม่มองโครงการ R2R ว่ามีเป้าหมายสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด แต่มองว่าเป็นการสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบค่อยเป็นค่อยไป (evolutionary change)
ทำให้ผมนึกออก ว่าผมเป็นคนที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า split personality คล้ายๆ คิดอย่างแต่ทำอีกอย่าง คือผมจะทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงในระดับเปลี่ยนภพภูมิ (new order) หรือเปลี่ยนกระบวนทัศน์ แล้วหาทางดำเนินการไปสู่เป้าหมายนั้น โดยมีเป้าหมายความสำเร็จเล็กๆ ทีละน้อยๆ ไม่หวังก้าวกระโดด แต่ก็เชื่อว่าถ้ามุ่งมั่นหมั่นเพียรดำเนินการไปสู่จุดมุ่งหมายนั้น สักวันหนึ่งจะเกิด “การก้าวกระโดด” ขึ้นเอง จากกระบวนการ complexity
ดังนั้นผมจึงเห็นด้วย กับ ศ. นพ. ธาดา ว่า เราไม่ควรมุ่งดำเนินการเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด เราควรอยู่กับความเป็นจริง ว่าการดำเนินการสร้างการเปลี่ยนแปลงนั้น เราดำเนินการได้แค่การปลี่ยนแปลงเล็กๆ จำนวนมาก ส่วนการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดนั้น หากมันจะเกิดขึ้น มันจะเป็นการเกิดขึ้นเพราะองค์ประกอบครบถ้วน มากกว่าที่จะมีใครไปบันดาลให้เกิดได้โดยตรง
วิจารณ์ พานิช
6 ก.ค. 50
ไม่มีความเห็น