Mind & Spiritual <63> : ชนะแบบเกือบแพ้น๊อค


 

หลังจากช่วงสามสี่วันที่ผ่านมาดิฉัน...ผ่านการทำงาน(ภายใน)อย่างหนัก... เหน็ดเหนื่อย อาศัยคำสอนของครูบาอาจารย์ที่ท่านให้สติว่า อดทนและเพียร... ตลอดรวมถึงแบบอย่างแห่งการต่อสู้ของครูบาอาจารย์ ทำให้สามารถผ่านพ้น... แบบทดสอบมาได้อีกครั้ง อย่างสาหัสสากรรณ์... ยกนี้ของชีวิต ดิฉันถือว่า ... เป็นมวยที่ชนะเกือบแบบแพ้น๊อค... หมายถึง ตัวเองนั้นเกือบแพ้แล้ว... อาศัยครูผู้เป็นโค้ช ที่ท่านไม่ยอมให้แพ้...

 

.....

อาจเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก หรืออาจเข้าใจได้ง่าย แต่...เมื่อใครที่ยอมถอดและถอนความเป็นทุกสิ่งกระโดดเข้าร่วมสนามรบ ... แห่งจิตใจนี้ ย่อมจะต้องมีประสบการณ์ที่แทบเอาชีวิตไม่รอด แต่ก็ถอยไม่ได้ ยอมแพ้ก็ไม่ได้ ... หากยอมก็ต้องยอมไปอีกกี่กัปกี่กัลป์...ไม่อาจรู้ได้

 

ประสบการณ์ทาง ธรรมะชาติ ครั้งนี้... ถูกจู่โจมอย่างกระหน่ำหนัก

มือที่แข็งแรง... จิตวิญญาณที่มุ่งมั่นแน่วแน่... และความเมตตาของครูบาอาจารย์... ต่างช่วยให้ผ่านศึกรบหรือเวทีการต่อสู้ครั้งนี้มาได้ แบบสะบักสะบอมพอสมควร...

 

สติ... อีกครั้ง และเพียรทุกลมหายใจ

เพื่อเตรียม...ศึกครั้งต่อไปอีกครั้ง...

 

โตขึ้นและแกร่งขึ้น... อีกก้าวบนเส้นทางนี้

  
หมายเลขบันทึก: 116042เขียนเมื่อ 1 สิงหาคม 2007 11:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2013 13:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีครับ

  • ยินดีด้วยครับที่ชนะใจ
  • ไม่ทราบว่าคุณ Ka-Poom เคยเป็นไหมครับ คล้ายๆกับย้ำคิด แต่ไม่ใช่ เพราะเราได้คำตอบจากภายใน คือ หลายครั้งผมรู้สึกว่าที่ผ่านมาได้เพราะครูบาอาจารย์ แต่พิจารณาดีๆเป็นเพราะกำลังใจของเราเอง แต่พิจารณาอีกทีก็มาจากครูบาอาจารย์

สวัสดีค่ะ...P

กะปุ๋มไปอ่านเจองานเขียนของคุณวิจักษณ์ (บุตรชายท่าน อ.หมอวิจารย์) เขียนไว้ว่า

ครูบาอาจารย์ที่แท้ คือ บุคคลที่กำลังย่างก้าวบนเส้นทางแห่งการฝึกตนด้วยตัวของเขาเอง

เมื่อคุณเลือกที่จะฝากตัวเป็นศิษย์กับอาจารย์ท่านใด คุณหาได้กำลังเอาตัวเองไปผูกติดเพื่อรับคำสอนหรือข้อมูลอันเดียวที่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นที่ได้รับเมื่อวาน วันนี้ หรือพรุ่งนี้ คำสอนที่ดูเหมือนคุณจะเป็นเจ้าของได้นั้นแสดงถึงวิถีทางของวัตถุนิยมทางจิตวิญญาณ อันแสดงถึงมิจฉาทิฐิในตัวของอาจารย์ท่านนั้น

ทางที่ถูก คุณจะต้องร่วมเดินทางไปกับอาจารย์บนเส้นทางสายที่ท่านกำลังเดินอยู่ เข้าสู่กระบวนการที่เป็นพลวัต ไม่หยุดนิ่ง ในชีวิตของท่าน

ในการฝึกฝนเรียนรู้กับอาจารย์ คุณหาได้กำลังเรียนรู้ "บางสิ่ง" แต่กลับเป็นเรื่องง่ายๆอย่าง "เรียนรู้ที่จะเป็น" อันเป็นกระบวนการที่เจ็บปวดอย่างค่อยๆเป็นค่อยๆไป

..โดยการเดินทางนี้มีเป้าหมายเดียว คือ การเผชิญหน้ากับความไม่รู้ในทุกๆย่างก้าว ไปพร้อมๆกับอาจารย์ของคุณ ๛
........
คำตอบภายใน...นั้นมักได้มาจากการที่เราเรียนรู้และหมั่นเพียรและเรียนรู้นั้นอยู่เสมอ...โดยมีครูบาอาจารย์...เป็นโค้ช...คอยตะล่อมเราให้กลับมาถูกทาง
ขอบคุณนะคะที่แวะมาคุยด้วยค่ะ
(^______^)
กะปุ๋ม

กำลังฝึกตนเองเหมือนกัน เพื่อศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้า และเผอิญ มีกัลยาณมิตรทางnet เลยรู้สึกดี และทำให้การปฎิบัติก้าวหน้าพอสมควรค่ะ แลกเปลี่ยนกันได้ค่ะ

กำลังฝึกตน เพื่อศึกษาธรรมของพระพุทธเจ้า โดยมีกัลยาณมิตรพี่เลี้ยงทางnet รู้สึกว่าปฎิบัติก้าวหน้าขึ้น แลกเปลี่ยกันได้ค่ะ

สวัสดีค่ะ...คุณ

P

ตามเส้นทาง...การปฏิบัติหากมีกัลยาณมิตร...ร่วมเดินทางกันไปนี่..ถือว่าเป็น...สิ่งที่ดียิ่งมากเลยนะคะ...ได้แวะเข้าไปอ่านใน Blog ของคุณตันติราพันธ์ด้วยค่ะ...

ขอนุโมทนา...สาธุต่อการปฏิบัติสิ่งที่ดีงามนี้ด้วยค่ะ

(^____^)

กะปุ๋ม

สวัสดีจ้า

  • เป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ
  • และมองว่าคนฝึกสติเป็นประจำย่อมได้เปรียบกว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น : )

 

อาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นช่วงที่แย่มากๆเพราะกระแสที่ถูกเข้าใจผิดในสิ่งที่พี่ไม่ได้ทำพอดีคิดถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่เคยอ่านนานมากแล้ว

เรื่องอยู่กับคน....สุนัขตัวหนึ่งนอนอย่ข้างถนนอาบแดดยามเช้าทันใดมันก็พรวดพราดลุกขึ้นหยัดยยืน4เท้าหันซ้ายหันขวาไม่มีใครหรืออะไรอยู่ใกล้ๆตัวมันแม้สักสิ่งประเดี๋ยวมันก็ยืดคอเห่าเสียงดังกระดิกหางไปมาแล้วก็ล้มตัวลงนอนขดดังเดิม ในหมู่คนหลากหลายคงมีสักคราวที่เราถูกคนใจแคบเรี้ยวกราดใส่โดยไม่มีเหตูผลหรือเราอาจโดนใครสักคนจ้องเหยียบย่ำเราทุกวิถีทางเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวเราให้คนอื่นฟังพร้อมทั้งตอกไข่ใส่สีแพรวพราว....... ไม่มีอะไรแม้สักสิ่งสุนัขก็เห่าได้......ไม่มีอะไรสมเหตุสมผลคนพาลก็หยิบยกทำให้เป็บเรื่องเป็นราววุ่นวายได้  พระพุทธเจ้า

ตรัสว่าอย่าหวั่นไหวเสียใจกับการกลั่นแกล้งหรือคำโจมตีเสียดสีมิฉะนั้นเราจะสะเทือนใจไม่จบสิ้นเลิกกังวลกับคนอื่นแล้วความสดชื่นจะเป็นของเรา

...เราจักอดทนต่อคำส่อเสียด     เสียดสีของคนอื่น เหมือนพญาคชสารในสนามรบ ทนลูกศรที่ปล่อยออกไปจากคันธนูเพราะว่าคนโดยมากทุศีล..(พุทธวจนะ)

เกือบถูกน้อคเหมือนน้องปุ่มพอดีมีระฆังช่วยเลยดึงตัวเองขึ้นมาได้

พี่นิดคะ...

ระดับการรู้...มีสามระดับค่ะ..

รู้ตาม

รู้ทัน

รู้เท่าค่ะ...

....

การพัฒนาจิตนั้น...เพียรทำความละเอียดแห่งจิต..เพื่อ รู้ให้ "เท่า"... ในสิ่งที่เกิด ณ ขณะนั้นค่ะ...

หรืออย่างแย่ที่สุด...ขอเพียงให้เกิด "การรู้ตาม"... ในสิ่งที่เกิดแห่งสภาวะภายในของจิต...นี่ก็ถือว่า...ดีค่ะ เดี๋ยว "จิต" เขาจะค่อยๆ พัฒนา... ขึ้นไปเรื่อยๆ ค่ะ

....

ทุกเรื่องราวเป็นเพียง...ป้ายข้างทางที่บอกให้เราผ่านไปให้ได้ค่ะ ชีวิตเรายังเหลืออีกหลายป้ายที่ต้องผ่านไปให้ได้ค่ะ

(^______^)

กะปุ๋ม

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท