AAR การประชุม UKM ครั้งที่ ๕
ท่านที่สนใจที่มาที่ไปของ UKM 5 ให้อ่าน บล็อก ของ อ. หมอ JJ นะครับ ท่านเอารูปจากการประชุมมาลงไว้แล้ว ผมขอลงบันทึก AAR การประชุมตามที่สัญญาไว้ในที่ประชุมตอน ๑๒ น. วันนี้
-
เป้าหมายของผมในการเข้าร่วม UKM 5 คือ ต้องการมาเรียนรู้ว่า UKM ในภาพรวมได้เคลื่อนไปอย่างไรบ้าง เพื่อนำไปปรึกษาหารือกันใน สคส. ว่าในปีที่ ๒ ของ UKM สคส. จะร่วมเป็นพันธมิตรอย่างไร โดยจุดยืนคือ ปีที่ ๒ ต้องไม่เหมือนปีที่ ๑
-
สิ่งที่ได้มากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ คือ (๑) ประทับใจว่า UKM ในภาพรวมมีผลดี มีกิจกรรมเข้มแข็งในมหาวิทยาลัยสมาชิก มีนวัตกรรมของการประยุกต์ใช้ KM เพื่อขับเคลื่อนระบบคุณภาพของมหาวิทยาลัย (๒) ได้เห็นภาพที่เราไม่เห็นทาง บล็อก คือของ มอ. (๓) ประทับใจการประยุกต์ใช้ KM ในการพัฒนาคุณภาพแบบบูรณาการของ มม. (๔) ได้เรียนรู้ว่าการประเมินโดย surveyor ข้ามคณะ ข้ามมหาวิทยาลัย เป็นการ ลปรร. ข้ามสายงาน - หัวใจของ KM (๕) ได้หลักการว่าจะใช้ระบบการประเมินให้เกิดผลดีต้องดำเนินการโดยเอา งานของเรา เป็นตัวตั้ง ไม่ใช่เอาหน่วยประเมิน (กพร., สมศ., ฯลฯ) เป็นตัวตั้ง ดังตัวอย่างของ มอ. ดังได้ลงในบันทึกก่อนหน้านี้
-
สิ่งที่ได้น้อย แต่ก็ไม่ผิดคาด คือการนำเสนอโดยผู้แทนหน่วยงานประเมินส่วนกลาง ไม่ได้นำเสนอว่าควรบูรณาการระบบคุณภาพอย่างไร คือเขาเสนอแบบเอาตัวเขา หน่วยงานเขา เป็นตัวตั้ง ไม่ได้มองหน่วยปฏิบัติเป็นตัวตั้ง นี่คือจุดอ่อนของบ้านเมืองของเรา
-
ข้อเสนอให้ปรับปรุงการจัดการประชุม
-
ถ้ามีการเชิญหน่วยงานภายนอกมานำเสนอ ต้อง organize การนำเสนอให้เป็นแบบ dialogue คือเป็นรูปแบบเสวนาที่มีเป้าหมายเฉพาะ ไม่ใช่การนำเสนอหน่วยงานหรือข้อ กำหนดของหน่วยงาน
-
การควบคุมการประชุมควรควบคุมโดยประธาน หรือหัวหน้าทีม จัดงานโดยตรง ไม่ต้องใช้โฆษกคู่แบบงานพิธีกรรม ซึ่งเน้นรูปแบบ แต่ขาดความคล่องตัว และการสรุปประเด็น ประธาน session ควรเป็นคนที่คล่องตัว มีลูกเล่น สร้างบรรยากาศสบายๆ ของการ ลปรร. โดยอิสระ ไม่เกร็ง ไม่เป็นพิธีรีตองมากเกินไป คือให้ได้ทั้งความรู้ ความสนุกสนานในสาระ ไม่เกร็ง หรือเครียด
-
บางมหาวิทยาลัยมุ่งเอาวิธีการดีๆ ของมหาวิทยาลัยอื่นไปปรับใช้ เท่ากับเน้นการเรียนลัด ซึ่งดี แต่ยังขาดการดำเนินการอีกครึ่งหนึ่ง คือการเสาะหาความรู้ที่มีอยู่ภายในหน่วยงานเอง เอามาใช้ ขยายผล ความรู้ดังกล่าวอยู่ในผลสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ภายในองค์กรเอง ผมสังเกตว่าบางมหาวิทยาลัยยังไม่เข้าใจประเด็นนี้
-
การนำเสนอในส่วนของความคืบหน้า / ผลสำเร็จจิ๋ว ด้านการเงินการคลัง พัสดุ การเจ้าหน้าที่ ยังมีการนำเสนอแบบ “หลงทาง KM” อยู่บ้าง คือนำเสนอแนวคิด ไม่นำเสนอผลสำเร็จ และวิธีการทำงานที่บรรลุผลสำเร็จนั้น นี่คือการติดวิธีคิด / วิธีการแบบเดิมๆ วิธีคิดและวิธีการแบบ KM ต้องแนบแน่นอยู่กับการปฏิบัติ ไม่ใช่แนบแน่นอยู่กับแนวคิด (idea) การนำเสนอที่มีพลัง KM คือการนำเสนอความสำเร็จ / best practice และบอกวิธีการดำเนินการ หรือการกระทำ ไปสู่ความสำเร็จนั้น
ต่อไปนี้เป็นข้อเสนอสำหรับให้ UKM Network นำไปพิจารณา ดำเนินการตามที่เห็นสมควร เป็นการนำเสนอแบบระดมความคิด คือไม่รับรองความเหมาะสมหรือถูกต้อง
-
เสนอให้ดำเนินการพัฒนาระบบประเมินคุณภาพแบบบูรณาการสำหรับมหาวิทยาลัย โดย UKM ดำเนินการร่วมกันกับหน่วยงานประเมิน (สมศ., สกอ., สตง., กพร., กพ.) โดยใช้ KM เป็นเครื่องมือ เอาความสำเร็จดีเด่นขนาดจิ๋ว และขนาดใหญ่ ตามเกณฑ์ของหน่วยงานประเมินออก ลปรร. กัน จัดพื้นที่ ลปรร. และยกระดับความรู้ผ่านการปฏิบัติอย่างอิสระ ทั้งที่เป็นพื้นที่จริง และพื้นที่เสมือน เชื่อมโยงกับเป้าหมายหลักขององค์กร และเชื่อมสู่การพัฒนาเกณฑ์ในการประเมิน, การเรียนรู้ขององค์กรประเมิน, และการบูรณาการรายงานเป็นชุดเดียว
-
เสนอต่อหน่วยงานตรวจสอบประเมิน ให้อาศัย KM Model ข้างบน เป็นเครื่องมือสร้างองค์กรของตนสู่องค์กรเรียนรู้ ไม่ตกหลุมกระบวนทัศน์เชิงอำนาจ “ข้ารู้ดีกว่าใคร”
-
เสนอให้เอาหมวดหมู่ของการประเมินมา จัดการ เชิงบวก ในมหาวิทยาลัย ในเครือข่าย UKM เช่น หมวดการจัดการเรียนรู้ หรือการเรียนการสอน เอา BP (Best Practice) หรือ High Improvement มา ลปรร. กัน เน้นการมีเจตคติเชิงบวก
-
เสนอให้ UKM เชิญหน่วยงานประเมินทุกหน่วยมาร่วมกิจกรรม UKM ทุกครั้ง สร้างความคุ้นเคย ไว้วางใจซึ่งกันและกัน ให้กลายเป็นพันธมิตรเพื่อการเรียนรู้ โดยจัดการประชุมให้ประทับใจ ให้รู้สึกว่าไม่มาร่วมจะขาดโอกาส
-
เสนอให้จัด นศ. ป. เอก – โท ทำวิทยานิพนธ์ ระบบประกันคุณภาพเชิงบูรณาการที่ได้ผลดีและเรียบง่าย เชิญคนของหน่วยประเมินมาร่วมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาหรือผู้สอบ ยิ่งทำเป็นเครือข่ายระหว่างมหาวิทยาลัยจะยิ่งดี
-
เสนอให้มี Taskforce ร่วมในการพัฒนารูปแบบการบูรณาการข้อมูลสำหรับการประเมินโดยใช้ ICT และประยุกต์ PlanetMatter & FeedSpring
-
เสนอให้ปีหน้ามีหัวข้อประชุม ลปรร. วิธีการขับเคลื่อน KM ในมหาวิทยาลัย - การบริหารระบบ KM โดยทำแบบที่ รศ. ดร. อนุชาติ พวงสำลี เสนอในที่ประชุมธุรการ คือแต่ละมหาวิทยาลัยคัดเลือก CoP เด่นมานำเสนอ 2 CoP คือ (1) CoP ที่มีผลงาน (หมายถึงผลกระทบของงาน) เด่น (2) CoP ที่มีปฏิสัมพันธ์ภายในกลุ่มเด่น หรือ CoP ที่เพิ่งก่อตัว แต่มีเค้าว่าจะก่อผลกระทบสูง ให้มานำเสนอผลงานและกิจกรรม โดยแต่ละมหาวิทยาลัยจัดให้คนนอก CoP ไปศึกษาปัจจัยของความสำเร็จของ CoP นั้นมานำเสนอเป็นการตีความ KM Process รายละเอียดของประเด็นวิเคราะห์เจาะลึก CoP นั้น ได้ตกลงกันว่า ดร. อนุชาติ จะเข้ามาให้ข้อคิดเห็นต่อท้ายบันทึกนี้
-
เสนอให้พิจารณาจัด มหกรรม KM : University Best Practices โดย UKM Network จัดเอง หรือจัดใน University Fair นำเสนอ Best Practice (ในการทำงาน) และบอกว่ามีวิธีการบรรลุ BP นั้นอย่างไร ถ้าจัดเองอาจเชิญ สอศ. เข้าร่วมเสนอผลงานด้วย
