ประสบการณ์จัดอบรมนพลักษณ์ 2 : ผู้เข้าร่วมทุกคนคือ ครู
ขอกระโดดกลับมาหัวข้อ "ประสบการณ์การจัดอบรมนพลักษณ์" บ้าง
คิดว่าจะเขียนสลับไปมา ระหว่างหัวข้อข้างบน กับหัวข้อ "ประสบการณ์ตกหลุมรักนพลักษณ์" นึกอะไรออกก็เขียนเรื่องนั้น... นี่เป็นแบบฝึกหัดเล็กๆ ที่คนลักษณ์ห้า อย่างดิฉันจะฝึกทำ คือ ไม่ต้องมีระบบ หรือ มีตรรกะ มันทุกเรื่องในชีวิตก็ได้ .... เพราะมันช่าง "แห้งแล้ง" เสียเหลือเกินในทัศนะของคนลักษณ์อื่นๆ 5555 (การคิดอย่างเป็นระบบ และมีตรรกะ เป็นเรื่องดี แต่อะไรที่มันมากเกินไป มันก็ไม่พอดีจ้า)
หลายท่านคง "งง" ว่า อ้าว... เป็นกระบวนกรแล้วตัวเองยังต้องฝึกอีกหรือ
บอกได้เลยค่ะว่า ยิ่งเป็นกระบวนกร หรือวิทยากร ก็ยิ่งต้องพัฒนาตัวเอง ทดลองกับตัวเองให้เห็นผล ก่อนที่จะบอกเล่า หรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้กับบุคคลอื่นได้ ถึงข้อดี ข้อเสีย ของการศึกษา "นพลักษณ์"
ท่านสันติกโร ผู้นำศาสตร์นี้มาเผยแพร่ในเมืองไทย บอกเราอยู่เสมอว่า หากเราขาดการฝึกฝนในการ "ดูตัวเอง" แล้ว เราก็ไม่สมควรที่จะไปบอกใครให้เขา "ดูตัวเอง"
ทั้งนี้เนื่องจาก "นพลักษณ์" เป็นเรื่องราวของกลไกการทำงานทางจิต ของคน 9 แบบ ที่เมื่อศึกษาแล้ว เหมือนเราได้เปิดโลก เห็นแผนที่ของชีวิตของเราเอง เพื่อที่จะเข้าใจว่า "ตัวตน" ที่เราสร้างขึ้นมาจากการทำงานทางจิตของเราเองเป็นอย่างไร มีทิศทางการแสดงออกมาเป็นพฤติกรรม และบุคลิกภาพอย่างไร
ดั้งนั้น ในกระบวนการฝึกอบรมนพลักษณ์ในขั้นต้น ก็คือ การออกแบบกิจกรรม ให้ผู้เข้ารับการอบรม "ดูตัวเอง" หรือ "หาตัวเอง" ให้เจอ ว่าที่ผ่านมาตนเอง สร้างอัตลักษณ์ขึ้นมาด้วยวิธี หรือ กลไกทางจิตเยี่ยงไร
ก็กลับมาสู่โจทย์เดิม ถ้ากระบวนกรหาวิธีการตอบโจทย์ตัวเองยังไม่ออก แล้วจะไปบอกให้ใครเขาไขโจทย์ หรือแนะทางให้คนอื่นได้เยี่ยงไร ... อะไรประมาณนี้แหละ
อ้า... มาถึงจุดสำคัญ ...
บางคนเรียนรู้นพลักษณ์ อ่านแผนที่คนทั้ง 9 ลักษณ์ แล้วคิดว่าตัวเองแน่....
บอกตัวเองว่า ฉันรู้กลไกของคนทั้ง 9 ลักษณ์แล้ว ...
เราจึงมักเห็นการออกอาการ ตั้งตัวเป็นคนสอนเรื่องนพลักษณ์ ....... ในคนประเภทนี้ เรามักจะเห็นบุคลิภาพหนึ่งที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า "นกแก้ว นกขุนทอง" คือ พูดถึงคนลักษณ์อื่นๆ แบบท่องจำ ว่าเป็นเช่นนั้น เป็นเช่นนี้ แจ้ว แจ้ว เรื่อยเจื้อย
หรือบางรายหนักข้อกว่านั้น เมื่อผู้เข้าร่วมพูดอะไร ก็บอกว่า ไม่ใช่ ลักษณ์ .. จะเป็นอย่างนี้ อย่างนั้น .. ทั้งๆ ที่เจ้าตัวกำลังจะบอกอยู่ว่าตัวเขาเองเป็นอย่างไรในฐานะคนลักษณ์นั้นๆ แต่วิทยากรทำเป็นคนรู้ดี ตอบแทนเขาว่า "ไม่ใช่" .. ดิฉันมักแอบขำ ... เออวิทยากรทำตัวรู้ดีว่าเจ้าตัวเสียอีก 555
ที่เล่ามา ก็เพียงจะบอกว่า ทุกครั้งที่ทำกระบวนการอบรมนพลักษณ์ ดิฉันได้ครูเพิ่มขึ้นทุกครั้ง ..... เนื่องจากฐานคิดของดิฉันแตกต่างจากวิทยากรที่เล่ามาข้างบน
เพราะดิฉันได้รับการสั่งสอนจากครูนพลักษณ์ของดิฉัน คือ แพทย์หญิงจันทร์เพ็ญ ชูประภาวรรณ นายกสมาคมนพลักษณ์ไทย ย้ำอยู่เสมอว่า "มีแต่เจ้าตัวเท่านั้นที่รู้เรื่องของตนเองดีที่สุด"
"เราต้องเคารพผู้เข้าร่วมในฐานะเจ้าของลักษณ์ของเขา ตัวจริง เสียงจริง ทฤษฏีต่างๆ ก็เพียงเครื่องมือช่วยให้เข้าใจเท่านั้น แต่ไม่ลึกซื้งเท่าตัวตนจริงๆ มานั่งบอกเล่าให้เราฟัง"
หรือในทางเทคนิค เราเรียกว่า ต้องเคารพ subject และเคารพเรื่องที่เขาเล่า
แล้วดิฉันก็พบว่า ผู้เข้ารับการอบรมทุกคนเป็น "ครูนพลักษณ์" ของดิฉันทุกคน แล้วก็พบความมหัศจรรย์ใน "คน" ทุกครั้งของการอบรม
เพราะเพียงแต่เราฟังเรื่องที่เขาเล่า และถามคำถามช่วยให้เขาคิด ถึงเบื้องหลังพฤติกรรมของเขาเหล่านั้น เราก็จะเห็นกลไกการทำงานทางจิตของคนแต่ละลักษณ์ที่มันทำงานอย่างมหัศจรรย์พันลึก ออกมาเป็นพฤติกรรมซึ่งอาจจะซ้ำๆ กัน หรือบางคนไม่ซ้ำกับใคร ...จุดนี้เองที่แตกต่าง เพราะบางคนที่ไม่ซ้ำ นี่สิ . เป็นเสน่ห์ ..... ทำให้เราเห็นอานุภาพของการดินรนของจิตของคนแต่ละลักษณ์ว่า จะแผลงฤทธิ์ออกมาแบบไหน แบบไหน ได้บ้าง ....
เพราะถ้าเราเข้าใจคนตามรูปแบบพฤติกรรม พอกลไกทางจิตของบางคนแผลงฤทธิ์แบบที่เราไม่เคยเห็นทำให้เราปฏิเสธ ซึ่งเท่ากับเราไม่ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆเลย เราขังตัวเองไว้กับความรู้แคบๆ ที่เราเคยรับรู้เท่านั้น แล้วยังทำตัวเป็นคนรู้ดีกว่าเจ้าของเรื่องเสียอีก อย่างนี้แหละ นกแก้ว นกขุนทอง
ทุกครั้งของการอบรม ผู้เข้าร่วมมักเข้ามาไหว้ขอบคุณดิฉัน (หลายท่านอาวุโสกว่าดิฉันมาก) ดิฉันก็ได้แต่บอกว่า ดิฉันไม่ได้ทำอะไรเลย การที่แต่ละท่านตั้งใจในกระบวนการ "ปอกชั้นหัวหอม" ของแต่ละท่านเองต่างหาก ที่ช่วยท่านค้นพบความเป็นจริง เกี่ยวกับตัวเอง
ดิฉันเป็นแค่ "คุณนายเอื้อ" เท่านั้น
ดิฉันเองต่างหาก ที่ต้องขอบคุณท่านทั้งหลายที่เสียสตางค์เข้าอบรม และยังช่วยให้ดิฉันเข้าใจ "คน" มากขึ้นๆๆๆ (สนองกิเลส เรื่องความโลภของดิฉันเสียด้วย)
ความเห็น (2)
เป็นสุดยอดคุณครูอย่างแท้จริงเลยครับอาจารย์
การอบรมในองค์กรนี่ต้องใช้งบประมาณเยอะหรือเปล่าครับ
อย่างเช่นที่ รพ ปายครับ
ขอบคุณครับ
คะ