ครม.เห็นชอบร่างพ.ร.บ.ระเบียบ กพ.ยกเลิกซี นายดนุพร ปุณณกันต์
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
เรื่องของการร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน ซึ่ง
ครม.ได้พิจารณาร่างดังกล่าวตามที่สำนักงาน
ก.พ.เสนอแล้วมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองคณะที่ 7
หรือฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมี นายวิษณุ รองนายกฯเป็นประธาน
แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้แต่งตั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษพิจารณา
แล้วให้รับความเห็นของคณะทำงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง ก.พ.ร.
ครม.ไปประกอบการพิจารณาด้วย
ซึ่งร่างของพระราชบัญญัติดังกล่าวมีสาระสำคัญดังนี้
ข้อ 1
กำหนดอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน
และสำนักงานข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ.
มิให้ซ้ำซ้อนกับอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ หรือ ก.พ.ร.
และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ
ข้อ 2
ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมขึ้น หรือ ก.พ.ค.
เป็นองค์กรคู่กับ ก.พ. ทำหน้าที่ตรวจสอบดูแลการบริหารทรัพยากรบุคคลของ
ก.พ. และให้ส่วนราชการและผู้บังคับบัญชาเป็นไปตามระบบคุณธรรม
ก็คือต่อไปนี้ ก.พ.จะดูแลในเรื่องของยุทธศาสตร์ ส่วน
ก.พ.ค.ก็จะทำหน้าที่เรื่องการรับเรื่องราวร้องทุกข์
ข้อ 3
เพิ่มประเภทข้าราชการพลเรือนวิสามัญ
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความคล่องตัวในการสรรหาบุคคลที่ไม่เคยดำรงตำแหน่งข้าราชการพลเรือนมาทำหน้าที่เป็นผู้บริหารระดับสูง
ข้อ 4
มีการปรับปรุงระบบตำแหน่งและประเภทตำแหน่งของข้าราชการพลเรือนสามัญให้เหมาะสมกับลักษณะของงานเพื่อจ่ายค่าตอบแทนที่เป็นธรรม
พูดง่ายๆ จะมีการยกเลิกระบบซี โดยจะมีการแบ่งเป็น 4 กลุ่ม กลุ่มแรก
บริหาร กลุ่มสอง อำนวยการ กลุ่มสาม บริการ กลุ่มสี่ ทั่วไป
โดยสาเหตุที่มีการยกเลิกระบบซีเพราะว่า
สมมติว่ามีแพทย์ที่รับราชการได้ซี 4
ปรากฏว่าเงินเดือนของผู้ที่ดำรงตำแหน่งแพทย์ในซี 4 นั้น
มีเงินเดือนเท่ากับข้าราชการ ซึ่งมีหน้าที่เป็นพิมพ์ดีด เพราะซี 4
เช่นเดียวกัน
เพราะอาจทำให้เกิดบุคลากรนั้นอาจจะลาออกไปสู่โรงพยาบาลเอกชนได้
จึงมีการปรับระบบใหม่ ซึ่งต้องยอมรับว่าการปรับแบบนี้ต้องใช้เวลา
เราเคยมีการปรับแบบนี้มาแล้วหนหนึ่งเมื่อปี 2518
สมัยนั้นมีการปรับระบบราชการจากชั้นตรี โท เอก ให้เป็นระบบซี
เพราะฉะนั้นในการพิจารณาเรื่องนี้จะได้มีการกำหนดระยะเวลาในการที่จะยกเลิกซีแล้วนำบุคคลที่รับราชการต่างๆ
นั้นไปบรรจุตาม 4 หมวดที่เรียนไปแล้ว
ซึ่งคงต้องไปนั่งพูดคุยกันว่าระยะเวลาเท่าไหร่ถึงเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม
ข้อ 5
ให้มีกระบวนการสรรหาบุคคลในระบบเปิด
เพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ
และเพื่อแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งในบางกรณี
ลำดับที่ 6
มีการกระจายอำนาจบริหารทรัพยากรบุคคลให้ส่วนราชการเจ้าสังกัดดำเนินการมากยิ่งขึ้น
ลำดับที่ 7 ให้ปรับปรุงระบบวินัย อุทธรณ์ และร้องทุกข์
โดยเพิ่มประสิทธิภาพและการบริหารจัดการเรื่องวินัย การกระจายอำนาจให้
อกพ. กระทรวง และปรับปรุงกระบวนการดำเนินการทางวินัยให้มีประสิทธิภาพ
และรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นี่เป็นเรื่องของการร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
ไม่มีความเห็น