-
เสนอให้ในการประชุมแต่ละครั้งมีการเตรียมการเพื่อให้ F2F Contact มีประสิทธิภาพสูง โดย (๑) ส่งเอกสาร, Ppt ที่จะนำเสนอแก่สมาชิกล่วงหน้าทาง อี-เมล์ (๒) แต่ละมหาวิทยาลัยสรุปกิจกรรม KM ของตนเป็นเอกสารแจก ถ้าแจกล่วงหน้าทาง อี-เมล์ ได้จะยิ่งดี เน้นการนำเสนอ Best Practice in KM (เรื่องราวของความสำเร็จจิ๋วของการทำ KM) และบอกว่า BP นั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
-
ผมเป็นห่วงว่า การที่ มรภ. เข้ามาเป็นสมาชิกเครือข่ายนี้ จะทำให้ มรภ. เข้ามาเลียนหรือลอกแบบมหาวิทยาลัยอื่นๆ เอาไปใช้ จนเอกลักษณ์ดีๆ ที่มีอยู่ใน มรภ. เลือนไป คงต้องย้ำกับผู้บริหารของ มรภ. ว่าผู้ที่เข้ามาร่วม UKM ต้องร่วมอย่างมีสติ ต้องอย่าเชื่อง่ายๆ ว่าวิธีการที่ดีต่อมหาวิทยาลัยอื่น จะดีต่อ มรภ. การ ลปรร. กัน ต้องอย่าอยู่บนฐานของการเชื่อตามกัน ทำตามกัน หรือตามแห่ ต้องอยู่บนฐานของการเรียนรู้อย่างมีปัญญา และมี สติ
-
ผมกลับมาคิดไตร่ตรองต่อ ว่าการมี มรม. (มหาวิทยาลัยราชมงคล) และ มรภ. อีกหลายๆ แห่งเข้ามาเป็นสมาชิก UKM จะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง ผมชักเกรงว่าผลดีจะน้อยกว่าผลเสีย จึงขอเสนอให้ที่ประชุม Business Meeting ลองหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นหารือให้ถ่องแท้ ผมเริ่มมีแนวคิดว่าเครือข่ายหนึ่งน่าจะต้องมีสมาชิกที่ไม่มากนัก และไม่หลากหลายในเชิงเป้าหมายและวัฒนธรรมเกินไป มิฉะนั้นพลังของการ ลปรร. ในลักษณะเท่าเทียมกัน จะสูญไป ผมสังเกตว่าในการประชุม UKM 5 นี้ แนวคิดเชิง “น้องใหม่มาขอเรียนรู้” ชักจะชัดขึ้น ซึ่งผมสงสัยว่าอาจเป็นสัญญาณอันตราย ผมเริ่มคิดว่าน่าจะมีเครือข่าย KM มรภ. (ที่จริงมีแล้ว แต่ไม่เห็นสภาพความเป็นเครือข่าย) และมีเครือข่าย KM มรม. โดย สคส. อาจให้ความร่วมมือในรูปแบบที่แตกต่างกัน
-
จะกลับไปทำอะไร (๑) สคส. จะไปปรึกษากันว่าจะสนับสนุน UKM ในรูปแบบใดบ้างสำหรับ ปีที่ ๒ และยินดี dialogue กับทีมร่วมประสานงาน UKM (๒) ที่แน่ๆ จะส่งเสริมทีมงาน GotoKnow.org ให้ทำงานที่ตนใฝ่ฝันต่อ และจะเป็นเครื่องมือให้ UKM นำไปใช้งาน (๓) ถ้าจะมี นศ. ป. เอก – โท (และอาจารย์ที่ปรึกษา) ที่มีคุณภาพ ทำวิทยานิพนธ์ ศึกษาขบวนการ (และกระบวนการ) KM ของมหาวิทยาลัย สคส. ยินดีพูดคุยเพื่อให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการทำวิทยานิพนธ์เป็นรายๆ ไป (๔) คุณเนาวนิตย์ ทฤษฎิคุณ แนะให้ สคส. จัดผู้ทรงคุณวุฒิด้าน KM ภายนอกมาร่วมสังเกตการณ์การประชุม และสะท้อนภาพการ ลปรร. / ระบบ KM เพื่อนำไปสู่การพัฒนา KM ของ สมาชิก UKM ต่อไป
วิจารณ์ พานิช
๗ มค. ๔๙
บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย Prof. Vicharn Panich ใน KMI Thailand
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก